คำถามเฮงซวย เรื่องของจอมป่วนตอนที่ 2 ได้อะไรจากสวนป่า?

โดย จอมป่วน เมื่อ 11 พฤษภาคม 2010 เวลา 16:27 ในหมวดหมู่ จอมป่วน #
อ่าน: 1882

ก่อนอ่านบันทึกนี้ ควรอ่านบันทึกเฮงซวย คำถามเฮงซวย : ดร.โสรีช์ โพธิแก้ว ของป้าหวานก่อนนะครับ

เดิมก็มีปัญหาคาใจอยู่ เคยอ่านเจอว่า คำถามบางคำถาม แม้พระพุทธเจ้าเองก็ไม่ตอบ และชี้แนะเรื่องนี้ไว้ ก็อ่านผ่านๆ ไม่ค่อยเข้าใจสักเท่าไหร่ ?

อาจารย์ของผมเอง เวลาลูกศิษย์ถามคำถามบางคำถาม อาจารย์ก็จะกอดอก เชิดหน้า ทำเหมือนไม่ได้ยินที่ลูกศิษย์ถาม เวลาอยู่กันส่วนตัวก็จะถามอาจารย์ว่า ทำไมอาจารย์ไม่ตอบคำถาม? อาจารย์จะบอกว่า คำถามโง่ๆ ไม่ตอบหรอก

ทบทวนดู บางครั้งตัวเองก็เคยถามคำถามเฮงซวย ถามคำถามโง่ๆ อยู่บ่อยๆเหมือนกัน

บางครั้งเคยถูกถามด้วยคำถามแบบนี้ เวลาไปร่วมอภิปราย หรือออกรายการโทรทัศน์ วิทยากรหรือพิธีกรก็ยิงคำถามประเภทนี้ หรือไปเป็นวิทยากร ก็เคยถูกผู้เข้ารับการอบรมถามปัญหาแบบนี้ ก็ไม่รู้จะตอบอย่างไรดี หรือบางครั้งก็ดันตอบไปแบบสีข้างถลอกปอกเปิก อิอิ

วันที่ได้ยินคำตอบจากอาจารย์ว่า คำถามเฮงซวย ผมไม่ตอบ ตอนแรกก็ตกใจ แล้วก็เปลี่ยนมาเป็นแปลกใจ พออาจารย์อธิบายก็รู้สึกปิ๊งแว๊บ สิ่งที่เคยคาใจก็โล่งไปเลย ได้ไอ้ที่เรียกว่าอะไรก็ไม่รู้ แต่มีประโยชน์ เราคงไม่ถามคำถามแบบนี้อีก เราจะพยายามไม่ตอบคำถามแบบนี้อีก อิอิ

ตอนหลังนี้ไม่พกปากกาและสมุดแต่จะบันทึกลงในโทรศัพท์เลย แม้จะไม่ค่อยสะดวกนัก

ถอดข้อความออกจากบันทึกในโทรศัพท์เลยนะครับ

……..

คำถามที่ไม่เหมาะสม

คำถามบางคำถาม ไม่มีคำตอบ ตอบไม่ได้ แต่ชอบถาม แล้วมีคนชอบตอบ

เป็นคำถามเชิงคาดคะเน เชิงอภิปรัชญา

พระพุทธเจ้าบอกว่าไม่จำเป็นต้องตอบทุกคำถาม

………

ขอบคุณมากครับสำหรับทั้งคำถามและคำตอบที่ช่วยเปิดกะโหลก อิอิ


Post to Facebook Facebook

« « Prev : เรื่องของจอมป่วนตอนที่ 1 ได้อะไรจากสวนป่า?

Next : ตื่นมาทำการบ้าน อิอิ » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

6 ความคิดเห็น

  • #1 ป้าหวาน ให้ความคิดเห็นเมื่อ 11 พฤษภาคม 2010 เวลา 17:18

    โอ๊ย!  ถูกตอกย้ำ  คำถามเฮงซวยแล้ว บันทึกยังเฮงซวยอีก..บันทึกไม่ได้ชื่อนี้สักหน่อย .น้าอยู่ไหน….
    จะว่าไม่อายก็ไม่ใช่นะคะ  แต่เป็นการเปิดโลก เปิดกระโหลก  ก็ยอมนะที่ไม่เคยรู้ว่า
    คำถามแบบนี้มันถูกจัดจำพวกแบบนี้  ใช่เลย เรารู้สึกเหมือนกันว่าคำถามแบบนี้
    ตอบได้หลายวิธี  การพยายามตอบอาจเป็นเมตตาของผู้ตอบ  แต่….
    เมื่อคำถามไม่จริง คำตอบก็ไม่จริง มันก็ไม่จริงทั้งเรื่อง
    หรือ อีกนัยหนึ่งคือ อะไรๆก็เกิดขึ้นได้ อะไรๆก็เปลี่ยนแปลงได้ และ อะไรๆก็ไม่แน่นอน
    อีกแง่หนึ่ง  เกี่ยวกับความคิด ความรู้สึก  มันหลากหลาย แปรปรวน จึงไม่มีจบ ไม่มีที่สิ้นสุด
    อีกแง่หนึ่ง  อ.ดร.วรภ้ทร ท่านเล่าว่า  ท่านวางหมวกไว้  แล้วให้ทุกๆคนบอกว่าเห็นอะไร
    คิดอะไร  ท่านบอกว่า คนตอบมาเยอะแยะเลย  บางอธิบายรูปร่าง  บางอธิบายทั้งหมวกและที่ตั้ง
    และบ้างบอกด้วยว่าน่าจะ อย่างนั้น อย่างนี้ ท่านจึงเฉลยว่า ไม่มีที่สิ้นสุด  สุดแต่ใครจะอยู่ในภาวะไหน
    เอาอะไรมาจับอารมณ์ ความคิด ในขณะนั้น 

