การฝึกอบรมสัมมนา

โดย จอมป่วน เมื่อ 14 กุมภาพันธ 2009 เวลา 21:29 ในหมวดหมู่ จอมป่วน, เฮฮาศาสตร์, แลกเปลี่ยนเรียนรู้ #
อ่าน: 1667

ระยะหลังมีเหตุที่ต้องเกี่ยวพันกับการอบรมสัมมนาค่อนข้างบ่อย ทั้งในบทบาทของผู้เข้ารับการอบรมสัมมนาเสียเอง เป็นผู้เสนอโครงการฯ เป็นผู้รับผิดชอบจัด แถมเป็นวิทยากรเสียเองด้วย

อ่านตำรา ฟังบรรยาย แอบดู แอบจำ แล้วทำเองบ้าง ก็เลยอยากเอาบางประเด็นมาเล่าสู่กันฟัง สนุกๆ อ่านเพลินๆ ไม่ต้องเครียดนะจ๊ะ

เหตุที่อยากเขียนเรื่องนี้เพราะเจอการอบรมสัมมนาที่ไม่ประสบความสำเร็จ ทั้งที่ไปเป็นผู้เข้ารับการอบรม ที่ถูกเชิญไปในฐานะวิทยากร แถมยังมีที่จัดเองเสียด้วย ถ้ามีโอกาสได้ติดตามประเมินผล ก็จะคิดมากว่า

เอ๊ะ ? ทำไมไม่ได้ผลเท่าที่ควร

เอ๊ะ ? ทำไมได้ผลแป๊บเดียว ทำท่าจะดี แต่ก็ไม่ยั่งยืน

ระยะหลังนี่ก็เลยระมัดระวังมากขึ้นในการจัดการฝึกอบรมสัมมนา หรือถ้าไปเป็นวิทยากรร่วม มีโอกาสก็มักจะปรึกษาหารือกันว่าจะทำยังไงให้ได้ผลดีที่สุด คราวนี้กลับตัวไม่ทัน คราวหน้าทำให้ดีขึ้นก็ยังดี ไม่ใช่ทำไปก็ไม่ได้ผล แต่ก็ไม่เอะใจ

เริ่มต้นตรงไหนดี เริ่มที่จะอบรมสัมมนาไปทำไม? ต้องการอะไร? ประเด็นนี้ต้องชัดเจน กลุ่มเป้าหมาย วิธีการ วิทยากร เวลา สถานที่ต้องเหมาะสม

บางครั้งจะระดมสมอง แต่จัดแค่วันเดียว กว่าทั่นประธานจะมาเปิดก็มาสาย ผู้เข้าร่วมก็มาสาย ทั่นประธานมอบนโยบายและแสดงความรู้ความสามารถนานอีกต่างหาก ตามด้วยมือรองๆ แล้วก็กลัวผู้เข้าร่วมจะไม่รู้เรื่อง ก็เอาผู้เชี่ยวชาญมาบรรยายให้ฟังอีก หมดไปแล้วครึ่งเช้า แถมทานมื้อกลางวันสายอีกต่างหาก

ผู้คนก็เริ่มหายไปตั้งแต่เบรกเช้าแล้ว ทานกลางวันเสร็จก็หายไปอีกหน่อยนึง ตอนบ่ายเข้ามาก็เริ่มแบ่งกลุ่มระดมสมอง วิทยากรที่เตรียมไว้ขัดข้อง ใช้มวยแทน ขลุกขลักอยู่สักพัก ต้องรีบเลิก เพราะต้องนำเสนอผลการระดมสมองและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน ไหนจะรีบกลับไปรับลูก ฯลฯ

