เคล็ดลับดับทุกข์

4 ความคิดเห็น โดย freemind เมื่อ 15 สิงหาคม 2010 เวลา 11:00 (เช้า) ในหมวดหมู่ ปรัชญา แนวคิด ชีวิต #
อ่าน: 2692

@

@@@หลายวันที่ผ่านมาได้รับบทเรียนของ ความทุกข์หลายบท ทั้งจากเรื่องส่วนตัวที่ทำงานไม่ค่อยได้ตามเป้าหมายที่ตั้งใจ ทั้งความทุกข์ของเพื่อน ความทุกข์ของญาติผู้ใหญ่ในครอบครัวที่เจ็บป่วยและไม่สามารถช่วยเหลือท่านได้

๑๑๑ ส่วนตัวยอมรับและตระหนักถึงความจริงที่ว่า ความทุกข์ เป็นของคู่กันกับ ความสุข เพราะเป็นสองด้านของโลก มีสุขต้องมีทุกข์มาคอยเตือนไม่ให้หลงระเริงเกินเลยไปในสุขนั้น มีทุกข์มากมายก็ย่อมมีสุขตามมาสร้างสมดุลให้ชีวิตบ้าง เป็นธรรมดาผลัดเปลี่ยนเวียนไป

๑๑๑ แต่คนเราก็มักจะ รักสุขเกลียดทุกข์ เจอทุกข์แม้จะไม่ชอบแต่กลับหมกมุ่นกับทุกข์นั้น… วันนี้ได้รับเมลดี ๆ จากกัลยาณมิตรแต่เช้า ส่ง เคล็ดลับดับทุกข์ ที่ลัดสั้นที่สุด และสามารถปฏิบัติได้ในชีวิตประจำวัน ของท่านอาจารย์วศิน อินทสระ มาให้

เคล็ดลับการดับทุกข์ มีอยู่ 2 ปริยายคือ

1. คิดในทางยอมรับว่า ทุกข์เท่านั้นเกิดขึ้น ทุกข์เท่านั้นตั้งอยู่ ทุกข์เท่านั้นดับไป

- นอกจากทุกข์ไม่มีอะไรเกิด นอกจากทุกข์ไม่มีอะไรดับ
- ถึงเราไม่ดับ มันก็ดับไปเองเพราะมันไม่เที่ยง

2. คิดโดยโยนิโสมนสิการว่า ทุกข์นี้เกิดขึ้นเพราะเหตุไร แล้วไปดับที่เหตุ ความทุกข์ก็จะดับไป เหตุแห่งทุกข์มีมาก แต่กล่าวโดยสรุปคือ

- ความยึดมั่นถือมั่นในขันธ์ห้า เป็นทุกข์โดยรวบยอด
- เพราะฉะนั้นพึงปฏิบัติเพื่อลดละความยึดมั่นถือมั่นในเบญจขันธ์เสีย ความทุกข์ก็จะดับไปทำยากแต่ก็ทำได้

๑๑๑

๑๑๑ กล่าวโดยสรุปถึง เคล็ดลับการดับทุกข์ของท่านอ.วศิน ก็คือ การยอมรับถึงลักษณะของทุกข์ว่า เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไปเองในที่สุด จึงไม่ควรผูกใจไว้กับทุกข์อันไม่คงที่่ไม่มีตัวตนนั้น และให้ลดละการยึดมั่นถือมั่นในเบญจขันธ์อันเป็นสาเหตุหลักแห่งทุกข์ เมื่อเข้าใจทุกข์เช่นนี้แล้ว ก็จะดับทุกข์ได้โดยปริยาย

๑๑๑

๑๑๑๑

เราคงยังไม่พ้นทุกข์ไปได้ทั้งหมดหรอก

เอาเพียงว่าแค่ เข้าใจในทุกข์และอยู่กับทุกข์นั้นได้ ก็แล้วกัน

:-D


อิสระที่แท้

2 ความคิดเห็น โดย freemind เมื่อ 14 สิงหาคม 2010 เวลา 1:58 (เย็น) ในหมวดหมู่ การจัดการความรู้ #
อ่าน: 1973

