งานวิจัย ออกพื้นที่..ภาคสังคีตศิลป์ไทย

ไม่มีความคิดเห็น โดย น้องจิ เมื่อ 6 พฤศจิกายน 2008 เวลา 10:19 ในหมวดหมู่ Uncategorized #
อ่าน: 2099

งานวิจัย…ออกพื้นที่…น่าสนุกชะมัด

สวัสดีเจ้าค่ะทุกๆท่าน….วันนี้น้องจิและเพื่อนๆที่เอกวิชาสังคีตศิลป์ไทย คณะอักษรศาสตร์ ….ได้รับมอบหมายให้ลงพื้นที่ปฏิบัติงาน อิอิ น่าตื่นเต้นมากๆเจ้าค่ะ

ครูโกวิทย์…..ได้เรียกนักศึกษาชั้นปีที่ 1 มาประชุมพร้อมกัน และได้บอกว่า พวกเธอทุกคนต้องออกปฏิบัติงาน(พูดเหมือนเป็นทางการเลย)…คือจะต้องไปสำรวจชุมชนลาวครั่ง….ไปศึกษาขนมธรรมเนียมประเพณี ดนตรี รวมถึงเพลงพื้นบ้านพื้นเมืองของชุมชนลาวครั่ง

ซึ่งชุมชนลาวครั่งนี้อยู่ที่จังหวัดนครปฐมนี่แหละเจ้าค่ะ ใกล้ๆกับมหาวิทยาลัยแต่ก็ไกลพอสมควร….ถ้าปั่นจักรยานไปก็น่องโป่งแน่ๆเจ้าค่ะ จึงต้องใช้มอเตอร์ไซค์ไป….

ปัจจุบันชุมชนลาวครั่งนี้ก็ได้กลายสภาพเป็นสังคมเมืองซะส่วนหนึ่ง ดังนั้นก็เป็นการยากที่จะไปฟื้นถามวัฒนธรรมเก่าๆของชุมชนนี้  ข้อยากก็จะมีตรงที่ว่า เขาจะเห็นพวกน้องจิเป็นคนนอกและไปถามอะไรมากมาย หรือยังไม่ไว้วางใจพวกน้องจิสักเท่าไหร่ บางคนอาจจะเอ็นดูก็ให้ข้อมูล อันนี้ก็ดีไป

แต่อย่างไรก็ถาม การปฏิบัติหน้าที่ในการฟื้นฟูศิลปะ ของชาวลาวครั่งนี้ น่าสนใจมากๆค่ะ ถ้าการปฏิบัติงานนี้สำเร็จน้องจิกับเพื่อนๆ ซึ่งพึ่งจะอยู่กันแค่ปี 1 เอง สามารถค้นหาข้อมูลและสรุปเกี่ยวกับวัฒนธรรม การร้องเพลง การละเล่นของชุมชนนี้ได้ ก็จะถือได้ว่าเป็นข้อมูลที่น่าสนใจเป็นอย่างมากสำหรับอำเภอนี้เลยทีเดียวเจ้าค่ะ

การปฏิบัติงานนี้ จะเริ่มตั้งแต่อาทิตย์หน้าเป็นต้นไป โดยน้องจิกับเพื่อนๆจะออกสำรวจตอนชั่วโมงว่าง และเสาร์อาทิตย์  น้องจิต้องไปเรียนรู้ชีวิตของชาวชุมชนลาวครั่ง….ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ดีเลยทีเดียวเจ้าค่ะ  เริ่มตื่นเต้นแล้วซิ….อิอิ

ถ้าน้องจิออกพื้นที่เมื่อไหร่ จะมาเล่าประสบการณ์ดีๆให้ฟังนะเจ้าค่ะ  นี่คือสิ่งดีๆที่ได้จาก เอกสังคีตศิลป์ คณะอักษรศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร …ที่ไม่สามารถหาโอกาสดีๆอย่างนี้ได้จากที่ไหนง่ายๆ ……

รักและคิดถึงทุกๆท่านนะเจ้าค่ะ เป็นกำลังใจให้เจ้าค่ะ รักษาสุขภาพด้วยเจ้าค่ะ…..หนูจิ