สรุป เอาพิมพ์เขียวที่เตรียมไว้นั่นแหละ ดีเหมือนกัน ได้ตามใจเราเลย อิอิ

หรืออยากอบรมพัฒนาบุคลากร อยากให้ทำงานเป็นทีม เอาไงดี เวลาก็ไม่มาก เช้ารอประธานตามระเบียบ วิทยากรที่เชิญมาก็เลือกเชิญที่พูดมัน สนุกแบบทอล์คโชว์ สักสองชั่วโมงเศษ แล้วไม่ได้ทำอะไรต่ออีกเลย ถ้าทำงานเป็นทีมได้ก็คงมีทีมงานที่ดีทั่วประเทศไปแล้ว อิอิ

งั้นเอาแบบ มีกิจกรรมร่วมกัน ทำวอล์คแรลลี่ ก็ดีนะครับ แต่กลับมาทำงานกันสักพักก็กลับเข้าสู่สภาพเดิม ปีหน้าจัดใหม่

หรือเอาขึ้นเขา ไปวัด ไปศึกษาธรรมะ ไปปฏิบัติธรรมกัน ลงมาใหม่ๆก็ดีนะ แต่ไม่มีกิจกรรมอื่นๆตามมาเลย สักพักก็กลับมาเหมือนเดิมเลย วนเวียนเป็นแบบหินทับหญ้า

ที่พูดมานี่ไม่ใช่อะไรหรอก อยากให้คนที่รับผิดชอบการฝึกอบรม การพัฒนาบุคคลากรมองเรื่องนี้แบบองค์รวม การฝึกอบรม ประชุมสัมมนาแต่ละอย่างควรสอดคล้องและต่อเนื่อง เสริมซึ่งกันและกัน ไม่ทำแบบม้าลำปาง หรือทำสลับก่อนหลัง ไม่สอดคล้องต่อเนื่องกัน ทำให้ได้ผลน้อย ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร

ควรมีแผนพัฒนาบุคลากรที่ชัดเจน ต่อเนื่อง มีทีมวิทยากรหรือคนที่เข้าใจเรื่องนี้คอยจัดการอยู่ ที่ดีที่สุดต้องมีแกนนำอยู่ภายในองค์กรเองที่จะทำให้มีกิจกรรมที่ต่อเนื่อง เพราะการพัฒนาองค์กรต้องทำต่อเนื่องตลอดไป

นอกจากนี้ยังต้องมีเครือข่าย แนวร่วมที่จะเป็นกัลยาณมิตร คอยแลกเปลี่ยนเรียนรู้ แลกเปลี่ยนประสบการณ์กัน

ที่สำคัญต้องไม่โลภมาก อบรมทีละเยอะๆ ให้ได้ความรู้เยอะๆ ได้การทำงานเป็นทีม มีจิตวิญญาณ มีสำนึกที่ดี……… แต่มีเวลานิดเดียว

จบตอนที่หนึ่ง โปรดติดตามตอนต่อไป……..

Post to Facebook Facebook

« « Prev : เรียนรู้และงอกงาม

Next : การพัฒนาหลักสูตร » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

7 ความคิดเห็น

  • #1 Logos ให้ความคิดเห็นเมื่อ 14 กุมภาพันธ 2009 เวลา 21:35

    ตามทฤษฎี การเปลี่ยนแปลงควรมี change agent คลุกอยู่กับกลุ่มเป้าหมาย คอยประคับประคองไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนด้วยใช่ไหมครับ

  • #2 นักการหนิง ให้ความคิดเห็นเมื่อ 14 กุมภาพันธ 2009 เวลา 21:52

    change agent เขามีบทบาทอย่างไรค่ะ

    ตอนนี้นักการหนิงเป็นทึมอนุกรรมการพัฒนาบุคลากรในองค์กร ทำไปทำมาน่าจะเป็นเหมือนที่จอมป่วนบ่นๆ นี่แหล่ะ ตานี้นักการหนิงจะหาความรู้เรื่องนี้ได้ที่ไหน เอาแบบมีด้าน Solfside ด้วยนะคะ………ขอบพระคุณล่วงหน้าหากมีท่านใดจะกรุณา

  • #3 จอมป่วน ให้ความคิดเห็นเมื่อ 14 กุมภาพันธ 2009 เวลา 22:20

    #1  รอกอด
    จริงๆแล้วเรื่องราวในโลก(จักรวาล)คือเรื่องเดียวกัน  สัมพันธ์กันหมดครับ?  แต่จะเลือกพูดแบบไหน?  แค่นั้นเองมั๊งครับ ?

