สวนป่าชีวาลัย

โดย หลงป่า เมื่อ 16 สิงหาคม 2010 เวลา 3:58 (เย็น) ในหมวดหมู่ ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 1752

ผมได้รับการประสานแจ้งรายชื่อจากศูนย์ฝึกอบรมว่าให้เข้ารับการอบรมหลักสูตร TT&T Leader Transformation ที่สวนป่าชีวาลัยอีสาน อ.สตึก จ.บุรีรัมย์  ณ วินาทีที่รู้ ผมรู้สึกสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกับ TT&T อยู่ๆจะพาพนักงานระดับบริหารไปศึกษาพระธรรม หรือวิปัสสนา  ก็ไม่ได้ติดใจอะไรมาก  คิดว่าไร้สาระ เพราะบริษัทกำลังฟื้นไข้ คิดอะไรแปลกๆ ความรู้สึก ณ ตอนนั้น ผ่านไปสองสัปดาห์เห็นจะได้ เริ่มมีการพูดคุยถึงการเดินทาง วันเวลาที่แน่นอน ทำให้อดคิดไม่ได้ ว่ามันมีดีตรงไหนนะ จึงเข้าสู่โลกอินเตอร์เน็ต ค้นหาคำว่าครูบาสุทธินันท์และสวนป่า  พออ่านบันทึกของปราชญ์ชาวบ้าน รู้สึกถึงมนต์สะกดและอยากรู้จัก  จากนั้นจึงนั่งนับวันเพื่อมาพบครูบา และแล้ววันที่รอคอยก็มาถึง ผมออกเดินทางจากยะลาประมาณตีห้าของวันที่ 3 สิงหาคม 2553 และมาถึงศูนย์ฝึกอบรมของทีทีแอนด์ทีราวสามทุ่มครึ่งของวันเดียวกัน นอนคืนนึงที่นี่ เช้าวันที่ 4 สิงหาคม 2553 ออกเดินทางจากศูนย์ฝึกฯ ประมาณหกโมง พอใกล้เที่ยงก็ถึง อ.สตึก หาทางไปบ้านครูบาไม่เจอ ( หลงทางซิครับ ) ถามทางมาตลอด เมื่อเจอป้ายบอกทางใจเริ่มชื้น และก็มาถึงเกือบบ่ายโมง ความรู้สึกแรกที่เข้ามารับรู้ถึงความเงียบสงบ แล้วไหนหละครูบา แอบกวาดสายตาไปรอบๆ เห็นชายสูงอายุกำลังนั่งที่โต๊ะ มีโน๊ตบุ๊ควางไว้ตรงหน้า  นึกในใจว่าคงเตรียม Present วิชาการด้านการเกษตรล้วนๆ  อ้อ ลืมบอกไปว่า สมัยเรียนมัธยม ผมเลือกวิชาเกษตรเป็นวิชาเลือกเสรีนะครับ จึงมีความรู้บ้าง หลงตัวเองว่างั้นเหอะ หลังจากทานข้าวเที่ยงเสร็จ ก็เริ่มเข้าสู่การสัมมนา ผิดคาดครับ ปรัชญาล้วนๆ อึ้งครับ อึ้งกิมกี่ไปเลย ผมเป็นคนชอบแนวคิดใหม่ๆ แต่ไม่เคยเจอนักปรัชญาคนไหนที่เรียนรู้จากธรรมชาติ แล้วนำมาใช้กับชุมชน สังคม จนถึงระดับประเทศ พอคนเราเริ่มสนใจก็มีสมาธิและความตั้งใจ ช่วงที่เดินชมต้นไม้ผมแอบเห็นครูบาพ่นยาบ่อย สงสัยน่าจะเป็นภูมิแพ้หรือหอบหืด แต่ก็ไม่ได้ถาม จากการพบปะพูดคุย ทำให้ผมรู้ว่าผมมาที่นี่ด้วยความไม่รู้ และก็ได้ความไม่รู้กลับไปอีกมาก ที่ต้องแสวงหาคำตอบ แต่ที่ผมรู้ตอนนี้คือผมรู้ว่าการศึกษา สังคม วัฒนธรรมของประเทศกำลังเปลี่ยนไป