บันทึกแฉตัวเอง คุณ เปลี่ยนศรี(สี)

โดย silt เมื่อ 12 พฤศจิกายน 2008 เวลา 3:45 (เย็น) ในหมวดหมู่ ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 1929

บันทึกแฉตัวเอง คุณ เปลี่ยนศรี(สี)
ผมเคยได้รับคำชมจากน้องๆที่เคยร่วมงานว่า “พี่เนี่ยเหมือนจิ้งจก..เปลี่ยนสีไปได้เรื่อย”
นี่ถือเป็นคำชมนะเนี่ย ฮึ่ม! ฝากไว้ก่อนเจ้าหมิว เจ้าดา เจ้าต้า เจ้า….

ย้อนกลับมาดูตนตัว เออก็ถูกของน้องๆเขา

สิ่งแรกที่สุดที่ว่าใช่ก็คือ ผมเป็นคนลิ้นอ่อนเหมือนนกขุนทอง อยู่ใกล้ใครก็พูดสำเนียงพื้นถิ่นของคนนั้น
อันนี้สาบานได้ว่าไม่ได้ตั้งใจดัด ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าสำเนียงตัวเองเปลี่ยนไป จนมีคนมาทักถึงได้รู้ความจริง
อยู่ดงหลวงพูดผู้ไท สลับภาษาลาวดงหลวง

อยู่หงสาพูดลาวย้อสลับกับลื้อ

ข้อถัดไปคือ ผมคุยกับคนได้ทุกประเภท (ไม่ว่าเสื้อเหลืองเสื้อแดง) แต่จะหลีกเลี่ยงความขัดแย้ง และข้อที่จะขัดใจ
โดยยกประเด็นที่ใจเรายอมรับออกมาคุยกัน

  • ผมคุยกับนักพัฒนากับเอ็นจีโอได้เป็นวันๆอย่างไม่ขัดเขิน คุยด้วยใจ ด้วยอุดมการณ์เดียวกัน
  • ผมไปหาพี่ทีปกรณ์ที่ดงหลวงทีก็คุยกันจนลิงหลับ
  • ผมไปคุยกับพ่อๆไทบรูเรื่องการทำมาหากินการปลูกพืชปลูกผัก เรื่องป่าเรื่องเขาได้อย่างสนุกสนาน
  • ผมไปคุยกับแม่บ้าน เรื่องผักกาดดอง เรื่องผงนัว เรื่องทอผ้า เรื่องชาผักหวาน จนเขาตกลงปลงใจมาร่วมกลุ่ม

ย้ำอีกครั้งว่าผมมีความจริงใจทุกคำพูด

  • แต่ผมก็ไปคุยกับผู้ประกอบการเจ้าของโรงงานได้เป็นวรรคเป็นเวรเหมือนกัน จนเขาหลวมตัวจะชวนไปร่วมหุ้นร่วมกิจการ

ผมก็มีจุดยืนในการพูดคุยว่ากิจการที่ว่าต้องไม่เอาเปรียบใคร และไม่เอาเปรียบธรรมชาติด้วย

ผมเคยไปสัมนาการสร้างเขื่อนโครงการหนึ่ง ด้วยรูปแบบการแต่งตัว ผ้าฝ้ายยับๆผมยาวหนวดเคราหรอมแหรม สะพายย่าม ทำให้กลุ่มพี่น้องฝ่ายต่อต้านเรียกไปนั่งรวมกลุ่มด้วย นั่งกินข้าวกลางวันด้วย แต่พอภาคบ่ายผมขึ้นนำเสนอแผนการจ่ายค่าชดเชยในฐานะคอนเซ้าท์ หลังจากนั้นพี่น้องกลุ่มนั้นไม่มองหน้าผมอีกเลยตลอดการประชุม

จุดยืนของผมคือ การไม่เปลี่ยนจุดยืน
ไม่ว่าเราจะอยู่ที่ไหน เราต้องรู้ตัวว่าเรากำลังทำอะไรอยู่
และเราต้องทำตัวให้กลมกลืนกับท้องถิ่น กับสังคมรอบข้าง โดยที่ไม่ทิ้งจุดยืนของตัวเอง
ผมว่าความกลมกลืน เป็นจุดเริ่มต้นแห่งสมานฉันท์

