มึนตึ๊บ
อ่าน: 1575เมื่อวานนี้ทั้งวัน ไปเป็นกรรมการประเมินผู้สมัครเข้ามาเป็นรองผู้อำนวยการ โรงเรียนเทศบาลนครขอนแก่น 9 โรง มีคนสมัครเข้ารับการประเมิน 17 คน ซึ่งมีกระบวนการยาวมาก คือตั้งแต่ 4 ต.ค. 53 จนจบกระบวนการคือ 31 ส.ค. 54 พวกเราต้องได้เจอผู้สมัคร 3 ครั้ง ครั้งนี้เป็นการเจอรอบที่ 2
แม่ใหญ่ไปเป็นกรรมการแบบคนนอก เป็นหนึ่งในสิบ ที่จะมีสิทธิให้คะแนน ตามเกณฑ์ แต่คะแนนจากกลุ่มแม่ใหญ่ทั้งสิบคน หารกันออกมาแล้วเท่ากับ 30 %เท่านั้น คะแนนอีก 30% เป็นคะแนนจากสถานอบรมและพัฒนาอีกสี่แห่งคือ
- ที่ โรงเรียนลำปลายมาศ คณะฯได้ไปดูงานการบริหารและการเรียนการสอนของโรงเรียนนอกกะลา ที่เน้นเด็กเป็นศูนย์กลาง เรียนแบบไม่มีตำรา เรียนตามที่เด็กอยากเรียนอยากรู้ แต่ไม่หลุดจากหลักสูตรกระทรวง
- ไปโรงเรียนรุ่งอรุณ เพื่อศึกษาเรื่องการ coaching การฝึกครูด้วยกันเอง และการทำงานเป็นทีม
- เข้า คอร์สผู้นำที่แท้ของอาจารย์ประชา หุตานุวัตร เพื่อลดอัตตา และเข้าใจเขาเข้าใจเรา
- เข้าคอร์สห้องเรียน อภิทักษะของเด็ก ในห้องเรียนขอบฟ้ากว้างของอาจารย์วิศิษฐ์ วังวิญญู เพื่อเข้าใจเด็กว่าเขามีศักยภาพแฝงอยู่ในตัวพร้อมที่จะเรียนรู้ไม่ว่าเป็นใครก็ตาม
- แถมด้วยการจัดทริปได้ไปฝึกสติที่หมู่บ้านพลัมในประเทศไทยที่ตั้งอยู่แถวปากช่องอีกด้วย อีกหนึ่งคืนหนึ่งวัน
หลังจากนั้น ต้องกลับมาทำวิจัยเฉพาะเรื่องการ coaching โดยเฉพาะอีก 7 เดือน กำหนดส่งให้กรรมการอ่าน 31 ก.ค. 54 ซึ่งเฉพาะเรื่องวิจัยนี้จะมีพี่เลี้ยง ดูแลใกล้ชิด ให้ได้คะแนนในส่วนวิจัยอีก 30%
ส่วน 10% สุดท้ายเป็นการให้คะแนนกันเองในกลุ่มผู้สมัครทั้ง 17 คน
ดูจากวิธีการให้คะแนน ผู้ให้คะแนน ฯลฯ และการแบ่งเปอร์เซนต์กันแล้ว เรื่องเล่นเส้นคงไม่ต้องพูดถึง ต้องชมว่า นายกเทศมนตรี นคร ขอนแก่น และรองนายกฯ ตลอดจนประธานสภา ท่านเอาจริงเอาจังกับการเรื่องการศึกษา การพัฒนาคน และการเลือกคน เข้าไปบริหารโรงเรียนเทศบาลจริงๆ
ไปฟังนั่งเขาเล่าถึงการผ่านกระบวนการต่างๆ และการนำเอาสิ่งที่ไปเรียนรู้กลับมาประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง ตลอดจนจะนำไปใช้อย่างไร ถ้าได้เป็นรอง ผอ. ให้เวลาเขาพูดคนละพูด 10 นาที อีก 10 นาทีที่เหลือให้เป็นหน้าที่ของกรรมการช่างซักทั้งหลาย ขนาดมีกรรมการจับเวลา คอยยกป้ายแบบเกมโชว์ ก็ยังไม่วายเลยเวลากันไปเป็นแถว ดังนั้นเมื่อวานนี้ ฝนจะตก ฟ้าจะร้อง แม่ใหญ่ไม่รู้เลย ตั้งแต่ 9 โมงเช้า ยัน 6 โมงเย็น แถมลืมทั้งโทรศัพท์ และนาฬิกาข้อมือ ติดต่อกับทางบ้านและโรงเรียนก็ไม่ได้ โดน ผอ.