ปล. พบกันวันที่ 8 พฤศจิกายนนี้นะเจ้าค่ะ …..รอกอดเจ้าค่ะ…..อิอิ


เพิ่มๆ-ถอนๆ …มึนหัว

ไม่มีความคิดเห็น โดย น้องจิ เมื่อ 4 พฤศจิกายน 2008 เวลา 19:27 ในหมวดหมู่ Uncategorized #
อ่าน: 1930

เพิ่มๆ-ถอนๆ…มึนหัว

สวัสดีเจ้าค่ะทุกๆท่าน หลังจากที่น้องจิหายเงียบไปเป็นเวลาระยะหนึ่ง….ก็เพราะว่ามหาวิทยาลัยเปิดแล้ว …ในฐานะที่เป็นน้องปี1 …ก็ยังมึนๆอยู่กับการลงทะเบียนเรียนเล็กน้อยเจ้าค่ะ

ลงแล้วลงอีก..เพิ่มๆ ถอนๆ….น้องจิต้องเก็บขาในการเรียนทั้งหมด 4 ขา ซึ่งน้องจิมีอยู่แล้ว 2 ขา….จึงเหลืออีก 2 ขาที่ต้องตัดสินใจเลือกในรายวิชาที่จะต้องเก็บ….น้องจิเลือกขาทัศนศิลป์ และ ภาษาไทย…..

ปรากฏว่าเมื่อลงไปแล้ว…ตารางเรียนทัศนศิลป์ไปตรงกับรายวิชาเอกของน้องจิ 1 ชม.จึงทำให้เป็นที่หนักใจมากๆ เพราะจะถอนรายวิชาใดวิชาหนึ่งออกไม่ได้เลย สำคัญทั้งคู่….วิชาเอกก็เป็นที่แน่แท้อยู่แล้วหมดสิทธิ์ในการถอน ส่วนวิชาทัศนศิลป์ตัวที่ตารางเรียนตรงกับวิชาเอกเขาก็เปิดให้เฉพาะเทอมนี้เทอมเดียวเท่านั้น หมดสิทธิ์ที่จะลงแล้ว โอ้แม่เจ้า!!! พรุ่งนี้น้องจิต้องไปคุยกับครูผู้สอนวิชาทัศนศิลป์ว่าน้องจิขอเข้าเรียนช้าไป 1 ชม.จะได้ไหม (หวังว่าครูคงจะเห็นใจเด็กหน้าตาดีๆคนนี้ด้วยนะเจ้าค่ะ)

และน้องจิก็ลงเปตองไป อิอิ เล่นไม่เป็นแต่ก็ลงไปเพื่อความฮาเจ้าค่ะ….เทอมนี้น้องจิลงทั้งหมด 21 หน่วย ให้มันสุดๆไปเลย….เก็บขาภาษาไทยน้องจิก็ต้องเรียนเกี่ยวกับการเขียนภาษาขอม ลายสือไทย งานนี้พ่อพิสูจน์เตรียมตัวไว้ให้ดีนะเจ้าค่ะ น้องจิจะไปให้ช่วยสอนน้องจิหน่อยเจ้าค่ะในการเขียน อ่าน ลายสือไทยสมัยพ่อขุนรามคำแหง…แล้วก็เรียนเรื่องลิลิตพระลอ (อันนี้เบาใจหน่อยเพราะเคยเขียนบทละครแสดงในวันภาษาไทยที่โรงเรียนเลยพอจะรู้เรื่องบ้าง)….แล้วก็เรื่องขุนช้างขุนแผน อันนี้ก็พอจะจับต้นชนปลายได้ถูกหน่อย ก็ไม่น่าจะมีอะไรเครียดไปมากกว่า การอ่านและเขียนลายสือไทยสำหรับวิชานี้

ส่วน”ยำออก” (อารยธรรมตะวันออก) เทอมนี้น้องจิก็ต้องเรียนเกี่ยวกับ อารยธรรมอิสลาม อารยธรรมอินเดีย และ อารยธรรมจีน เจ้าค่ะ อิอิ งานนี้ก็มีเรื่องให้หัวหมุนอีกตามเคย  ยังไงก็สู้เต็มที่…..ส่วนในวิชาเอกก็สู้ต่อไปเพื่อชัยชนะ ความพยายามอยู่ที่ไหน ความพยายามอยู่ที่นั่น อิอิ…สู้ๆ

