ร้อน สุด สุด

โดย อุ๊ยสร้อย เมื่อ เมษายน 25, 2012 เวลา 11:40 (เย็น) ในหมวดหมู่ การเรียนรู้ชีวิต, ข้อมูลสุขภาพ, ธรรมะในชีวิตประจำวัน #
อ่าน: 4181

เดือนเมษายน ปี 55 นี้อากาศร้อนมาก
เมื่อก่อนเวลาฟังข่าวบอกประเทศโน้นนี้ อากาศร้อนอุณหภูมิสี่สิบองศา…นึกว่าจะอยู่อย่างไร
ปีนี้เจอกับตัวเองซะแล้ว

ตอนเป็นเด็กๆ ช่วงหน้าร้อน อากาศมักจะร้อนกลางวัน เย็นจนยังต้องห่มผ้าตอนกลางคืน
แล้วอุณหภูมิก็เขยิบขึ้นเรื่อยๆ ตามปี พ.ศ
แต่
ปีที่แล้วอากาศวิปริตหนัก
เดือน มีนาคม เมษายน ต้องงัดเสื้อกันหนาวมาใส่เพราะมีแรงกดอากาศจากจีน ทำให้มีทั้งฝนและลม

ปีนี้อากาศกลับตาละปัตร เกิดร้อนฮวบฮาบ
ทำให้น้ำเย็น น้ำแข็งขายดิบขายดี
น้ำหวานต่างๆพลอยขายดีไปด้วย

วันก่อนที่เริ่มร้อนๆ ก็ไปซื้อน้ำยาอุทัยทิพย์ มาหยดในน้ำเย็น ดื่มแล้วชื่นใจ
น้ำก็สีแดงๆ เหมือนน้ำหวาน แต่ไม่มีน้ำตาล ดื่มแล้วไม่กังวลว่าจะกินน้ำตาลเกินไปหรือเปล่าด้วยใครที่ยังไม่เคยดื่มน้ำยาอุทัยทิพย์ก็ลองดูนะคะ …ดับกระหายคลายร้อนได้ดีเชียวค่ะ

ระยะนี้คงคุ้นหู คุ้นตา กับประกาศเตือนของสาธารณสุขเรื่องให้ระวังอาหารเป็นพิษ และพูดถึงด้วยว่าน้ำแข็งก็เป็นแหล่งแพร่เชื้อ จากกระบวนการผลิตจนถึงการตักจำหน่าย

อาหารปรุงสำเร็จก็เป็นอีกอย่างที่ สา’ สุขเตือนให้ระวัง

คนซื้ออาหารกินประจำ ต้องระวังมากขึ้น อากาศร้อนๆ อย่างนี้ อาหารบูดง่าย
คนซื้อกินเสี่ยงท้องเสีย พอๆ กับการได้รับสารพิษจากยากันบูด

*************

จะอย่างไรถึงจะป้องกันเรื่องท้องเสียได้

ท้องเสียภาษาชาวบ้านคือการถ่ายอุจจาระบ่อย อาจถ่ายเหลวหรือไม่ก็ได้
ทางการแพทย์ มักหมายถึงการติดเชื้อ

แต่ในความเป็นจริง การถ่ายบ่อยอาจจะไม่ใช่ติดเชื้อก็ได้
เป็นเรื่องของการที่ลำไส้ถูกกระตุ้นจนขับถ่ายบ่อย