@@@@

Surely, the freedom from the self,

and therefore the search of reality,

the discovery and the coming into being of reality,

is the true function of man

จากหนังสือ On the true function of man

Krisanamurti

@@@@

แน่ล่ะว่า…การเป็นอิสระจาก อัตตา เพื่อนำไปสู่การค้นหา ความจริง/สัจจะแห่งชีวิต เป็นบทบาทหน้าที่อันแท้จริงของมนุษย์

แต่เราอยู่ในโลก ซึ่งหลากหลายผู้คน ความคิด ความเห็น และเราก็มีบทบาทหน้าที่ที่ต้องสัมผัสสัมพันธ์กับผู้คนเหล่านั้น เราจะเลี่ยงได้หรือ ได้อย่างไร ด้วยวิธีใดที่จะไม่ทำร้ายความรู้สึกคนอื่นและไม่เบียดเบียนตัวเองจนรู้สึกอึดอัด

เราต้องทำอย่างไรจึงจะอยู่เหนือจากอิทธิพลครอบงำเพื่อเป็นอิสระและมุ่งตรงไปสู่บทบาทและหน้าที่ที่แท้จริงของมนุษย์

@@@@

ได้โจทย์ใหม่…ท้าทายอีกแล้ว

:-?


ถอยเพื่อถึง

5 ความคิดเห็น โดย freemind เมื่อ 12 สิงหาคม 2010 เวลา 5:16 (เย็น) ในหมวดหมู่ การจัดการความรู้ #
อ่าน: 2044

@@@@

@@@กำลังนั่งคร่ำเคร่งเอาเป็นเอาตาย รีบทำงานให้เสร็จตามที่ตั้งใจก่อนจะต้องเดินทางไปต่างจังหวัดกับครอบครัวในเย็นนี้ เจ้าสามใบเถาคนกลาง สาวเจ้าปัญหาประจำบ้านเดินมาเยี่ยม ๆ มอง ๆ หลายรอบ แต่คุณยายน้อยไม่สนใจ จนในที่สุดเธอก็นั่งแหมะเบียดที่เก้าอี้หน้าคอมพ์ … สร้างความรำคาญเล็ก ๆ ให้คุณยายน้อยผู้กำลังเร่งรีบอย่างยิ่ง… เลยถามว่ามานั่งเบียดทำไม กำลังรีบ พิมพ์ไม่ถนัด เธอถามว่าทำไมต้องรีบทำวันนี้ ก็รีบบอกว่าเพราะต้องทำงานให้เสร็จก่อนจะไปกับพวกหนูไงล่ะ ถอยไปหน่อยได้ไหมขอร้องล่ะ… เสียงถามต่อว่า ทำไมต้องทำให้เสร็จก่อนไป อ้าว…ก็ต้องส่งงานให้อาจารย์ดูวันจันทร์ ไม่ทำวันนี้แล้วจะทันได้ไง อาจารย์ยิ่งให้แก้เยอะแยะอยู่ด้วย เธอลุกขึ้น ถอนใจเสียดังเชียว บอกว่าหนูว่านะ… คนเราน่ะต้อง ถอยเพื่อถึง นะค้า…

คุณยายน้อยหูผึ่ง…อะไรนะ ถอยเพื่อถึง คืออะไร เธอเลยเล่าว่าวันนี้คุณพ่อพาไปเสถียรธรรมสถาน  คุณยาย (คุณแม่ชีศันสนีย์) ท่านเล่านิทานว่า มีคนขับรถเข้ามาในซอยแคบ ๆ สองคัน ไม่มีใครยอมถอย ลงมาทะเลาะกัน คุณแม่ชีบอกว่าเห็นไหมถ้ามีคนหนึ่งยอม ถอย ทั้งสองคนก็ได้ไปและถึงที่หมายปลายทางที่จะไปแล้วล่ะ มัวทะเลาะกันไม่ยอมถอยก็เลยติดแหง็กอยู่ตรงนั้นทั้งคู่เลย…

