ปรองดองหรือต่อรอง

โดย อุ๊ยสร้อย เมื่อ เมษายน 30, 2012 เวลา 10:24 (เช้า) ในหมวดหมู่ การเรียนรู้ชีวิต #
อ่าน: 4699

หมอจอมป่วน (สุธี) ส่งข้อความให้ออกความเห็นเรื่องปรองดอง..จะเดินหน้ากันอย่างไง

ดูเหมือนว่าคำฮิตของไตรมาสแรกปีนี้ คงคำว่า ปรองดอง (มั้ง)
แถมไม่ใช่คำบ้าน บ้าน

เพราะต้องเอาไปตีความกันในระดับบริหารประเทศเลยแหล่ะ

เรื่องของการเมือง ยกออกไปก่อนค่ะ ไม่ค่อยนิยมวิพากษ์เรื่องที่ไม่ค่อยจะรู้เรื่องกับเขาเท่าไหร่นั้นหรอกค่ะ

แต่มาสนใจกับคำว่าปรองดองว่าที่จริงแล้วทำอย่างไร
ในชีวิตคนเราพื้นๆ บ้านๆ มีเรื่องต้องปรองดองไหม

จะดำเนินชีวิตประจำวัน คงมีเรื่องราวที่ต้องคิดตัดสินใจ เลือก หาทางออกกับทางเลือกให้ทุกอย่างลงตัว
ไม่ว่าเรื่องเงินขาดมือ
จะเอาลูกเข้าโรงเรียนไหน
ย้ายงานดีไหม
จะอยู่ในภาครัฐหรือเอกชนดี ฯลฯ

คนเราก็เลยต้องมีเรื่องให้ตัดสินใจปรองดองในเฉพาะตัวเองกับคนอื่นเพื่อให้ทางเลือกลงตัว หมุนชีวิตไปให้ได้ในแต่ละวันๆ

แต่ไม่ว่าอย่างไร….จุดประสงค์ก็คงที่ “ประโยชน์” คนเราปรองดองเพื่อประโยชน์นั่นแหล่ะ…คือปรองดองเพื่อก่อให้เกิดประโยชน์….ตามการคิด การอ้าง ของแต่ละคนไป…อ้างมากอ้างน้อยก็ไม่ว่ากัน….เช่นประโยชน์กับลูก ประโยชน์กับครอบครัว ประโยชน์กับสังคม

การปรองดองถ้าคิดอีกที…มันก็คือการต่อรองหรือเปล่า

ต่อรองกับตัวเอง ต่อรองกับคนในครอบครัว เพื่อนร่วมงาน ฯลฯ เพื่อให้ได้รับประโยชน์เป็นความสบายใจ อยู่กันไปได้
โดยที่หลายๆครั้ง อาจจะไม่ได้ทำการแก้ปัญหา แต่กลายเป็นปรองดองเพื่อเลี่ยงปัญหา

…………………………………..ง

การแก้ปัญหานั้น…บางทีก็ลืมๆว่าทางเลือกคนเรามักไม่ได้มีเพียงหนึ่ง
ถ้าหากมีสติไตร่ตรอง ใคร่ครวญให้ดีก็คงได้เห็นมาก
แต่ส่วนใหญ่เวลาคิดอะไร มักลืมและก็ยังคงใช้กฎขาว-ดำว่า ใช่หรือไม่ใช่ สู้หรือหนี ชนะหรือแพ้
คงเพราะชีวิตมันรีบเร่งไปหมด ยิ่งกับความซับซ้อนมากขึ้นของสังคมปัจจุบันด้วยแล้ว

ปัญหาอะไรมา ก็รีบๆตัดสินใจ…ทำไปก่อนแล้วค่อยว่ากันทีหลัง….ประมาณนั้น

ที่จะมาหายใจลึกๆ ยาวๆ ใคร่ครวญ ต้องผ่านการฝึกมากเลยล่ะ และอาจถูกค่อนขอดว่า ช.ช.ช (ชวนเชื่องช้า) ตกขอบไปเลยกับสังคมปรู๊ดปร๊าดแบบสมัยนี้