พรุ่งนี้น้องจิต้องใจเด็ด…ไปคุยกับครูภาควิชาทัศนศิลป์ ให้อนุโลมแบบว่าจะขอเข้าช้า 1 ชม. ไม่งั้นน้องจิไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว  เอิกๆๆ ทางตันเจ้าค่ะ แต่ทุกอย่างต้องมีทางออกเสมอ…สู้ๆ

รักและคิดถึงทุกๆท่านนะเจ้าค่ะ รักษาสุขภาพด้วยเจ้าค่ะ เป็นกำลังใจให้เจ้าค่ะ…หนูจิ


*~…ใครว่ามนุษย์เอาชนะทุกอย่าง…~*

11 ความคิดเห็น โดย น้องจิ เมื่อ 26 ตุลาคม 2008 เวลา 14:06 ในหมวดหมู่ Uncategorized #
อ่าน: 2209

*~…ใครว่ามนุษย์เอาชนะทุกอย่าง…~*

ในชีวิตของสัตว์โลกบนพื้นดินนี้…จะมีชีวิตใดที่ไม่ตกเป็นอาหารของสัตว์อื่น…..วิวัฒนาการทำให้สัตว์แต่ละตัวปรับเปลี่ยนสภาพให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมและดำรงชีวิตอยู่ได้

โลกนี้ช่างโหดร้ายเหลือเกิน…..เราต้องไล่ล่าหาหาสัตว์อื่นเป็นอาหาร….แต่ในเวลาเดียวกันเราก็ต้องหลบหัวซุกหัวซุนเพราะสัตว์อื่นก็ล่าเราเป็นอาหารเช่นกัน…..สัตว์ที่อ่อนแอกว่าจะตกเป็นอาหารของสัตว์ที่แข็งแกร่งกว่า….แต่อย่าลืมว่า มดก็เอาชนะงูได้เช่นกัน…เพราะความสามัคคีถึงตัวจะเล็กแต่เมื่อรวมพลังแล้วมันมีกำลังมากกว่าแรงงูแน่นอน

แมลงเป็นอาหารกบ….กบเป็นอาหารงู….งูเป็นอาหารเหยี่ยว….สัตว์ทุกชนิดต้องไล่ล่าซึ่งกันและกันเพื่อการดำรงอยู่ของชีวิต……มีเพียงมนุษย์เท่านั้นที่ไม่ตกเป็นอาหารของสัตว์ใดๆ

มนุษย์สามารถเอาชนะสัตว์ทุกชนิดได้  ไม่ว่าจะเป็นเสือ สิง กระทิง แรด……มนุษย์ไม่เคยตกเป็นอาหารของสัตว์ชนิดใดเพราะมนุษย์มีความคิด มีการประดิษฐ์เครื่องมือต่างๆ…มนุษย์สามารถเอาชนะกฏแห่งธรรมชาติได้….หน้าแล้งก็ทำให้ฝนตกได้  หน้าหนาวก็มีเครื่องนุ่มห่ม หน้าฝนก็มีบ้านคอยป้องกันน้ำฝน…ไม่สบายก็หาหมอมีหยูกยากิน….แล้วมนุษย์จะเป็นอาหารของอะไรล่ะ?????

ในความคิดน้องจิเอง…มนุษย์มิได้เอาชนะได้ทุกอย่าง  มนุษย์ตกเป็นอาหารโดยไม่รู้ตัว…..อาหารของอะไรน่ะหรือค่ะ……แล้วอะไรที่จะมากินมนุษย์ล่ะ……..ความโลภ ความหลง กิเลสตัณหา  ไงค่ะที่มาคอยกัดกินหัวใจของมนุษย์……..