ฟังแล้ว ร้องอืม…น่าคิด ถามต่อว่าแล้วเกี่ยวอะไรกับเรื่องของคุณยายน้อยล่ะ เธอตอบเสียงดังฟังชัด หนูว่า…ต้องยอมถอยให้อาจารย์นะ ไม่งั้นงานไม่เสร็จหรอก… แสดงว่าหลานสาวตัวน้อยคนนี้แม้จะไม่ค่อยช่างพูด แต่สังเกตและคอยฟังตลอดว่าผู้ใหญ่พูดอะไร แถมเก็บข้อมูลอย่างดีเลยรู้ว่า คุณยายน้อยชอบถกเถียง ไม่เห็นด้วยกับอาจารย์เลยต้องแก้งานบ่อย ๆ

ในที่สุดก็ปิดไฟล์งาน…ทำงานไม่เสร็จตามที่ตั้งใจ แต่ยิ้มได้ เอ้า…ถอยหน่อยก็ได้ จะได้ถึง… เสียที

@@@@

ไปเที่ยวแล้วจะกลับมาตั้งหน้าตั้งตาทำงานใหม่แล้วกัน

มีความสุข ผ่อนคลายกับวันหยุดยาวนะคะ

;-) ว่าอะไร แถมเัด หนูว่า…ต้องยอมอาจารย์ารย์ยิ่งให้แก้เยอะ


ดอกรัก

4 ความคิดเห็น โดย freemind เมื่อ 12 สิงหาคม 2010 เวลา 10:51 (เช้า) ในหมวดหมู่ ภาษา ร้อยกรอง ความคิด #
อ่าน: 2105

1234

ดวงดอกไม้งดงามยามบานสวย

แสนรุ่มรวยหอมหวนควรถนอม

มาวันนี้ใยไม่แย้มใครจะยอม

อย่าอ้อมค้อมบอกมาด้วยเหตุไร

เธอรีบตอบใช่จะบานได้เสมอ

สำหรับเธอคนพิเศษแย้มยวนให้

ครั้นบานอวดโฉมแล้วจำจากไกล

แต่ ดอกรัก กลางใจแม่…แย้มทุกวัน

1234

ดอกไม้สำหรับผู้หญิงคนหนึ่ง… แม่

รักแม่และมีความสุขมาก ๆ ในวันแม่ค่ะ

:-P

ปล. ขอบคุณภาพจากเพื่อนที่ส่งมาให้เป็นดอกไม้ประกอบบันทึกคือ “ดอกบัว” แทน “รัก” สำหรับแม่ค่ะ


ขัดแย้ง

13 ความคิดเห็น โดย freemind เมื่อ 10 สิงหาคม 2010 เวลา 10:36 (เช้า) ในหมวดหมู่ สังคม ความคิด #
อ่าน: 2274

คำเตือนสำหรับบันทึกนี้ : บันทึกนี้ยาวและมีสาระน้อย หากมีเวลาไม่มากพอ สมาธิยังไม่ตั้งมั่น และเป็นคนที่มีมาตรฐานชีวิตสูง… ไม่ควรอ่าน

////

พระเจ้าไม่ได้สั่งว่าจงทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่

แต่…จงทำเพียงสิ่งเล็ก ๆ

ด้วยความรักในหัวใจที่ยิ่งใหญ่ก็พอ

แม่ชีเทเรซา

///

///เพื่อนเล่าว่าเบื่อเพื่อนร่วมงานที่ชอบเอาเปรียบ งานชิ้นใหญ่ ๆ สำคัญ ๆ ทำเอง งานกระจิ๊บกระจ้อย ไม่มีความสำคัญส่งมาให้เธอทำ…ฯลฯ นั่งฟังไปก็อินไปด้วย ช่วยกันคิดค้นวิธีแก้เผ็ดเพื่อนประเภทนี้ เป็นที่สนุกสนานเฮฮาแกมตลก(ร้าย)

คุยกันจนขนมหมด ได้เวลาต้องกลับบ้าน ก่อนจากกันเพื่อนบอกว่า เธอเปลี่ยนไปนะ ถามว่าเปลี่ยนยังไง เพื่อนบอกว่าถ้าเป็นแต่ก่อนเธอก็จะบอกว่าปล่อยไปเหอะ ใครทำอะไรก็ได้อย่างนั้น อย่าไปสนใจ ทำเรื่องของเราให้ดีที่สุด… อะไรทำนองนี้ แล้วก็มักจะกลับไปคิดต่อด้วยความรู้สึกว่าตัวเองนี่แย่จัง ใจแคบ คิดลบ กลุ้มใจต่อไปอีก (อ้าว…เป็นงั้นไป)