ความห่างเหินของคนในชุมชนเริ่มมากขึ้น วัดคนเขาวัดกันที่ฐานะการเงิน ความมั่งคั่งทางวัตถุที่อุปโลกขึ้นมาว่ามีค่ามหาศาล เกิดกิเลส เกิดความอยาก เริ่มแสวงหา ไขว่คว้า เกิดการเอารัดเอาเปรียบ ชิงไหวชิงพริบ ขาดคุณธรรม ขาดจริยธรรม ความเห็นแก่ตัวได้เริ่มก่อตัวสะสมมากขึ้นมากขึ้น และนำไปสู่ความขัดแย้งที่รุนแรง ไม่ใช่เฉพาะมนุษย์ด้วยกันเท่านั้น แม้แต่ธรรมชาติเมื่อถูกความเห็นแก่ตัวของมนุษย์ที่มีกิเลสและความอยากทำร้าย เอารัดเอาเปรียบ เมื่อถึงจุดหนึ่งก็จะเกิดความขัดแย้งขึ้นมาด้วย ที่เราเรียกว่าภัยพิบัติ ภัยธรรมชาติ ปรากฏการณ์ต่างๆที่ส่งผลต่อการดำรงชีวิต และก็หนีไม่พ้นการใช้เงินแก้ปัญหา ตั้งทีมวิจัย มีโครงการรณรงค์ต่างๆมากมาย แต่จะมีใครสักกี่คนที่หวนกลับไปยังจุดเริ่มต้น วิถีชีวิตชาวบ้านในสังคมชนบทในอดีตเป็นวิถีชีวิตที่เกื้อกูลกัน เหมือนต้นไม้ที่โตในป่าผืนเดียวกัน ถ้อยทีถ้อยอาศัย งดงามไปทั้งผืนป่าและชุมชน วิถีชีวิตในชุมชนก็คือรากเหง้าของวัฒนธรรม ณ ที่นั้นๆ  เมื่อการศึกษาไม่สอดคล้องกับวิถีชีวิตชุมชน ผลที่ตามมาวัฒนธรรมก็จะถูกทำลายและหายไปในที่สุด  ผมเริ่มเรียนรู้ปัญหาต่างๆ ตั้งแต่ระดับชุมชน สังคมและประเทศ จากครูบา ที่ยกตัวอย่างการแก้ไขปัญหาอ้างอิงจากหลักธรรมชาติ แง่คิดที่ได้จากการอยู่กับธรรมชาติแบบธรรมชาติ  ทำให้ผมเริ่มมองโลกในแง่ดีขึ้น มีความสุขมากขึ้น รู้จักให้มากขึ้นเท่าที่ตัวเองไม่เดือดร้อน มองเพื่อนข้างๆมากขึ้น เงินนั่นมันซื้อความสุขทางใจในระยะยาวไม่ได้หรอก ผมเห็นสัจธรรมแล้ว วันสุดท้ายของการสัมมนาก่อนที่ครูบาจะออกเดินทางไปประชุม ผมได้กอดกับครูบา ความรู้สึก ความประทับใจ เต็มเปี่ยมในใจจนคับพอง  ผมบอกครูบาว่า   ขอให้ครูบามีสุขภาพที่แข็งแรงนะครับ เออ ผมลืมไปว่า คุณตฤณ มาด้วยน่าจะเป็นคืนที่สองนะ เพราะรุ่งขึ้นก็แจกลายเซ็น โดยนิสัยส่วนตัวมีอะไรที่คล้ายกัน แหละนี่เป็นส่วนหนึ่งของการเข้าไปค้นพบตัวเอง ณ สวนป่าชีวาลัยอีสาน และเป็นจุดเริ่มต้นที่จะพาตัวเองเข้าสู่บ้านหลังนี้ บ้านแห่งลานปัญญา มีโอกาสแล้วเจอกันใหม่ครับ  

« « Prev : บันทึกแรกของฉัน!

Next : ความดีมีจริงหรือ » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

3 ความคิดเห็น


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.11307692527771 sec
Sidebar: 0.014695882797241 sec