สวนป่า น่าลองน่าเรียนรู้

โดย silt เมื่อ 13 เมษายน 2012 เวลา 5:16 (เย็น) ในหมวดหมู่ ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 1822

 

มีอะไรน่าทำ มีอะไรให้ทำอีกเยอะมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆที่สวนป่า

เป็นข้อสรุปที่แทบไม่ต้องใช้เวลาไตร่ตรอง ฟันธงได้ตั้งแต่ก้าวลงจากรถเดินได้เพียงสามก้าว

นั่นเป็นเพราะหมากผลที่เกิดจากการลงแรงของพ่อครูบามากว่าหลายสิบปี ที่ท่านได้พลิกฟื้นจากผืนดินที่เสื่อมโทรมแปนเอิดเติด จนกลับกลายมาเป็นป่าดกรกครื้มป่าไม้ดงหนา

ผมไม่รู้จักต้นไม้มากชนิดนัก จึงไม่อาจพรรณนาจารนัยชนิดของไม้ป่าที่มีอยู่ในสวนป่าได้ แต่เท่าที่ได้เห็นพุ่มหวายที่ขึ้นเป็นไม้พื้นล่างแตกกออยู่ทั่วไปตามโคนต้นไม้ใหญ่ เท่านี้ก็เป็นดัชนีชี้วัดถึงความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่า

ชีวนานาพันธุ์ หรือที่บ้านเราเรียกกันว่าความหลากหลายทางชีวภาพในสวนป่า ปรากฏกายให้เห็นตั้งแต่ปากทางเข้าสวน ผมเห็นเจ้านกหัวขวานตัวงามเดินเล่นบนทางอย่างอ้อยอิ่งจนกระทั่งรถแล่นเข้าใกล้จึงค่อยโผบินขึ้นบนคบไม้

เห็ดป่า จำพวกเห็ดละโงก เห็ดโคน ก็ได้รับคำบอกเล่าว่า บรรดาลุงป้าที่ช่วยงานในสวนป่าเก็บไปขายได้ปีละหลายหมื่นทีเดียว อีกทั้งพี่น้องชาวบ้านใกล้ก็พากันยกโขยงมาเก็บเห็ดไปใส่หม้อแกง  นี่ก็เป็นอีกหนึ่งดัชนีบ่งชี้ถึงการพึ่งพาเกื้อกูลกันของเจ้าเชื้อเห็ดกับรากต้นไม้ถึงได้เกิดดอกเห็ดมาเลี้ยงดูให้ผู้คนได้อิ่มท้อง

หลังจากได้เดินลัดเลาะชมสวนป่า ผ่านดงต้นลำดวน ผ่าน”ร่องน้ำ”เล็กๆขนาดคูเมืองโบราณที่ครูบาท่านบัญชาการให้ขุดเตรียมดักน้ำฝน ไปหาแปลงปลูกต้นเอกมหาชัย ไปดูน้าอามสับใบไม้เลี้ยงวัวที่คอก แล้วไปยืนเง้ออยู่ริมรั้วตรงที่เลี้ยงแพะในป่า(ตามที่ฝรั่งตั้งชื่อไว้ว่า เป็นวนเกษตรแบบ silvopasture)  และได้ร่วมวงสนทนากับหลายท่านแล้ว

ผมตระหนักได้ว่าว่าสวนป่า มีหลายอย่างให้เรียนรู้อีกมากมาย สวนป่าสามารถเป็นโรงเรียน เป็นวิทยาลัย เป็นมหาชีวาลัยให้กับคนใผ่รู้ได้มากมายหลายเรื่องราว สมกับที่พ่อครูเรียกว่า เป็นยาขมหม้อใหญ่

นั่นเป็นเพราะ ต้นทุนที่เกิดจากที่พ่อครูได้ตระเตรียมลงแรงลงทุนไว้

ลองมาไล่เรียง ถึงต้นทุนที่มีอยู่ในสวนป่า ว่าจะสามารถต่อยอดถอดบทเรียนมาเป็นองค์ความรู้ในทางใดได้บ้าง เป็นแนวคิดที่ตั้งอยู่บนข้อแม้ว่า ต้องไม่รบกวนวิถีของสวนป่า หรือแนวคิดในการพึ่งพาตัวเองแบบพอเพียงยั่งยืน ต้องไม่ทำให้สมดุลและสภาพความสมบูรณ์ของธรรมชาติเสื่อมถอยตามคอนเซปท์ permaculture  ของท่านผู้ก่อตั้งหมู่บ้านโลก