ผมเป็นนักฉวยโอกาส ที่พยายามสร้างและหาความสุขจากการทำงาน
และยังเป็นนักปรุงฝัน เพื่อปลุกประโลมใจให้การทำงานของตัวเองสำเร็จ
นั่นหมายความว่า ผมเป็นคนรู้จัก(พยายาม)คิดดี คิดชอบ คิดในทางบวก

  • ผมได้เป็นส่วนหนึ่งในทีมประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม โครงการเหมือง เขื่อน โรงงาน ผมก็ใช้โอกาสเขียนมาตรการ(บังคับ)เจ้าของโครงการให้ปฏิบัติตามหลักวิชาการ ให้ช่วยลดความเดือดร้อนต่อคนสัตว์สิ่งอ้อมตัว ทำอย่างนี้ได้ผมก็มีสุขแล้ว
  • ผมได้ทำงานด้านวางแผนโยกย้ายผู้คนชุมชน ผมก็ใช้โอกาสในการประเมินราคาค่าชดเชยให้เหมาะสมให้เป็นธรรมกับชาวบ้าน พร้อมวางแผนฟื้นฟูคุณภาพชีวิตของพี่น้องให้รัดกุม ผมก็คิดว่าผมได้ทำดีแล้ว
  • ผมได้ทำงานวางแผนฟื้นฟูสภาพเหมืองแร่ ผมก็คิดว่าเป็นโอกาสดีของตัวเอง ที่ได้มีส่วนในการซ่อมแซมกอบกู้ระบบนิเวศให้กลับคืนสู่ธรรมชาติ อย่างน้อยผมก็ตั้งใจให้เป็นเช่นนั้น
  • ผมได้ทำงานด้านพัฒนาชุมชนร่วมกับอ้ายน้องเอ็นจีโอ นี่ถือว่าสุดยอด เกิดปิติสุขแบบไม่ต้องปรุงแต่ง

ผมเรียนรู้อย่างไร ผมเรียนรู้ด้วยการเปิด
เปิดใจ รับทุกสิ่งที่ผ่านตา ไม่ทำตัวเป็นน้ำเต็มแก้ว ไม่เป็นชาล้นถ้วย
ผมอ่านหนังสือทุกประเภท นิตยสาร ประวัติศาสตร์ พงศาวดาร นวนิยาย กำลังภายใน ท่องเที่ยว ภูมิศาสตร์ ปรัชญา ธรรมะ และคำสอนทุกศาสนา แม้กระทั่งกวีนิพนธ์
ผมนำความรู้มาใช้ประโยชน์ ให้ถูกกาละ

  • ศัพท์แสงความรู้ที่ได้ร่ำเรียนสมัยเป็นนักเรียนผู้ช่วยพยาบาล สามารถนำมาใช้ตรวจแก้งานอีไอเอในบทว่าด้วยการประเมินสาธารณสุขได้
  • ความรู้เรื่องเมืองโบราณสามารถนำไปเลือกแนวสายทางที่จะตัดถนนได้
  • วิชาผักกาดดองที่แม่สอนไว้สามารถนำมาสอนแม่บ้านที่ดงหลวงได้

อันนี้เป็นตัวอย่างการบูรณาการองค์ความรู้

กลมกลืน(เปลี่ยนสี) ปรุงฝัน เรียนรู้
เป็นศิลปะในการดำรงชีวิตของผมครับ
นี่ถ้าไม่ใช่ท่านครูบาร้องขอไม่ยอมเผยบันทึกที่ยกตัวเองบันทึกนี้นะคร๊าบ

« « Prev : ท้องฟ้าสีอะไร ใจสงบเป็นเช่นใด

Next : รับลมหนาวที่ลาวเหนือ (๑) ทวนกระแสน้ำของ จากท่าซ่วงไปปากแบง » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

9 ความคิดเห็น

  • #1 น้ำฟ้าและปรายดาว ให้ความคิดเห็นเมื่อ 12 พฤศจิกายน 2008 เวลา 3:56 (เย็น)

    กรี๊ด วี๊ดวิ้ว แปะแปะแปะ ๆๆๆๆๆๆ

    เจ๋งมากค่ะพี่เปลี่ยน เห็นตัวตนพี่ชัด(เพราะแถมรูปด้วย อิอิอิ)ชอบๆๆๆๆๆๆอย่างงี้ต้องกอดให้หนำ อิอิอิ

