ตื่นมาทำการบ้าน อิอิ

โดย จอมป่วน เมื่อ 13 พฤษภาคม 2010 เวลา 9:48 ในหมวดหมู่ จอมป่วน #
อ่าน: 1478

วันนี้ตื่นมาแต่เช้าก็เจอการบ้านรออยู่ ชอบคำถามนี้ก็เลยรีบพยายามที่จะตอบ

อันดับแรกก็พิจารณาว่าเป็นคำถามเฮงซวยไหม? ถ้าใช่ก็จะได้ไม่ต้องตอบ หรือไม่ต้องพยายามที่จะตอบ

ถ้าเป็นคำถามที่ไม่เฮงซวย ก็มาดูว่าเราตอบได้ไหม ? อันนี้จะว่าง่ายก็ง่าย จะว่ายากก็ยาก แต่นึกถึงคำพูดของเพื่อนรักของผมที่ว่า

….อ๋อ เรื่องนี้ไม่รู้เรื่อง ไม่ทราบครับ แต่จะอธิบายให้ฟัง…..

ก็เลยมีกำลังใจที่จะตอบ อิอิ

ข้อที่ 1

อ.สุรีย์…..

การจะรับนักศึกษาพยาบาลในโควตาดีเด่น ด้านการเป็นผู้นำ และจิตอาสา จะกำหนดจุดตัดสินอย่างไรดีค่ะ หากต้องหาจุดที่ชัดเจน ที่คิดไว้คือ มีคำรับรอง มีหลักฐานเชิงประจักษ์ค่ะ

ตอบ ……

อันนี้ยากมากนะครับ แต่ยังไงก็ต้องตัดสินใจเลือก

การคัดเลือกคนหรือการจะทำภารกิจใดๆ ก็ต้องใช้ความรู้ ความสามารถและประสบการณ์ทั้งหมดที่มีอยู่ในการทำงาน

ถ้าแบ่งง่ายๆก็คือใช้ทั้งความรู้ทางทฤษฎี ใช้ข้อมูล ใช้เกณฑ์ต่างๆที่พยายามสร้างขึ้นมาเพื่อช่วยการตัดสินใจ อันนี้ก็เป็นข้อมูล สารสนเทศที่ช่วยประกอบการพิจารณา

แต่ที่สำคัญมากๆอีกด้านหนึ่งคือความรู้ด้าน Soft Side หรือด้านจิตใจ ด้านจิตวิญญาณ ประสบการณ์ชีวิต หรือวัวอีกตัวนึงในสองตัวที่เทียมเกวียนไว้ช่วยลากเกวียนให้เคลื่อนไปสู่จุดหมาย

อันนี้ค่อนข้างยากสำหรับคนที่คิดแยกส่วน แยกเอาการเรียน การทำงาน การใช้ชีวิตออกจากกัน ไม่ได้มองสรรพสิ่งเชื่อมโยงกันเป็นหนึ่งเดียว

เคยดูรายการโทรทัศน์ รายการ Jazz Dream Team ของ 108 MUSIC มีรายการสัมภาษณ์นักดนตรี Jazz ที่มีชื่อเสียงระดับโลกคนหนึ่งที่ศึกษาเรื่องดนตรีของหลายๆแนวของหลายๆเชื้อชาติ มาหลอมรวมเป็นแนวทางของตัวเอง

พิธีกรถามว่าความรู้เรื่องทฤษฎีดนตรีจำเป็นไหม ? เขาตอบว่าจำเป็นมากๆที่ต้องมีความรู้เกี่ยวกับทฤษฎีดนตรี แต่เวลาเล่น เขาจะลืมให้หมดแล้วเล่นด้วยหัวใจ ไม่มีเวลามาคิดเกี่ยวกับทฤษฎีแล้ว จะมีอะไรไม่ทราบที่จะบอก จะชี้นำให้เขาเล่นโดยไม่ต้องคิด การเล่นแบบนี้จึงจะมีชีวิต ให้อารมณ์ สื่อความรู้สึกของตัวเองออกมาได้

บางคนท่าทางดี บุคลิกดี ตอบคำถามต่างๆได้ดี แต่อาจจะมีอะไรบางอย่างที่ตะหงิดๆในใจ ถ้าเราใช้สมาธิ มีสติ หรือพูดง่ายๆว่าเราพัฒนาตัวเราเอง(ด้านจิตใจ)ได้มากเท่าไหร่ก็จะคัดเลือกได้ดีขึ้นเท่านั้น

ถ้าจะนำมาประยุกต์ใช้กับการคัดเลือกคน คงต้องใช้ทุกๆอย่างในการพิจารณาเลือก ถ้าใช่ก็จะแว๊บออกมาเลยว่าคนไหนใช่ บางอย่างก็ให้คะแนนลำบากเหมือนกันนะครับ แต่อย่างว่านะครับ เราทราบเรื่องราวต่างๆของแต่ละคนน้อย มีเวลาพบปะพูดคุยน้อย ก็คงยังเป็นเรื่องที่ยากอยู่บ้างครับ อิอิ