  • ขี้วัว เอามาทำบ่อหมักแก๊สชีวภาพไว้ต้มหุง คนที่สร้างบ่อเป็นนั้นมีแล้ว ถามพี่บางทรายได้ กากที่ได้จากบ่อหมัก (Sludge) สามารถเป็นปุ๋ยได้โดยที่ประสิทธิภาพในการบำรุงดินไม่ได้ลดลงเลย งานนี้ผมทำวิจัยมากับมือตั้งแต่สมัยเรียนหนังสือที่โรงเรียนเกษตรมอชอ
  • ผักป่าหลายชนิดที่เฝ้าเสาะหามานานปีตั้งแต่สมัยที่อยู่กับพี่น้องโส้ดงหลวง จนมาขายความคิดไว้กับพี่น้องหงสา เกี่ยวกับการทำผงนัวจากใบผักธรรมชาติ พี่น้องหลายกลุ่มที่สนใจอยากทำ แต่ก็ติดอยู่ที่ขาดผักชนิดนั้นบ้างชนิดนี้บ้าง ก็เลยไม่สำเร็จสักที แต่ที่สวนป่านี่ผมเดินเลาะดูแล้ว หากคิดจะชวนป้าสอนกับแม่หวีลงมือทำผงนัวแค่ถือตะกร้าเดินผ่านสวนป่าก็ได้ผักแทบทุกชนิดมาเฮดผงนัวได้ทันที ตัวอย่างผักที่จะใช้ผลิตผงนัว เช่น ผักกานตง ส้มพอดีหรือใบชะมวง ผักหวานบ้าน ใบบักเขียบ ใบหม่อน ผักโขม บักอึ ผักแป้น ยอดมะรุม ยอดมะขาม ใบหม่อน และอีกหลายๆผัก
  • นั่งเล่นที่ลานไผ่ ต้นสะเดาที่ถือเป็นพี่ใหญ่แห่งบรรดามวลต้นไม้ในสวนป่า ทยอยทิ้งผลสุกสีเหลืองแกมเขียวลงมาเกลื่อนพื้น หวนนึกถึงตอนที่ชวนพี่น้องปลูกผักปลอดสารเคมี สมัยนั้นหาเมล็ดสะเดามาทำสารไล่แมลงหายากหาเย็น บางครั้งต้องไปซื้อที่เขาทำใส่ขวดแปะสลากสวยๆตีตรายี่ห้อขายลิตรหนึ่งตั้งหลายร้อยบาท ที่สวนป่ามีเมล็ดสะเดาปีหนึ่งๆร่วมตัน น่าคิด อีกทั้งบริเวณข้างเรือนนอนมีต้นมะเดื่อออกลูกเต็มต้นน่าเอามาลองวิชาหมักทำฮอร์โมนไว้ใช้บำรุงผลน้ำเต้าเผื่อจะลูกโตเท่ากระบุง
  • ต้นเอกมหาชัยโตวันโตคืน อีกไม่กี่ปีน่าจะติดดอกออกผล ว่ากันว่าเมล็ดเอามาสกัดน้ำมันได้คุณภาพสูงทัดเทียมกับน้ำมันมะกอกทีเดียว อยากเห็นอยากสกัดอยากชิมน้ำมันเพื่อสุขภาพจากต้นเอกมหาชัย
  • ย้อนกลับมาที่คอกวัวที่อ้วนพีดีงามด้วยใบไม้สับฝีมือน้าอามด้วยสูตรที่พ่อครูได้ริเริ่มมาจนเห็นผลเชิงประจักษ์ เรื่องนี้ผมเอาไปโฆษณาที่ไหนใครได้ยินเข้าก็ตาโต ท่านเจ้าเมืองถึงกับออกปากว่าจะเชิญให้ท่านมาสอนคนที่นี่ แต่ผมเรียนท่านไปแล้วว่าอยากรู้ก็ต้องไปดูเอง อยากจะมีการถอดบทเรียน มีคนไปตามน้าอามช่วยน้าอามแล้วจดบันทึกไว้ว่าวันๆน้าอามไปตัดใบอะไรมาสับให้วัวกินบ้าง ฤดูไหนกินใบอะไร แล้วจัดเป็นชุดความรู้ไว้ให้ลูกหลานที่สนใจเข้ามาศึกษาเรียนรู้ ผลลัพธ์ทางอ้อมบ้านเราจะมีคนปลูกต้นไม้เพิ่มขึ้นอีกมีมากก็น้อย