อย่างเช่นบางคนกินเผ็ดก็จะถ่ายบ่อยอย่างนี้ค่ะ

แต่ถ้าจะป้องกันการถ่ายบ่อยจากการติดเชื้อ ก็ต้องงัดความรู้พื้นฐานมาใช้

1      ล้างมือเสมอ ใช้สบู่หรือจะใช้เจลล้างมือก็ได้ ผลการวิจัยจากต่างประเทศบอกว่ามีประสิทธิภาพไม่แตกต่างกัน
2      ฉลาดเลือก จะเลือกหยิบอาหารเข้าปาก ต้องฉุกคิดก่อนว่า เป็นกลุ่มอาหารปรุงสำเร็จที่น่าไว้วางใจไหม ปรุงสุกไหม เลี่ยงน้ำแข็งที่ไม่แน่ใจในความสะอาดได้ก็จะดี…ที่จริงเรื่องน้ำแข็งนี้ไม่เหมาะกับคนที่เป็นหวัดง่ายอยู่แล้ว เพราะอุณหภูมิที่ลดลงในช่องคอจะทำให้แบคทีเรียเจริญเร็วด้วยซ้ำ ถ้าเจอน้ำแข็งที่ไม่สะอาดก็จะมีโอกาสท้องเสียร่วมเข้าไปด้วย
3      อาหารที่เหลือจากการรับประทานจะเก็บไว้ต้องพิจารณาว่าควรเก็บอย่างไรที่จะไม่บูด
4      ตัดตอนแหล่งเพาะแมลงวันโดยไม่ทิ้งเศษอาหารเรี่ยราด
5      ไม่ใช้แก้วน้ำ จาน ชาม ช้อน ปะปนกัน ซึ่งจะลดโอกาสเกิดการติดเชื้ออีกหลายๆ อย่าง ด้วย
6      ถ้าป้องกันแล้วก็ยังเกิดท้องเสีย ก็ต้องเข้าสู่ขั้นตอนเฝ้าระวัง เพื่อสังเกตว่าลักษณะการถ่ายเป็นอย่างไร บ่อยไหม เพลียอ่อนแรงมากไหม
7      ถ้าท้องเสีย ร่างกายจะเสียน้ำและเกลือแร่ ถ้ามีผงเกลือแร่ก็ใช้ แต่ถ้าไม่มีก็ใช้น้ำต้มสุก ผสมเกลือแกง และน้ำตาล ให้ได้โซเดียมและน้ำตาล ….ในที่ๆ ฉุกเฉิน ไม่มีอุปกรณ์ ใช้น้ำโค๊กเติมเกลือเขย่าจนหมดฟองก็พอปะทัง หรือใช้น้ำชาชงแก่ๆ แต่ถ้ามียาสมุนไพรติดบ้าน พวกยาหอมที่ผสมรางจืดจะช่วยขับพิษเชื้อได้ ถ้าติดเชื้อน้อยๆ ก็จะอาเจียนออกมาจนหมด แล้วอาการจะดีขึ้น
8      หัดสังเกตอาการ ถ้าท้องเสียแบบติดเชื้อจะมีอาการปวดมวนท้อง อาจจะถ่ายเป็นน้ำ มีมูกเลือดปน หรืออาเจียนด้วย…ถ้าปล่อยให้ท้องเสียมากๆ อาจจะหมดสติเพราะเสียน้ำและเกลือแร่มากเกินไป อย่างนี้ขอใครช่วยพาไปหาหมอได้
9       ถ้ากำลังตั้งครรภ์ แล้วมีอาการท้องเสีย ก็ต้องใช้หลักเดียวกับคนไม่ท้อง แต่เพิ่มเรื่องการระวังน้ำตาลในเลือดต่ำเพราะทารกในครรภ์จะใช้น้ำตาลตลอด ทำให้คนตั้งครรภ์มีโอกาสน้ำตาลในเลือดต่ำง่ายกว่า  คนตั้งครรภ์จะมีข้อจำกัดเรื่องการใช้ยาระหว่างการตั้งครรภ์ ถ้าหากว่าท้องเสียหลายครั้งก็ไม่ต้องซื้อยากกินเอง ไปหาหมอดีกว่า

********************

หลายปีก่อนเคยอ่านหนังสือนิตยสารต่างประเทศเกี่ยวกับการเตรียมตัวท่องเที่ยวในประเทศไทยสำหรับคนต่างชาติ เขามีข้อแนะนำที่น่าสนใจอยู่หลายข้อ จำได้ว่ามีเรื่องน้ำ คือ ไม่ให้ดื่มน้ำจากก๊อก ให้ซื้อน้ำที่บรรจุขวด มีรับรอง อย. สำหรับการแปรงฟัน ล้างหน้าและดื่ม
อีกเรื่องคือห้ามซื้ออาหารที่ขายทั่วไป มีข้อแนะนำให้กินอาหารในร้าน หลีกเลี่ยงอาหารเนื้อสัตว์ ทางที่ดีควรกินอาหารมังสะวิรัติ
ข้ออื่นๆที่เหลือจะเป็นการเตรียมพวกยาต่างๆ ที่จำเป็น

นิตยสารแนะนำการระวังตามความจำเป็นเพราะรู้ว่าอากาศร้อนๆ เชื้อโรคแพร่ง่าย และมาตรฐานเรื่องน้ำและอาหารของประเทศไทยยังอยู่ในระยะพัฒนา หลายๆ จังหวัดก็ยังขาดแคลนน้ำกิน น้ำใช้