ข้อที่ 2

อาจารย์ค่ะจะมีวิธีพูดยังไงดีให้คน ได้รู้คิดบ้างว่าต้องคิดถึงภาพรวมขององค์กร และคิดถึงส่วนรวมบ้าง การพูดตรงๆด้วยความกรุณาพอจะได้ไหมค่ะ

ตอบ………

ก็เป็นเรื่องพัฒนาตัวเองอีกนะครับ

ในการทำงาน การสอนหนังสือ การแนะนำ ชี้แนะ พูดคุยสื่อสารกับคนแต่ละคนหรือกลุ่มคนก็จะใช้วิธีการ ภาษา ที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง การพัฒนาตัวเองตรงนี้เป็นการพัฒนาตัวเองด้านจิตใจ ด้านในของตัวเองให้พร้อมตลอดเวลาที่จะพบกับผู้คน กลุ่มคนที่หลากหลาย สถานการณ์ที่แตกต่างกัน แล้วเราจะรู้ได้เองว่าจะพูดอย่างไร? จะทำอย่างไร? แบบว่าฝึกจน กระบี่อยู่ที่ใจ ไร้กระบวนท่า

เรื่องนี้ก็เคยเขียนบันทึก ใจมาก่อนกระบวนการ ไม่ได้หมายความว่าการใช้ภาษา การแต่งกาย บุคลิก และพิธีกรรม กระบวนการไม่สำคัญนะครับ ความรู้ทางด้านทฤษฎีต่างๆก็จำเป็น แต่พอถึงเวลาใช้ต้องลืมให้หมดแล้วให้มันไหลออกมาเอง ธรรมชาติๆ การเตรียมตัวล่วงหน้า การศึกษาข้อมูลของผู้คนต่างๆก็จำเป็น แต่ต้องพร้อมที่จะเปลี่ยนแปลง ปรับตัวตามสถานการณ์

การพูดตรงๆด้วยความกรุณา ถ้าใช้กับบางคน ในบางสถานการณ์ก็จะได้ผลดี แต่ใช้กับบางคน ในสถานการณ์ที่แตกต่างกันออกไป ผลอาจจะตรงกันข้าม ทั้งนี้คนที่จะพูดต้องรู้เองว่าใช้วิธีไหนจึงจะเหมาะสม

ยกตัวอย่าง กรณีคำถามเฮงซวย

ถ้าป้าหวานถามคำถามบางคำถาม แล้วอาจารย์โสรีย์ตอบว่าคำถามเฮงซวย ไม่ตอบ อาจารย์ก็ตอบตรงๆด้วยความเมตตา ป้าหวานก็ปิ๊งแว๊บ เกิดปัญญา เพราะจิตใจผ่านการฝึกมาและพร้อมรับ อันนี้ก็ได้ผล แถมยังไปกระตุกให้บางคนได้เกิดปัญญาไปด้วย

แต่ถ้าผู้ฟังไม่พร้อม ก็จะเกิดรายการจี๊ดๆ โกรธเคือง เลิกนับถือกันไปเลย

บางครั้งคนถามคนตอบเค้าเข้าใจกันเรียยร้อยไปแล้ว แต่คนฟังคนอื่นอาจจี๊ดๆเสียเอง แถมไม่เรียนรู้อะไรก็เป็นไปได้ อิอิ

ไม่ทราบการบ้านเป็นที่ถูกใจของพระอาจารย์หรือไม่ ? แต่ไม่เป็นไรหรอกครับ

คนถามก็ถามเพราะอยากถาม

คนตอบก็ตอบเพราะอยากตอบ

คนอ่านก็อ่านเพราะอยากอ่าน

คนถามถามแล้วก็สบายอารมณ์ไปแล้ว

คนตอบก็ตอบแล้ว สบายอารมณ์ไปแล้ว

คนอ่านก็อ่านแล้ว อ่านแล้วรู้สึกอย่างไร? เรียนรู้อะไร? นำไปใช้ในชีวิตได้อย่างไร? ก็เป็นเรื่องของคนอ่าน

แต่ถ้าอ่านแล้วช่วยแสดงความคิดเห็นด้วยก็จะดี ใครช่วยแสดงความคิดเห็นขอให้สบายอารมณ์ สวยขึ้นหล่อขึ้น มีความสุขมากขึ้นก็แล้วกัน อิอิ


Post to Facebook Facebook

« « Prev : คำถามเฮงซวย เรื่องของจอมป่วนตอนที่ 2 ได้อะไรจากสวนป่า?

Next : บันทึกเฮงซวย เรื่องของจอมป่วนตอนที่ 3 ได้อะไรจากสวนป่า ? » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

1 ความคิดเห็น


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.64279508590698 sec
Sidebar: 0.091794013977051 sec