  • พ่อครูคุยเรื่องปลูกถั่วลิสงที่โคนต้นอินทผาลัม ผมเคยเห็นดินในเขตเงาฝนหลังดอยอินทนนท์ ที่ห้วยทรายขาว จอมทอง ที่ผมเคยไปฝึกงานสมัยโน้น ก็ไม่ได้ดีไปกว่าที่สวนป่า แถมฝนก็ตกน้อยเพราะเป็นเขตเงาฝน แต่จำได้ว่าเขาปลูกถั่วลิสงได้ดีพอสมควร จึงน่าจะลองปลูกที่สวนป่าได้หากเลือกช่วงเวลาให้เหมาะสมกับช่วงฝนตก
  • แม่หวีบอกว่าปีหน้าจะลงต้นบุกให้เยอะๆ ผมว่าก็น่าคิดถึงการแปรรูปหัวบุก ตามที่เคยกินมังสวิรัติเป็นพักๆ เข้าไปมุมอาหารเจบ่อยๆ เห็นเขาทำอาหารกึ่งสำเร็จ หรือเส้นกว๋ยเตี๋ยวจากผงบุกซื้อมาราคาไม่ใช่ถูกๆ กินบุกแล้วดีมีประโยชน์ช่วยทำความสะอาดลำไส้ ลดน้ำตาลในเลือด ลดไขมันในเลือด อาหารควบคุมน้ำหนักหลายชนิดผลิตจากแป้งหัวบุก ครูปูจะผอมก็คราวนี้แหละ
  • หมากหวด ผลไม้ป่าเมื่อปีกลายสวนป่าเก็บได้หลายร้อยกิโล ทำเป็นน้ำเชื่อมน้ำหวานน้ำไวน์ทำแยมกันไม่หวาดไม่ไหว หากปีนี้ติดผลดกอีก ผมว่าลองติดต่อกับเครือข่ายพี่น้องผมแถวๆภูพานที่ทำน้ำเม่าไวน์หมากเม่าหลวงจนได้ได้เสริฟบนโต๊ะอาหารคราวที่ผู้นำนานาชาติมาประชุมบ้านเรา ตอนนี้ได้ข่าวว่ามีการพัฒนาเป็นน้ำสกัดเข้มข้นเหมือนที่ขายในห้างอีกด้วย ย้อนกลับมาที่หมากหวดสวนป่า สามารถต้มเคี่ยวใส่ถังน้ำดื่มไปใช้บริการเครื่องของเขาในราคามิตรภาพ เราก็จะได้น้ำหมากหวดบรรจุขวดเล็กเก็บไว้ได้นานค่อนปีโดยไม่ต้องแช่ตู้เย็น
  • ส่วนเรื่องแพะที่เลี้ยงแบบล้อมรั้วให้อยู่ในป่านั้น เคยเห็นสวนอ้ายศรีทะนงที่วังเวียง เพิ่นเลี้ยงแพะนม หากมีโอกาสน่าจะลองเปลี่ยนแพะที่สวนป่ามาเป็นแพะนมบ้าง หากได้ผลดีจะได้เผยแพร่แบ่งปันลูกแพะให้พี่น้องบ้านใกล้เรือนเคียงเอาไปเลี้ยงเด็กจะได้กินนม ที่สวนอ้ายศรีเพิ่นปั่นเนยจากนมแพะด้วยครับ นมแพะดี ลูกแมวกำพร้าตัวเล็กๆ หากเลี้ยงด้วยนมแพะละก็รอดทุกตัว
  • เกือบลืม แผนหลอกเห็ดละโงกสวนป่า ผมว่าลมฟ้าอากาศเดี๋ยวนี้มักจะแปรปรวนไม่ต้องตามฤดูกาล ตอนที่ไปแวะตลาดสะตึกเห็นเห็ดละโงกวางขาย นึกเอะใจว่านี้เราหลงลืมฤดูเห็ดไปแล้วหรือ สมัยก่อนต้องช่วงต้นฝนจะได้กินเห็ดเผาะก่อน หลังจากนั้นช่วงกลางพรรษาถึงจะได้กินเห็ดใบ คุยกับพ่อครูว่าเห็ดเดี๋ยวนี้ก็ออกผิดฤดู กระไหนเลยเรามาหลอกเห็ดกันดีกว่า เห็ดนางฟ้าที่เพาะในโรงเรือนยังหลอกมาแล้วเห็ดที่สวนป่าจะซักเท่าไหร่เชียว หากทำเห็ดละโงกออกนอกฤดูได้ละก็ น่าคิด น่าคิด