แล้วจะปรองดองควรจะทำอย่างไร

นั่นซินะคะ…ถ้าใครคิดสูตรสำเร็จของการปรองดองได้…คงเทียบเท่ากับการกู้ชาติได้เลยแหล่ะ (มั้ง)

และทุกคนก็มีสิทธิคิดเพื่อกู้ชาติด้วยกันนี่นา

อย่างนี้ค่ะว่า
ถ้าคิดเพื่อประโยชน์ของชาติประเทศ
อันดับแรกคือเลิกคิดว่าจะ “ปรองดอง” ซะก่อน

เพราะเวลาที่คิดจะปรองดองแสดงว่าต่างก็พอจะรู้ว่าตัวเองนั้นจะเอาเหตุผลอะไรไปอ้างเพื่อให้อีกฝ่ายยอมรับ…ทีนี้ก็จะเกิดการหาทาง(ทุกวิถีทาง) งัดเหตุผลมาใช้

เจ้าเหตุผลนี่แหล่ะค่ะ….มันมักว่ากันคนละเวอร์ชั่น บางคนมองที่เหตุ บางคนมองที่ผล บางคนมองที่วิธีการ
แถมมักมีอะไรพ่วงท้ายเรื่อยๆ

เหตุผลบางทีมันก็ไม่ได้เป็นไปตามกฎธรรมชาติ

มองหาจุดโหว่ของกฎระเบียบ กฏหมายบ้านเมือง เพื่อยกมาอ้างว่า “ทำไม่ผิด…เพราะใครๆ ก็ทำกัน”

“”"”"”"”"

ก่อนจะทำอะไร….ควรจะกลับไปไตร่ตรองให้ชัดๆ ก่อนว่าเพราะเหตุใด อะไร มีแรงจูงใจอย่างไง ที่ตนเองอยากให้เป็นอย่างนั้น อย่างนี้
แยกแยะความคิดเห็นของตัวเองให้ได้ว่า ได้ตัดสินใจนั้น มันเป็นเรื่องของอารมณ์ ความคิด อย่างไง ให้ความหมายและคุณค่ากับสิ่งที่ตัดสินใจนั้นอย่างไง

คนเรานี้หากมีสมาธิ มีสติ มันจะเกิดความเข้าใจอย่างมากต่อสิ่งที่ผ่านมา เมื่อเข้าใจแล้วจะเกิดการไตร่ตรองใคร่ครวญมากขึ้นว่าจะแก้ปัญหาอย่างไง จะเลือกได้ว่าจะยังคงสนับสนุนความคิดเดิมหรืออยากเปลี่ยนความคิดใหม่

ระหว่างที่ไตร่ตรองก็ต้องคอยเตือนตัวเองว่า กำลังคิดและทำเพื่อประโยชน์ของชาติเป็นที่ตั้ง วางตัวตนของตัวเองก่อน จะได้รับโทษหรือสรรเสริญก็ไม่สำคัญไปกว่าประเทศชาติ

………………..

ก็มีแนวคิดอย่างนี้ ก็คิดกู้สติปัญญาของตนเองก่อน ก่อนที่จะไปคิดเอาเหตุผลไปกู้ความคิดสติปัญญาของคนอื่น
ไม่ต้องไปหาวิธีว่าจะเอาเหตุผลอะไรไปถก ไปเจรจาเพื่อจับมือปรองดองถ้าใจยังไม่นิ่งสงบพอ…ขืนดังทุรังไป จะไม่ได้กู้ชาติแล้ว ยังจะทำลายชาติซะงั้นล่ะค่ะ

…..

บันทึกนี้จะว่าเป็นการทำการบ้านของหมอสุธี ก็ไม่เชิงค่ะ

แต่ว่ากันง่ายๆ แบบบ้าน บ้าน …นะคะ ท่านประธานที่เคารพอย่างสูง

« « Prev : ร้อน สุด สุด

Next : แรงงานขั้นต่ำ » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

624 ความคิดเห็น


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 4.4811611175537 sec
Sidebar: 0.16532588005066 sec