    สรุปว่า  เฮงซวย คืออะไร แคว๊กๆ

  • #2 น้ำฟ้าและปรายดาว ให้ความคิดเห็นเมื่อ 11 พฤษภาคม 2010 เวลา 18:29

    โอย ! อดหัวเราะไม่ได้กับเม้นต์ของป้าหวานอ่ะค่ะ 55555555555555

    บันทึกป้าหวานชื่อ คำถามเฮงซวย : ดร.โสรีช์ โพธิแก้ว ต่างหาก พี่ตึ๋งเรียกซะอมยิ้มเลย ;)


  • #3 จอมป่วน ให้ความคิดเห็นเมื่อ 12 พฤษภาคม 2010 เวลา 8:38
    พี่น้อง…….

    ขออภัยป้าหวานครับ  ที่เขียนชื่อบันทึกผิด  ผิดพลาดจริงๆนะครับ  ไม่ใช่ลูกเล่นหรือตั้งใจจะป่วน 

    แก้ไขแล้วนะครับ อิอิ

  • #4 sompornp ให้ความคิดเห็นเมื่อ 12 พฤษภาคม 2010 เวลา 8:57

    มาอิอิอิ
    อยู่ช่วงมองนอก คิดเข้าไปในใจตนค่ะ

    กราบขอบคุณครูทุกคน
    แคว๊ก ๆ ๆ เช่นนั้นเอง

  • #5 ป้าหวาน ให้ความคิดเห็นเมื่อ 12 พฤษภาคม 2010 เวลา 10:10

    ขอบพระคุณพี่หมอค่ะ  ป้าหวานต้องขอบคุณพี่หมอต่างหากที่กรุณานำบันทึก(เฮงซวย) มาขยายความ เพิ่มประโยชน์ และป้าหวานเองที่มาป่วน  อิอิ อิอิ เคารพพี่หมอที่ซู้ด…
    น้าอึ่งคิดอะไร…ไม่บอกกันมั่ง. อิอิอิ

  • #6 freemind ให้ความคิดเห็นเมื่อ 23 พฤษภาคม 2010 เวลา 10:32

    สวัสดีค่ะ

    แวะมาอ่านครั้งที่ 2 ติดใจกับคำว่า “คำถามเฮงซวย

    และเห็นจริงดังที่หลาย ๆ ท่านได้ช่วยกันไขความคิด  แต่ก่อนมักจะคิดว่า ถามเถอะ คำถามจะทำให้เกิดปัญญาและการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เมื่อไปเรียนระดับบัณฑิตศึกษา มีชั่วโมงเรียนเกี่ยวกับ “การตั้งคำถาม” ด้วยเชื่อในสมมุติฐานที่ว่า “คำถามที่ดี สำคัญกว่าคำตอบ”

    อาจารย์หลายท่านซึ่งเป็นผู้มีเมตตายิ่ง มักจะตอบคำถามเฮงซวย (บางคำถามของบางคน) อย่างอดทน ทนอด เข้าทำนอง กล้าถามก็…ตอบให้ (ก็ได้วะ) ทำให้คนถามไม่เคยได้พัฒนาทักษะ สักแต่ว่าถาม…แต่ไม่ค่อยสนใจฟังคำตอบ ในที่สุดก็เลยวน ๆ เวียน ๆ ถามแบบนี้ ก็ตอบแบบนี้  ตกลงก็เลยไม่เกิด “สาระ” อะไรใหม่ ๆ ขึ้นกับสติปัญญาเลย

    อ่านบันทึกนี้เลยได้เปิด…โลกทัศน์ (กะโหลก) ว่า ก่อนถามน่ะ ตั้งต้นให้ถูกเสียก่อน ไม่งั้นก็เหมือนติดกระดุมเม็ดแรกผิด เม็ดต่อไปก็ผิดตามมาเป็นทิวแถว…

    ขอบคุณค่ะ


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.23271107673645 sec
Sidebar: 0.32523202896118 sec