 

ไอ้กระผมก็เป็นซะอย่างงี้แหละครับ ทำงานพัฒนาอาชีพให้พี่น้องมาจนเสพติดเข้าไปในกระแสเลือด หายใจเข้าออกก็มีแต่แผน วาดฝันไปเรื่อยๆ บอกคนโน้นแนะนำคนนี้ (แต่ไม่เคยลงมือทำกิจการของตัวเองจริงๆจังๆสักที)ได้ผลบ้างเหลวบ้าง ดีที่สังคมไทยสังคมลาว มีความเกรงใจกันสูง หากอันไหนได้ผลพี่น้องก็ชื่นชมยกย่อง หากอันไหนไม่เป็นท่าพี่น้องก็แค่ไม่ทำต่อ จึงทำให้ย่ามใจคิดการใหญ่สร้างฝันไว้ที่สวนป่า ที่ไปที่มาจึงมีด้วยประการฉะนี้

หมู่บ้านโลกกดปุ่มเดินหน้า หากโครงฝันที่วาดไว้ข้างบนสามารถเสริมกับแนวทางของหมู่บ้านโลก ซึ่งยึดหลัก “permaculture และหาทางคืนอะไรให้สังคมบ้าง”

ก็คงจะดีมิใช่น้อย      

« « Prev : พืชต่างถิ่น

Next : ซะป๊ะแมง » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

6 ความคิดเห็น

  • #1 จอมป่วน ให้ความคิดเห็นเมื่อ 13 เมษายน 2012 เวลา 6:05 (เย็น)

    คนบางคนวันๆนึงไม่รู้ว่าจะทำอะไรดี
    คนบางคนมีอะไรให้ทำ ยุ่งทั้งวัน ทุกวัน
    ไม่นับทำแล้วเกิดประโยชน์กับใครบ้าง อิอิ

  • #2 krupu ให้ความคิดเห็นเมื่อ 13 เมษายน 2012 เวลา 6:18 (เย็น)

    โอย อยากจะกรี๊ด…ให้สมกับที่รอคอย ตั้งแต่เจออาเปลี่ยนเที่ยวนี้ก็เห็นไอเดียการทำประโยชน์จากผลหมากรากไม้ในสวนป่าเพียบ ขนาดคิดจะจดยังจดไม่ทันเลยอะค่ะ ยัง อรยนท. กันอยู่ว่าถ้าหมู่บ้านโลกมีวาสนาได้อาเปลี่ยนมาปลีกวิเวกเป็นระยะ ๆ พวกเราคงได้ความรู้เรื่องการพัฒนาผลิตภัณฑ์กันมันแน่ ๆ โดยเฉพาะแม่หวีจะได้มีที่ปรึกษากิตติมศักดิ์เสียที ครูปูอาสาเป็นแรงงานราคาถูกด้วยคนนะคะ เพราะแทบจะไม่มีความรู้รู้เรื่องต้นไม้เลยก็ว่าได้ค่ะ แหะ แหะ แถมไม่ได้น่ากลัวขนาดอาเปลี่ยนต้องยกกระต๊อบหนีหรอกนะคะ 555 เรื่องพื้นที่ความเป็นส่วนตัวของแต่ละท่านก็อยู่ในแผนการจัดการอยู่แล้วค่ะ ขอบพระคุณสำหรับความรู้ที่นำมาแบ่งปันนะคะ ปลายเดือนวางแผนไว้แล้วว่าจะไปช่วยต้อนรับเจ้าเมืองด้วยคนค่ะ ดูแลสุขภาพโตยเน่อ ^^

  • #3 handyman ให้ความคิดเห็นเมื่อ 13 เมษายน 2012 เวลา 6:47 (เย็น)