  • #2 silt ให้ความคิดเห็นเมื่อ 12 พฤศจิกายน 2008 เวลา 4:49 (เย็น)

    ดูรูปชัดๆครับเบิร์ด จะเห็นคนของหัวใจ
    แต่โชว์นิดเดียว ไม่ได้ขออนัมัติ เดี๋ยวโดน

  • #3 bangsai ให้ความคิดเห็นเมื่อ 12 พฤศจิกายน 2008 เวลา 8:25 (เย็น)

    เปลี่ยนลืมบอกว่า
    ผมไม่ใช่คนเค็ม ที่หลายคนรังเกียจ…..
    แต่ผมเป็นคนหวาน หวานมากด้วย เพราะมีน้ำตาลในร่างกายมาก มดยังยกรังมาเยี่ยมอยู่บ่อยๆ อิอิ

  • #4 อัยการชาวเกาะ ให้ความคิดเห็นเมื่อ 13 พฤศจิกายน 2008 เวลา 11:09 (เช้า)

    มาอ่านตัวตนของอ้ายเปลี่ยน ผมยังไม่ลงมือเขียนเพราะกลัวจะมันจนจบไม่ลง อิอิ คึดฮอดครับ

  • #5 dd_l ให้ความคิดเห็นเมื่อ 17 พฤศจิกายน 2008 เวลา 1:49 (เย็น)

    แวะมาอ่าน ขอบคุณที่บอกเล่าตัวตนของคนทำงาน และเรียนรู้ชีวิตให้ได้รู้จัก ได้หลักคิดกลับไปอีกแล้วค่ะ

  • #6 sutthinun ให้ความคิดเห็นเมื่อ 17 พฤศจิกายน 2008 เวลา 3:08 (เย็น)

    เรื่องเบาหวานแทบละลายไปสิ้น
    เมื่อปาลียอนปากหวาน ใจหวาน ปานจะให้มดสะอื้น
    ตื้นตันใจมาก ปา-ลี-ยอน เอ๋ย
    มิรู้ที่จะเอ่ยคำใดนอกจากขอคารวะ 1 จอก
    อิ อิ ..

  • #7 ลานไผเป็นไผ » เจ้าเป็นไผ… สะท้านยุทธจักร(ตอนรวมจอมยุทธ์) ให้ความคิดเห็นเมื่อ 1 กุมภาพันธ 2009 เวลา 1:14 (เย็น)

    [...] พี่เปลี่ยน               บันทึกแฉตัวเองคุณเปลี่ยนศรี(สี) [...]

  • #8 krupu ให้ความคิดเห็นเมื่อ 2 กุมภาพันธ 2009 เวลา 7:46 (เช้า)

    ข้าผู้น้อยขออนุญาตมาทำความรู้จักกับท่านเปลี่ยนศรี(สี) ด้วยความเคารพ 1 จอก ขอรับ
    ซู๊ดดดดด….
    (^_^)

  • #9 ป้าจุ๋ม ให้ความคิดเห็นเมื่อ 2 มีนาคม 2009 เวลา 8:36 (เย็น)

    -เพิ่งมีโอกาศเข้ามาอ่านบันทึกคุณเปลี่ยนศรี(สี) แหม!!!นุ่มๆเนิบๆแต่มีลีลาเหลือหลาย ว้าว!!!ขอปรบมือดังๆให้จ้า
    -คุณเปลี่ยนนี่เป็นคนRomantic ไม่เบาน๊ะ วันนั้นร้องเพลงให้พวกเราฟังยืนร้องยื่นหน้าลอดหน้าต่างออกมา ป้าจุ๋มชอบมากเลยถ่ายภาพเก็บไว้ ภาพออกมาน่ารักมากจ้า
    -ภาพที่ไม่ได้ขออนุญาติเผยแพร่นั้น…แม้เห็นเพียงเสี้ยวเดียวของใบหน้า แต่บอกได้ว่าเปิ้นงามแต้ๆๆเจ้า
    -คิดถึงๆๆๆจ้า


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 1.6794481277466 sec
Sidebar: 0.24139285087585 sec