ถึงแม้ว่ามนุษย์จะเอาชนะสัตว์น้อยใหญ่บนโลกนี้ได้ไม่ตกเป็นอาหารของใคร……แต่มนุษย์ก็ตกเป็นอาหารของใจตัวเอง…….กิเลสตัณหาต่างๆสร้างปัญหามากมาย…..สิ่งที่มีผลกระทบมากที่สุดไม่ใช่สัตว์ชนิดไหนๆ…..ก็จิตใจของมนุษย์เองนี่แหละที่ต้องเป็นทุกข์

อย่าให้ความโลภ ความหลง มากินและบั่นทอนจิตใจของเราเลยเจ้าค่ะ…….สร้างภูมิต้านทานให้กับจิตใจ  สร้างกำแพงป้องกัน  ขึงตาข่ายหลายๆชั้น เพื่อป้องกันสิ่งเหล่านั้นมากัดกินหัวใจของเรา……เราจะสร้างกำแพง ขึงตาข่ายได้อย่างไรล่ะ……

เราก็มาสร้างกำแพงแห่งความรักความสามัคคี….ตาข่ายแห่งความเมตตาช่วยเหลือซึ่งกันและกันไงเจ้าค่ะ…….

เป็นกำลังใจในการสร้างกำแพงแห่งความรักเจ้าค่ะ —–> น้องจิ ^_^


~*…~*~ ฝากสายลม…ปลอบแผ่นดิน~*~…~*

2 ความคิดเห็น โดย น้องจิ เมื่อ 26 ตุลาคม 2008 เวลา 14:05 ในหมวดหมู่ Uncategorized #
อ่าน: 1882

~*…~*~ ฝากสายลม…ปลอบแผ่นดิน~*~…~*

                  ลมเอ๋ย ช่วยเป็นสื่อให้ นำรักจากห้วงดวงใจ ของข้านี้ไปบอกเขานั้นหนา ให้ ” เมืองไทย ” รู้ว่า ไม่นานลูกที่จากมาจะไปซบหน้ากับอกแม่เอย……

                   ตั้งแต่เราเกิดมา….ถูกถนุถนอมอยู่ในอ้อมอกอันอบอุ่นของแม่…เสียงเพลงกล่อมเด็กได้ผ่านหูฟังดูไพเราะจนเคลิ้มหลับ……เราจะถูกปลอบตอนที่เราร้องไห้  เสียใจ หนาว ทุกข์ ….แล้วเวลาที่แผ่นดินเจ็บปวดรวดร้าวล่ะ ใครจะเป็นผู้ปลอบโยน?????

                    เด็กมีปัญหา หา หา ช่วยไม่ได้เลยเธอ ปล่อยไปต้องเพ้อ เพ้อ เพ้อเที่ยวไปรักใครๆ ก็เลยต้องหา หา หา คนมาควบคุมใจ เป็นเธอได้ไหม ยัย ยัย ช่วยมารัก รักกันก็จะดี……..เมื่อเวลาเด็กมีปัญหา…ก็มักจะหาคนมาเป็นที่ปรึกษา คอยดูแลเอาใจใส่ให้ความรักความอบอุ่น……..แล้วเวลาที่แผ่นดินกำลังเกิดปัญหาล่ะ ใครจะมาเป็นผู้แก้ปัญหา??????

                     ในขณะที่เรากินอาหารเข้าไปในแต่ละวัน…เราสามารถรับรสได้ทั้งหมด 4 รส ไม่ว่าจะเป็นหวาน เปรี้ยว ขม เผ็ด…เมื่อเรากินเผ็ดเข้าไป…เราก็จะดื่มน้ำ ดื่มนมเพื่อบรรเทาอาการ….แล้วในขณะที่แผ่นดินกำลังเผ็ดร้อนล่ะ  เราจะได้อะไรบรรเทา?????

                      วิทยาศาสตร์มีความเจริญก้าวหน้ามากมาย….จึงทำให้เกิดผลิตภัณฑ์ต่างๆเพื่อช่วยให้ผู้บริโภคพึงพอใจกับผลที่ได้รับ….ถ้าหน้าเป็นฝ้า ตีนกาขึ้น ผิวแตก ก็มีครีมทาเพื่อให้ใบหน้าดูสดใส สวยงาม…..แล้ววิทยาศาสตร์จะสร้างผลิตภัณฑ์ที่ทำให้แผ่นดินไม่แตกแยก เป็นน้ำหนึ่งเป็นเนื้อเดียวกันจะได้ไหม??????

                         ในยามที่เศร้ารู้สึกเศร้า มันก็มีหลากหลายสาเหตุ…เศร้าเพราะอกหัก ก็โทษคนรัก…เศร้าเพราะสอบตกก็โทษตัวเอง  เศร้าเพราะตกรถก็โทษคนขับ …….ทุกความเศร้าย่อมมีสิ่งที่ทำให้เศร้าทั้งนั้น….แล้วเวลาที่แผ่นดินเศร้าล่ะ  จะโทษใครดี??????

