เยี่ยมชมอนุบาลโรงเรียนเทศบาลบ้านโนนทัน
วันนี้ ไปเยี่ยมแผนกอนุบาลของโรงเรียนเทศบาลบ้านโนนทัน ฝนฟ้าตกตามเคย เลยไม่ได้เห็นเด็กๆออกมาเล่นสนุกสนานที่สนาม เด็กต้องอยู่ในห้องกับครูตลอดทั้งช่วงเช้า เด็กนักเรียนมี 90 คน ครู 4 คน มีครูแป๋วเป็นหัวหน้าสาย ครูแป๋วมีลักษณะเป็นผู้นำชัดเจน สอนชั้น อนุบาลสอง มีครูใหม่ซึ่งจบสาขานาฏศิลป์เป็นผู้ช่วย เพราะมีเด็กถึง 42 คน ครูแป๋วดูจะคล่องแคล่วในการจัดกิจกรรมให้เด็กได้ดี มีจังหวะจะโคนในการสอน และเด็กก็เชื่อฟังมีระเบียบวินัยดี มีสมาธิในการเรียน ครูผู้ช่วยก็ดูจะทำงานเข้ากันได้ไม่ติดขัด มีครูจวงที่คร่ำหวอดกับชั้นอนุบาลมากว่า สามสิบปี อยู่ที่โรงเรียนนี้มาตั้งแต่ แรกเริ่ม มีลูกศิษย์ที่โตจนส่งลูกเข้ามาเรียนกับคุณครูแล้ว คุณครูมีลักษณะเป็นคนอ่อนโยน นุ่มนวล และรักเด็ก ทราบว่าขณะนี้พักอยู่ในโรงเรียนด้วย โรงเรียนจึงเป็นเหมือนบ้านของครูจวง อย่างแท้จริง ครูจวงสอนห้องอนุบาล 3/2 มีเด็กที่ยังไม่ค่อยนิ่ง เพราะย้ายมาจากที่อื่น อยู่เกือบครึ่งห้อง แต่ด้วยความใจเย็น คุณครูก็กำลังค่อยๆปรับพฤติกรรมเด็กอยู่อย่างเงียบๆด้วยกิจกรรมต่างๆ ส่วนครูอีกท่าน คือครูแอ สอนอนุบาล 3 อีกห้องหนึ่ง คนนี้ท่าทางกระฉับกระเฉงว่องไว เสียงดังฟังชัด ทราบว่าเคยสอน ป 1 มาก่อน เพิ่งผันตัวเองมาอยู่ อนุบาลได้เพียงสองปีเท่านั้น ดูเป็นคนสนุกสนาน และบุคลิกนี้ ก็ไปปรากฎในเด็กของคุณครูด้วย เด็กห้องนี้กล้าแสดงออก ทักทาย ยิ้มแย้ม ไม่ตื่นคนแปลกหน้า เวลาทำกิจกรรม ก็ตั้งใจทำกิจกรรมและ เชื่อฟังครูแอเป็น อย่างดี
สิ่งที่แม่ใหญ่ชื่นชมโรงเรียนนี้ก็คือ ทุกห้องมีมุมหนังสือที่มีหนังสือมากพอๆกับจำนวนเด็ก ได้แนะนำเพิ่มเติมไปว่า อยากให้คุณครูใช้มุมนี้เป็นมุมที่กระตุ้นให้เด็กรักการอ่าน ด้วยการให้มีช่วงอ่านหนังสือคนเดียวเงียบๆ สัก 5-10 นาที ทุกวัน และคุณครูก็ต้อง ทำท่าอ่านให้เด็กเห็นเป็นรูปแบบด้วย ไม่ต้องห่วงเรื่องที่เด็กยังอ่านไม่ออก หรืออ่านไม่เป็น การรักที่จะเปิดหนังสือขึ้นดู เงียบๆคนเดียว แม้จะเป็นการดูรูป ก็เป็นการสร้างนิสัยรักการอ่านได้แล้ว