ดูแลสุขภาพกันนะคะพี่น้อง ร้อน สุด สุด อย่างนี้มีสิ่งควรระวังหลายอย่าง …เวลาร้อนๆ คนก็หงุดหงิดง่าย พูดไม่เข้าหูละก็มีเรื่องกันได้….ระวังพวกท้องเสียแล้วก็ต้องระวังไม่ให้ใจร้อนด้วยก็จะดีค่ะ

***************

บันทึกข้างบนนี้เขียนเมื่อวันจันทร์ที่ 23 เมษายน ที่ผ่านมาแต่ไม่ได้โพสต์

วันนี้…อ้าวเกิดอาการท้องเสียซะแล้ว

เป็นท้องเสียจากการกินเผ็ดมากเกินไป ไม่ได้รุนแรงอะไร…แต่ว่า….มาท้องเสียตอนประชุมและต้องนำเรื่องเข้าปรึกษาหาข้อสรุป ต้องอธิบายและรับฟังการอภิปรายซะด้วย

ฮ่าๆๆ…ใครที่เคยเจอประสบการณ์ของการปวดท้อง ศัตรูจู่โจมแต่ไม่สามารถวิ่งจู๊ดไปเข้าห้องน้ำได้ทันที แถมนั่งในตำแหน่งที่คนมองมาเป็นจุดเดียวกันอีก…ฮ่าๆๆ…คงเข้าใจ้ เข้าใจดีนะคะว่า…เป๋นจะได

**************

แล้วในภาวะคับขันนั้น ทำอย่างไงน่ะ…เล่าให้ฟังค่ะว่า ใช้การกำหนดค่ะ กำหนดลมหายใจ แผ่วๆ ลึกๆ หายใจด้วยทรวงอก ไม่ใช่ท้องพองท้องยุบนะคะ เพราะการหายใจด้วยกล้ามเนื้อท้องจะไปดันกระบังลมให้กดลงไปที่ช่องท้องมาก ยิ่งจะปวดท้องมากขึ้น

ใช้หลักการเทคนิคการหายใจสำหรับคนคลอดลูกมาช่วยเหลือตัวเองค่ะ

เป็นเทคนิคของการลดความเจ็บปวดโดยไม่ใช้ยาด้วยหลักการของการเบี่ยงเบนความสนใจและเทคนิคการหายใจ เพียงแต่สาเหตุของความเจ็บปวดต่างกัน

เวลานั้นก็เรียนรู้ด้วยว่า ที่เคยได้ยินว่าการฝึกสติต้องฝึกบ่อยๆเรื่อยๆ เพราะถ้าหากไม่เคยฝึกแล้วในยามทุกข์ไปฝึกน่ะ มันมักไม่ทันการณ์ แต่ถ้าเคยฝึกจะเกิดอัตโนมัติในยามฉุกเฉินนั้นเป็นอย่างนี้เอง

หูก็ฟังคำอภิปรายไป ..วูบหนึ่งของความคิดเกิดอกุศลจิตว่า ทำไมคนพูดถึงได้พูดนานจังไม่สรุปสักที จะได้ลุกไปเข้าห้องน้ำ
แต่ก็ยังมีสติทันความคิดว่า เราเองไปกำหนดคนอื่นอีกแล้ว….
ต้องขอบคุณครูบาอาจารย์ที่ได้สั่งสอนและเตือนไม่ให้ประมาท
เพราะได้ใช้จริงๆ ถึงจะตั้งสติได้ช้าแต่ก็ยังพอมี

***************

บันทึกนี้ก็ลงเอยอย่างนี้ น่าจะโพสต์ได้แล้ว …เริ่มยาวและไปคนละทิศละทางกับหัวข้อ …..อย่างนี้ค่ะ..

*****************

ได้ข่าวว่าพรุ่งนี้ (26 เมษายน ) อากาศจะร้อนที่สุด

เตรียมตัวเตรียมใจ รอมีประสบการณ์กันสักทีนะคะ…คำเมืองเรียกว่า “จะสักม๊อกได” ….น่ะค่ะ

« « Prev : บ้านแบบไหนดี

Next : ปรองดองหรือต่อรอง » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

465 ความคิดเห็น


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 1.5483629703522 sec
Sidebar: 0.01526403427124 sec