โรงเรียนตัวเองต่อว่าทางเฟสบุคว่า ทำไมแม่ไม่มาประชุมผู้บริหาร เพราะวันนี้จะประชุมครูทั้งโรงเรียนเป็นครั้งสุดท้ายของปี ก็เลยแก้ตัวไปว่า ลืมประชุมเรื่องของตัวเองจริงๆ มัวแต่ไปแร่ดนอกโรงเรียน แต่ ผอ.ก็คงให้อภัย ถือเสียว่า ไปทำหน้าที่ “สัมพันธ์ชุมชน” ก็แล้วกัน
อบรมกันขนาดนี้ พัฒนากันขนาดนี้ ก็ได้แต่หวังว่า โรงเรียนเทศบาลในนครขอนแก่น คงจะก้าวไกลไปโลด เอาใจช่วยจริงๆ
ส่วนแม่ใหญ่กลับมา ต้องมากินฟ้าทะลายโจรกันหวัดและเจ็บคอ แล้วก็นอนหลับแต่หัวค่ำ เพราะมัน “มึนตึ๊บ” อย่างที่บอกไว้ในหัวข้อนั่นแหละค่ะ
1 ความคิดเห็น
เอาใจช่วยให้แม่ใหญ่หายป่วยนะคะ
อาใหญ่(วิศิษฐ์ วังวิญญู) เล่าถึงการพัฒนาการศึกษาของเทศบาลนครขอนแก่นให้ฟังบ่อยมากค่ะ และชื่นชมความตั้งใจจริงของผู้บริหารและคณาจารย์ที่ร่วมเปิดขอบฟ้ากว้างให้เด็กๆทุกคน ได้เรียนรู้ ซึ่งเบิร์ดพอทราบเรื่องที่อาใหญ่ทำ แต่ไม่ทราบเรื่องของการคัดสรรบุคลากร เมื่อแม่ใหญ่นำมาเล่าให้เห็นภาพเลยยิ่งชื่นชมและมีความสุข แอบหวังว่าเชียงรายจะกล้าแตกต่างในอนาคตอันใกล้นี้ (อาใหญ่ก็หวังว่าจะได้ทำให้เชียงรายเปิดขอบฟ้ากว้างบ้าง เพราะไปทำให้ที่อื่นมากแล้ว)
คุณหมอประเสริฐเล่าเรื่องรร.ลำปลายมาศให้ฟังเพื่อช่วยกันวิเคราะห์และหาเป้าหมายที่จะเดินต่อในการทำเครือข่ายคนทำงานเพื่อเด็กพิเศษอันมีคอนเซ็ปต์ว่าเด็กทุกคนล้วนเกิดมาเพื่อเป็นคนพิเศษด้วยกันทั้งนั้น จึงควรได้รับโอกาสในการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับตัวเค้าเอง
ได้คุยกับท่านผอ.รร.ลำปลายมาศ พบความประหลาดใจอย่างหนึ่งว่า แม้ลำปลายมาศจะสอนนอกตำรา แต่เด็กๆไม่ตกในการวัดผลระดับประเทศเลยแม้แต่คนเดียว ยังหัวเราะกันว่าเด็กเรียนวิธีการเรียนรู้ และเด็กไม่ได้ถูกสอบๆๆๆอย่างเอาเป็นเอาตาย ทำให้เด็กไม่เบื่อในการทำข้อสอบ เมื่อต้องทำข้อสอบจริงก็เลยตั้งใจทำ ไม่กามั่วเพื่อให้เสร็จๆไป (มีจริงนะคะแม่ใหญ่ที่เบื่อข้อสอบ ขอแค่กาให้เสร็จๆไปก็พอแล้ว…เบิร์ดก็เคยเป็น อิอิอิ)
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวที่ทำให้เห็นภาพการทำงานของรร.เทศบาลขอนแก่นมากยิ่งขึ้นค่ะ