บ้านแบบไหนดี

โดย อุ๊ยสร้อย เมื่อ มีนาคม 14, 2012 เวลา 10:11 (เย็น) ในหมวดหมู่ การเรียนรู้ชีวิต #
อ่าน: 15650

ในชีวิตนี้เคยอยู่บ้านไม่กี่หลัง บ้านที่อยู่ส่วนมากเป็นพื้นที่อาศัยร่วมกันกับหลายๆคน

ไม่ว่าจะเป็นหอพักสมัยเรียนหนังสือที่ถูกบังคับให้มีรูมเมท สองคน สามคน หกคน
หอพักที่เรียกให้โก้ว่าแฟลตทั้งแบบใช้ห้องน้ำร่วมกันหลายคนกับมีห้องน้ำส่วนตัว
ซึ่งสังเกตว่าหอพักนักศึกษาของประเทศไทยจะไม่มีครัวและที่ซักล้าง นักศึกษาทุกคนต้องซื้ออาหารทุกมื้อ เพราะนอกจากจะไม่มีครัวแล้วยังห้ามทำครัวในห้องด้วย

ขณะที่หอพักในต่างประเทศจะมีส่วนของห้องครัวที่กว้างขวาง นักศึกษาทุกคนก็ทำอาหารเองและมีที่ซักล้างแบบหยอดเหรียญ

เคยอยู่ห้องแบ่งเช่าในบ้านสมัยไปศึกษาดูงานและทำวิจัยต่างประเทศที่ต้องใช้ห้องน้ำรวม ครัวรวม และต้องไปอาศัยบริการซักผ้าในร้านข้างนอกบ้าน แต่ทุกบ้านที่เคยอยู่จะเหมือนกันที่ความเงียบแต่แวดล้อมด้วยผู้คน ถึงแม้ว่่าจะ ต่างคนต่างอยู่ ทักทายกัน คุยกันบ้างเวลาเจอกัน แต่ไม่ได้สนิทสนมจนเข้าไปในห้องของใครๆ อยากเจอกันก็นัดที่ห้องกลาง

ประสบการณ์อยู่หอพัก แฟลต บ้าน แบบนี้ทำให้เคยสงสัยว่าถ้าได้อยู่บ้านที่อยู่ในสวนลึกๆ เดี่ยวๆ เงียบๆ จะเป็นอย่างไงนะ แถมเมื่อเวลาที่ฟังใครเขาเล่าว่าถ้าเขาเครียดหรือกลุ้มใจ เขาก็จะเดินไปหาที่เงียบๆในสวนอยู่คนเดียว …ก็ว่าดีนะ ..คนอยู่บ้านสวนมีที่ทางกว้างๆ ก็คงไม่ค่อยทะเลาะกัน คงเดินไปคนละทิศละทาง พอสงบสบายใจก็ค่อยมาเจอกัน

แต่ก็ด้วยความที่ไม่เคยอยู่ในสภาพอย่างนั้นก็คิดอีกว่า อ้าวแล้วเวลาอยู่คนเดียวนานๆ จะเป็นโรคซึมเศร้าไหมน่ะ น้ำลายบูดไหมไม่มีคนพูดคนคุย (อิอิ)

แต่บ้านหรือที่อยู่ที่มีเสียงดังรบกวนมาก หรือเสียงที่เกิดจากเครื่องกลที่ไม่หยุดไม่หย่อน ก็เป็นมลภาวะที่เขาบอกว่าเป็นตัวสร้างอนุมูลอิสระ เป็นตัวกระตุ้นการเกิดโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ

ก็ว่าน่าจะใช่เพราะเสียงที่รบกวนมันเป็นสิ่งเร้าที่ไปทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนจากต่อมหมวกไต ซึ่งจะทำหน้าที่ในการเผาผลาญน้ำตาล ไขมัน โปรตีนในร่างกาย หัวใจจะเต้นเร็ว หลอดเลือดหดตัว ความดันโลหิตสูงขึ้น น้ำตาลในเลือดสูงขึ้น ฯลฯ

จะเลือกบ้านเลยต้องคิดหลายเรื่อง เสียง สถานที่ ขนาด ฯลฯ

นึกถึงสังขารที่โรยแรงด้วยแล้ว คิดๆ เอาเฉพาะที่สนใจว่า คนแก่จะอยู่สะดวกไหม

เพราะนึกถึงตอนแก่ แข้งขาไม่ค่อยแข็งแรง หูตาฝ้าฟาง ก็คงใช้พื้นที่อยู่ไม่มาก อยากอยู่แบบมีเพื่อนแต่ก็ยังต้องการความเป็นส่วนตัวอยู่ (เรื่องมากจริงๆ…อิอิ)

พอพ่อครูบาพูดถึงหมู่บ้านโลกเลยสงสัยอยากเห็นว่าจะอยู่ตรงไหน อย่างไร เลยถือโอกาสไปขอดูสถานที่ ….ครูบาก็ใจดีพาเดินไปดู แถมอธิบายตอบข้อซักถามหลายอย่าง

อุ๊ย  “ครูบาคะ บ้านนี่จะกี่ชั้นคะ”

ครูบา “เขาก็ดูๆแบบกันอยู่”

อุ๊ย “ครูบาคะ บ้านจะยกย้ายได้ไหมคะ”

ครูบา ..”จะทำแบบยกย้ายได้”

อุ๊ย “โห….แบบนี้คงสนุก ย้ายทุกวัน…อิอิ”

ครูบา “ย้ายด้ายยยยย จะวันละหลายๆรอบก็ได้….ฮ่าๆๆๆ”

อุ๊ย “งั้นถ้าเบื่อขี้หน้าคนทางซ้ายก็ย้ายไปทางขวา เบื่อทางขวาก็ย้ายไปทางซ้าย ย้ายวันละสามเวลาหลังอาหาร…อิอิ”

ครูบา “….(เงียบไปสักพัก)….ต้องดูด้วยว่าใครจะมาอยู่หมู่บ้านโลกได้บ้าง ..ต้องเลือกเหมือนกัน…..(เงียบ)”

อุ๊ย….(เงียบ อุทานในใจ  “ชะอุ๊บ..ซะไหมล่ะ…ฮ่าๆๆ…..)

อิอิ……

ตอบคำถามจากบันทึกคุณเกด...คำเมือง: นั่งก๊กง๊ก เหมือนครกบ่อต๋ำ...มหาชีวาลัยอิสาน 5-9 พ.ค. 2553: 1. ปิติยินดี...ฉลาดแคบ โง่กว้าง...คำเมือง: นอนดึกตื่นขวาย...หัวข้อวิจัยนี้ทำได้ไหม...โอ้..กรุงเทพเมืองฟ้าอมร...

« « Prev : พลังเยียวยาจากสวนป่า

Next : ร้อน สุด สุด » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

2436 ความคิดเห็น


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 5.4997460842133 sec
Sidebar: 0.044898986816406 sec