                         รักกันไว้เถิด  เราเกิดร่วมแดนไทย  จะเกิดภาคไหนๆ ก็ไทยด้วยกัน……เมืองไทยแบ่งเป็นภาคต่างๆ มีภาษา วัฒนธรรม ความเป็นอยู่ที่แตกต่างกันออกไป  มีอาณาเขตบอกอย่างแน่นอนว่า ตรงนี้เหนือ ตรงนี้ใต้ ตรงนี้ออก ตรงนี้ตก……แต่แผ่นดินซิเจ้าค่ะ….แผ่นดินไม่มีการแบ่งแยก แผ่นดินยังคงเป็นดินแผ่นเดียวที่ให้คนทุกภาค ทุกภาษา ทุกวัฒนธรรมได้ยืนหยัดอยู่ทุกวัน…..จะมีใครรักแผ่นดินไหม?????

                           ในยามที่ท้อแท้ ขอเพียงแค่คนหนึ่ง ที่จะคิดถึง และคอยห่วงใย ในยามที่ชีวิต หม่นหมองร้องไห้ ขอเพียงมีใคร ปลอบใจสักคน…….คนเราย่อมที่จะหาที่พึ่งพาจิตใจเวลาที่จิตใจอ่อนแอ  อ่อนล้า อ่อนไหว……และในยามที่แผ่นดินไหวล่ะ ใครจะอยู่เคียงข้าง…(บางท่านคงคิดว่า แผ่นดินไหวใครจะอยู่ หนีก่อนแหละ เดี๋ยวโดนดินทับตาย อิอิ)…แต่หนูนี่แหละจะคอยกอดแหละปลอบแผ่นดินแม้จะโดนแผ่นดินทับก็ยอมจะกลัวอะไรกับแผ่นดินทับทีเรายังทับแผ่นดินมาตั้งแต่เกิด…หนูจะคอยอยู่ข้างแผ่นดิน

                            ฝากสายลมอันอ่อนไหว…..ช่วยปลอบโยนแผ่นดิน….คงอีกไม่นานก็จะดีขึ้นเอง….รักและห่วงใยแผ่นดินเสมอ……จุ๊บๆ


มอบของขวัญจากก้อนดิน….แด่ประเทศชาติ

5 ความคิดเห็น โดย น้องจิ เมื่อ 26 ตุลาคม 2008 เวลา 14:04 ในหมวดหมู่ Uncategorized #
อ่าน: 3135

มอบของขวัญจากก้อนดิน….แด่ประเทศชาติ

                ปัจจุบันวิวัฒนาการทางเทคโนโลยีนั้นสุดแสนจะกว้างไกล…..การแพทย์จึงมีความทันสมัยและเจริญก้าวหน้าเป็นอย่างมาก….มีหมอที่รักษาโรคต่างๆมากมาย…

                ใครที่ตาเจ็บก็หาหมอตา…..ใครที่คออักเสบก็หาหมอคอ…..ในที่ปวดหัวก็หาหมอสมอง…..ใครที่ปวดแข้งปวดขาก็หาหมอกระดูก…..แล้วประเทศชาติบอบช้ำจะหาหมออะไร????

                 เทคโนโลยีก้าวหน้าไปมากจนโลกของเราเปลี่ยนแปลงไปมากมาย…..แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่เคยเจริญหรือพัฒนาตามเทคโนโลยีไปเลยก็คือ “การพัฒนาจิตใจ”…..