อีกเรื่องที่แม่ใหญ่ชม ก็คือเรื่อง ที่คุณครูแป๋วเล่าว่า ได้ตกลงกันระหว่างครูทั้ง 4 คนว่า จะตามเด็กขึ้นไปตามระดับชั้นจากอนุบาลสองขึ้นไปอนุบาลสาม เพราะเห็นว่าครูจะได้รู้จักและได้พัฒนาเด็กอย่างต่อเนื่อง แม้จะเป็นเวลาเพียงสองปีก็ตาม คุณครูบอกว่าเพิ่งลองทำได้ปีหนึ่งแล้ว และคิดว่าดี จะทำต่อไป ซึ่งแม่ใหญ่ก็เห็นดีด้วย
ส่วนการเสนอแนะจากแม่ใหญ่ ก็มีเพียงเรื่องการใช้สื่อรอบๆห้องให้เป็นประโยชน์ต่อการสอนประจำวันมากขึ้น เช่น สื่อปฏิทินประจำวัน ให้ครูนำมาไว้ใกล้ๆตัว และนำมาสอนได้ทุกวัน สามารถจะบูรณาการการสอนเด็กได้หลายวิชา ไม่ว่าจะเป็นคณิตศาสตร์ สังคม หรือภาษาไทย
สื่อเรื่องสภาวะอากาศของแต่ละวัน ให้เด็กออกมาเลือกป้ายสภาวะอากาศว่าวันนี้ ร้อน หนาว หรือฝนตก ประการใด เป็นการหัดให้เด็กได้รู้จักสังเกตด้วย และการนำสื่อเรื่องข้อตกลง กฎกติกาประจำห้องมาอ่าน ให้เด็กฟังบ่อยๆ แล้วถามเชิงบวก ว่าวันนี้ใครทำถูกกฎข้อไหนบ้าง ชื่นชมคนที่ทำดี แต่ไม่ต้องถามว่าวันนี้ใครทำผิดกฎข้อไหน ให้เขาได้รู้สึกเอง ต่างๆเหล่านี้ ล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องที่ทำได้ในช่วงต้นของวันทั้งสิ้น
คุณสุทธิ ประธานโครงการ พูดว่า แผนกอนุบาลที่นี่พัฒนาขึ้นมากจาก 4 ปีที่แล้ว และเติมเรื่อง ให้เด็กรับผิดชอบเซ็นชื่อตัวเองเมื่อมาถึงโรงเรียน บอกว่าแทนการให้ผู้ปกครองมาเซ็นชื่อ จัดที่ให้เด็กได้เซ็นชื่อตัวเองทุกวัน แม้จะยังเขียนได้ไม่ถูกต้อง ก็จะเป็นการเริ่มการเขียนและการรับผิดชอบต่อหน้าที่เบื้องต้นในแต่ละวันได้ด้วย เรียกว่ายิงนกนัดเดียวได้หลายตัว
แม่ใหญ่ไม่ได้เขียนถึงสถานที่ เพราะไม่ได้เป็นประเด็นใหญ่ เป็นเรื่องของผู้บริหารโรงเรียนและผู้บริหารเทศบาลที่จะปรับปรุงกันต่อไปตามสมควร แต่สิ่งที่ประทับใจกับโรงเรียนนี้ คือการได้เห็นแววตากระตือรือร้นของครูทั้งครูสาวและครูแก่ ว่าเป็นครูที่มีหัวใจเป็นครูอย่างแท้จริง ซึ่งแค่นี้ก็เป็นการการันตีได้ว่า เด็กที่นี่จะได้เรียนรู้อย่างมีความสุข ในอุ้งมือครูที่มีเมตตา และรวยน้ำใจ ลงมีครูดีเสียอย่าง เรื่องอะไรต่างๆ ก็ถือเป็นเรื่องรอง