    เห็นเป็นทางไปเลยครับ ความรู้มากมายรออยู่ที่สวนป่า ทั้งที่จะมาเริ่มเรียนรู้ จะต่อยอดความรู้ความคิด หรือตั้งวงเสวนาแลกเปลี่ยนกันแล้วลองทำ .. หาช่องว่างให้ความเหงาได้ยากยิ่งนัก

  • #4 dd_l ให้ความคิดเห็นเมื่อ 13 เมษายน 2012 เวลา 7:28 (เย็น)

    วันนี้ไปจ่ายกาด เห็นเปิ้นขายเห็ดถอบ แว่วๆว่ากึ่งลิตรสองร้อยห้าสิบบาท. เพิ่งเคยเห็นคนขายเห็ดถอบกลางเดือนเมษาเนี่ยเจ้า

  • #5 bangsai ให้ความคิดเห็นเมื่อ 13 เมษายน 2012 เวลา 10:01 (เย็น)

    กรุแตกแล้ว อิอิ อิอิ

  • #6 Logos ให้ความคิดเห็นเมื่อ 14 เมษายน 2012 เวลา 12:09 (เช้า)

    ในมุมหนึ่ง หมู่บ้านโลกคล้ายกับเป็นซับแบรนด์ของมหาชีวาลัยอีสาน จะทำอะไรก็เสนอ+ปรึกษาหารือแล้วให้ท่านเจ้าป่ากดปุ่ม ส่วนใครทำอะไรไม่สำคัญเท่ากับผู้มาเรียนได้อะไรและสวนป่ามีอะไรให้ดูหรอกครับ เป็นที่ที่แสดงให้เห็นว่าเมื่อเอาวิชาความรู้หลากหลายใส่ลงไปในวิถีธรรมชาติแล้วจะเกิดอะไรขึ้น ต้อนรับสุภาพชนผู้มาเรียนรู้ก็เก็บเกี่ยวเอากลับไปใช้ในถิ่นฐานของตนตามข้อจำกัดต่างๆ ที่แต่ละคนมี ชอบก็เก็บไปใช้หรือนำไปดัดแปลง ไม่ชอบไม่เหมาะก็ทิ้งไป แต่ถ้าไม่ได้อยากเรียนรู้อย่าเสียเวลาด้วยกันทั้งสองฝ่ายเลยครับ

    หมู่บ้านโลกจึงไม่ใช่หมู่บ้านจัดสรรหรือชุมชนแออัด แต่เป็นแหล่งเรียนรู้วิถีธรรมชาติบวกกับผลของวิทยาการต่างๆ ตัวหมู่บ้านโลกมีความสงบ และไม่เหมาะกับผู้ที่หลีกหนีความวุ่นวายของเมือง แต่เหมาะกับผู้ที่แสวงหาความสงบในธรรมชาติ ที่ยังสามารถแบ่งปันสิ่งที่มีอยู่ให้กับผู้อื่นได้ ผู้แบ่งปันก็เป็นผู้เรียนได้ เช่นกัน ดังนั้นหมู่บ้านโลกจึงไม่มีผู้สั่งสอนที่รู้ไปหมด เป็นผู้ให้แบบเดินรถทางเดียวเสมอ แต่อยากได้ผู้แบ่งปันที่เรียนเป็นทำเป็น เป็นจำพวก enabler มากกว่า ทำเองได้ก็ทำ ซื้อเท่าที่จำเป็น อาศัยธรรมชาติเก็บกินชิลชิลแทนทำกินอย่างกระเสือกกระสนดิ้นรนและเป็นทุกข์ มีอิสระภายในขอบเขตที่ไม่ละเมิดชีวิตอื่นหรือธรรมชาติ

    ขื่ีอภาษาอังกฤษของหมู่บ้านโลก ไม่ใช้คำว่า World Village อย่างที่เข้าใจกันเพราะ World หมายถึงโลกทางกายภาพ แต่จะใช้คำว่า Global Village ซึ่งคำว่า Global เป็นโลกที่มีการเชื่อมโยง มีเน็ต มีพื้นที่สำหรับการแลกเปลี่ยน ในขณะที่มีพื้นที่ของความเป็นส่วนตัวเช่นกัน

    ด้านหลังหมู่บ้านโลกซึ่งสงบกว่าอีก จะสร้างสถานปฏิบัติธรรมในวาระต่อไปครับ


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.11634802818298 sec
Sidebar: 0.014705896377563 sec