                  สยามเมืองยิ้ม……” คนไทยรักชาติและศาสนา เทิดองค์เจ้าฟ้าผู้ทรงเปี่ยมเนื้อนาบุญ”….มีเพลงมากมายที่ออกมาเพื่อสร้างปลูกจิตสำนึกเป็นสื่อปลุกเร้าพลังและเป็นแรงบันดาลใจในการรักชาติ…..ทุกคนสามารถร้องได้หมด…..ยืน และ ยิ้มอย่างสง่า เข้าใจในอารมณ์และความหมายของเพลง….แต่ระวังนะ ” ตอนยิ้มระวังฟันปลอมหยุดออกมา “…….ทำไมฟันปลอมถึงหลุด…ก็ลองถามใจตัวเองดูซิว่าเพลงที่ร้องนั้นนะได้ปฏิบัติตามหรือเปล่า

                   เมื่อถึงวันเกิดใครต่อกันก็เที่ยวจัดเตรียมของขวัญเพื่อนำไปให้บุคคลที่ตัวเองรัก…..หาซื้อตุ๊กตาน่ารักๆ ….ขนมอร่อยๆ…ดอกไม้ช่อใหญ่ๆสวยๆ…คิดว่าซื้อไปแล้วผู้รับจะต้องชอบอย่างแน่นอน……แต่คุณจะรู้ไหมว่า วันเกิดของประเทศชาติ…คงไม่ได้เรียกร้องของขวัญอะไรที่เลิศหรูไปมากกว่า “ของขวัญจากก้อนดิน “

                   ” เราทุกคน ก็เหมือนก้อนดินแค่ก้อนหนึ่ง  เปราะบางไร้ค่าไร้ความหมาย…อ่อนแอเหมือนโคลน ไหลไปตามทางเรื่อยไป เมื่อน้ำแห้งไป ก็แตกระแหง

                     มีพลัง เพียงแค่แรงเดียวที่ยึดเรา เหนี่ยวรั้งเราไว้ให้กล้าแข็ง  รวมผู้คนมากมาย ให้ทรงพลังแข็งแรง  รวมเม็ดดินทุกเม็ดให้เป็นแผ่นดิน

                      เราก็รู้พ่อต้องเหนื่อยสักเพียงไหน ต้องลำบากใจกายไม่เคยสิ้น  เพราะพ่อรู้ พ่อคือ พลังแห่งแผ่นดิน ให้เราพออยู่พอกินกันต่อไป

                       หากจะหาของขวัญให้พ่อสักกล่อง เราทั้งผองจะพร้อมกันได้ไหม  บวกกันเป็นดินเดียวให้พ่อได้สุขใจ ไม่ต้องเหนื่อยเกินไปอย่างที่เป็นมา  ช่วยกันทำความดีให้พ่อได้สุขใจ ไม่ต้องเหนื่อยเกินไปอย่างที่แล้วมา “

                   

                      คนเราทุกคนก็เปรียบเสมือนก้อนดินก้อนเล็กๆที่ถูกโคลนซัดก็ไหลไปตามโคลน เมื่อน้ำแห้งก็แตกระแหงไม่ได้สร้างประโยชน์อะไรเลย…..แต่ถ้าเม็ดดินเม็ดเล็กๆนั้นมารวมกันเป็นแผ่นดินล่ะ….แผ่นดินที่มีแต่ความรักความสามัคคีคงจะเป็นแผ่นดินที่อุดมไปด้วยสันติสุขเป็นแน่แท้

                      รัฐบาลจัดงานยิ่งใหญ่เพื่อถวายแด่พ่อหลวงของพวกเรา….มีการเดินขบวนสวนสนาม….พิธีกรรมต่างๆเพื่อแสดงถึงความจงรักภักดีถือว่าเป็นของขวัญแด่พ่อฟ้า……ณ ตอนนี้ จะมีของขวัญสิ่งใดที่จะล้ำค่าไปมากกว่า ของขวัญจากก้อนดิน …..พ่อคงจะมีความสุขที่สุดถ้าเห็นเม็ดดินทุกเม็ดมารวมกันเป็นแผ่นดินที่มั่นคง

                        ” ไทยนี้รักสงบ…..แต่ถึงรบไม่ขลาด “…….แต่ก่อนตอนชาติไทยของเราจะรบก็ตอนที่กู้ชาติ รบเมื่อใครมารุกรานชาติ ทุกคนสามัคคีกันต่อสู้เพื่อไม่ให้ชาติใดๆมารังแกชาติของเรา ….สู้ด้วยความอาจหาญไม่เคยขลาด….แล้วตอนนี้ใยมาสู้กันเอง….ทำไมหรือ ????

                        เป็นกำลังใจให้แผ่นดินไทยต่อไป——>น้องจิ ^_^



Main: 0.0418701171875 sec
Sidebar: 0.26508402824402 sec