  • #4 จอมป่วน ให้ความคิดเห็นเมื่อ 14 กุมภาพันธ 2009 เวลา 22:28

    ต่อๆๆๆๆ  คงต้องทำหน้าที่เหนี่ยวนำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง  แล้วช่วยหล่อเลี้ยงให้ยั่งยืนและพัฒนาขึ้นครับ

  • #5 จอมป่วน ให้ความคิดเห็นเมื่อ 14 กุมภาพันธ 2009 เวลา 22:30
    #2 นู๋หนิง

    Change Agent  ก็คือคนที่จะก่อการร้าย  เอ๊ย  ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงน่ะสิ (กวนดีมั๊ย)
    แบบว่าเหนี่ยวนำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง  หล่อเลี้ยงให้พัฒนาและยั่งยืนด้วย

    เห็นเค้าว่า  รองนายกฯที่หล่อๆน่ะ  เก่งเรื่องนี้นะ  อิอิ

    คงต้องรอ คนจำนวน 3% 5%  ที่จะสามารถเปลี่ยนแปลงองค์กรได้มั๊ง ?

  • #6 bangsai ให้ความคิดเห็นเมื่อ 14 กุมภาพันธ 2009 เวลา 22:36

    ชอบบบบบ บันทึกนี้

    • เพราะผมก็ทำงานฝึกอบรมมานับสิบปี…ทั้งเจ้าหน้าที่ และชาวบ้าน
    • ทั้งใช้เงินมากมายและไม่ได้ใช้เงิน
    • ทั้งแบบเริดหรูในโรงแรมชั้นหนึ่ง กับแบบเอาเสื่อปู เอา ตาข่ายสีเขียวๆปูใต้ร่มไม้
    • …….
    • เห็นด้วยอย่างยิ่งที่เฮียตึ๋งบรรยายมาทั้งหมด ภาพการฝึกอบรมเราเป็นเช่นนั้นโดยเฉพาะระบบองค์กรไม่ว่าราชการหรือองค์กรอื่นๆ
    • ดูเหมือนว่ากระบวนการฝึกอบรมของเราในอุดมคตินั้นถูกพัฒนามามากพอสมควรแล้ว เทคนิค ลูกเล่น เครื่องมือ วิธีการ วิทยากรเจ๋งๆมีมากมาย แต่เราก็ทำงานภายใต้ข้อจำกัดเสมอ  เลยทำให้นึกถึงคำที่ท่านพ่อครูกล่าวว่า “ทำงานภายใต้ความไม่พร้อม”
    • ผมทำงานกับผู้เชี่ยวชาญด้านฝึกอบรมของออสเตรเลีย ลุง..ฝรั่งแกบินไปอเมริกาทุกๆ4 ปี เพราะที่นั่นจะมีการสัมมนาใหญ่ 4 ปีครั้งในเรื่องเกี่ยวกับความก้าวหน้าในปัจจุบันของกระบวนการฝึกอบรมและอื่นๆ ลุงแกบอกว่ามีคนทั่วโลกบินไปเข้างานนี้และไปดูของที่เหมาะสมเอามาปรับใช้ในประเทศไทย  ส่วนมากก็เป็นความก้าวหน้าทางวิชาการที่ละเอียดลงไปอีกในเรื่องกระบวนการ การจัดการ การเตรียม การดำเนินการ การประมวลผล ฯลฯ ซึ่งส่วนใหญ่เราก็รู้ๆกันมากพอสมควรอยู่แล้ว
    • แต่ที่แปลกมากๆที่ผมเรียนรู้คือ ที่ออสเตรเลีย(ผมเคยเขียนไว้ครั้งหนึ่งแล้ว) เขามีหลักสูตรพัฒนาบุคลากรมากมายเป็นเมนูให้เลือก และให้เสนอจัดด้วย  แต่ผู้เข้ารับการฝึกอบรมไม่ใช่หน่วยงานส่งมาเข้าตามระบบไทยเรา  แต่คนนั้นจะต้องเสนอตัวเอง อธิบายความต้องการและความอยากที่จะยกระดับตัวเอง  และที่สำคัญคนนั้นต้องเสียเงินเอง หน่วยงานไม่ส่ง ไม่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น  เอากะแกซิ…..
    • หลักสูตรจะออกแบบออกมาตามความต้องการของผู้เรียนและผู้เชี่ยวชาญที่มาปรึกษาหารือสาระทั้งหมดว่าครบถ้วนกระบวนความไหม ตรงตามผู้อยากเรียนอยากศึกษาไหม…..
    • ที่สำคัญสุด ผู้บังคับบัญชาจะมีส่วนในการออกความเห็นว่าหลักสูตรนั้นจะมีประโยชน์แก่หน่วยงานมากน้อยแค่ไหน….
    • มันมีประเด็นที่น่าสนใจอีกประการหนึ่งคือ  ลูกน้องไปเรียนรู้ความรู้ใหม่ๆ การจัดการที่มีประสิทธิภาพ และสารพัดสิ่งที่จะทำให้หน้าที่การงานดีขึ้น หน่วยงานดีขึ้น องค์กรดีขึ้น  เมื่อลูกน้องเข้าไปศึกษา อบรมแล้ว แต่เจ้านายไม่รู้เรื่อง ตามไม่ทัน หรือไม่ขยับตามความรู้ใหม่ เพราะสารพัดเหตุผล ลูกน้องก็แห้ว อยากทำดีก็ทำไม่ได้ ไม่มีช่องให้เดิน…. ปัญหานี่ก็มากครับ
    • ดังนั้นในออสเตรเลียจึงมี package ต่อเนื่อง จัดสำหรับลูกน้องแล้วก็มีหลักสูตรเฉพาะนาย หรือหัวหน้างาน เพื่อให้ความรู้สอดรับกัน
    • ในหน่วยงานราชการนั้น กองฝึกอบรมที่ดีที่สุดเห็นจะเป็นที่กรมการพัฒนาชุมชน และ กพ.เองก็มีคนมือเด็ดๆหลายคน  แต่นี่เป็นข้อมูลเก่าแล้วนะครับ
    • เห็นด้วยกับคอน.. แต่นั่นหมายความว่าเป็นการจัดทำหลักสูตรทั้งองค์กร  มิใช่เพียงกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง หรือกระบวนการฝึกอบรมจะต้องสร้างกิจกรรมเชิงปฏิบัติการแบบต่อเนื่อง

    แหะๆเดี๋ยวยาว เอาแค่นี้ก่อนนะครับ

  • #7 จอมป่วน ให้ความคิดเห็นเมื่อ 14 กุมภาพันธ 2009 เวลา 23:28
    #6  ลุงบางทราย
    ไม่ยาวเท่าไหร่หรอกครับ  แค่เป็นบันทึกๆนึงได้สบายๆเท่านั้นเอง  ล้อเล่นน่ะครับ  อิอิ
    ขอบคุณมากนะครับที่มาร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ที่ลานจอมป่วน  นั่งสบายๆกินส้มตำ  หรือน้ำชาก่อนก็ได้นะครับ
    ความเห็นของลุงบางทรายมีหลายประเด็นน่าสนใจ  เป็นประโยชน์กับจอมป่วนและมิตรรักแฟนบันทึกที่แวะเวียนมาอ่านมากครับ  ขอบคุณหลาย  อิอิ

แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.60928511619568 sec
Sidebar: 0.10738492012024 sec