///ไม่ได้บอกเพื่อนว่า เราไม่ได้เปลี่ยนไปหรอก แต่ตอนนี้เริ่มยอมรับความคิดจริง ๆ ของตัวเอง จะไปมัวหลอกตัวเองว่าเป็นนางเอกอยู่ได้ไงล่ะ คนทุกคนมีภาคทั้งดีและร้ายมากน้อยต่างกันไป แล้วแต่จะโผล่หน้ามาตอนไหน บริบทใด ดังนั้นหากอยากรู้จักภาคที่ไม่เคยเห็นในตัวใคร ต้องอยู่ใน ภาวะวิกฤต อันกระทบต่อหน้าตาชื่อเสียงเกียรติยศ พูดง่าย ๆ ก็กระทบกับ อัตตาในตัวเรานั่นแหละ

บางทีนะ จะเห็นหลายภาคเลย ทั้งแม่พระ นางมาร ผู้พิทักษ์ ซาตาน ตัวตลก คนโลภ ผู้มีเมตตา ฯลฯ จนเราอาจตกใจตัวเองก็ได้(โอ เราหรือนี่)

การเก็บกดภาคร้าย ๆ แย่ ๆ สร้างภาพลักษณ์ดี ๆ ก็เป็นกลไกหนึ่ง (ขี้เกียจอ้างชื่อนักวิชาการทั้งหลาย) เพราะแท้ที่จริงแล้ว เราทุกคนอยากเป็นคนดี อยากให้คนมองว่าเราเป็นคนดี คนเก่ง คนมีความสามารถ ใครลองมาทำให้เราตระหนักรู้ถึงความไม่ดี ความแย่ ความโหล่ยโท่ยของเราแม้เพียงเล็กน้อย เราจะรู้สึกไม่ดีทันที เพราะเกิด ความขัดแย้ง ขึ้นในใจระหว่างตัวตนที่แท้(Real self)กับตัวตนที่เราพยายามสร้างขึ้น(Image)

ความขัดแย้ง นี้ เป็นตัวสร้างปัญหาให้กับความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล ยิ่งปกปิดปกป้องไว้ กำแพงก็หนา ปัญหาก็จะเกิดได้บ่อยได้ง่ายขึ้น สร้างความปวดหัวปวดใจปวดอารมณ์ให้กันและกันจนวุ่นวายไปหมด

มีผู้รู้ (จำชื่อไม่ได้) กล่าวไว้ว่า วิธีง่าย ๆ พื้นฐานที่สุดในการปลดปล่อยความขัดแย้งในใจก็คือ การยอมรับ ยอมรับอย่างซื่อสัตย์กับความรู้สึก ความคิดของเรา

…หากชอบ…ก็รักษามันไว้

…หากไม่ชอบไม่อยากเป็นเช่นนั้น…ก็เปลี่ยนซะ (แค่นั้นเอง)

…ไม่ต้องไปพบจิตแพทย์ให้เหนื่อยใจทั้งหมอทั้งคนไข้ (จิตแพทย์และเจ้าหน้าที่ด้านจิตเวชก็ทนเจ็บป่วยด้วยอาการทางจิตเวชเยอะแยะเลย)

กล้า ๆ หน่อย ไม่ต้องอายที่จะบอกความรู้สึกจริง ๆ ชอบก็บอกว่าชอบ ไม่ชอบก็บอกว่าไม่ชอบ เกลียดก็บอกเลยว่าเกลียด ยอมรับไม่ได้ รู้สึกดีก็เบิกบานซะให้หนำใจ รู้สึกแย่ก็บ่น ๆ ร้องไห้ให้พอ… (อ้อ…เพียงอย่าให้เดือดร้อนเบียดเบียนคนอื่นมากไปก็แล้วกัน)

คิดไปยาว…ไม่เห็นจะเกี่ยวกับหัวข้อเลย (ฮา ๆ ก็บอกแล้ว ไม่มีเวลาอย่าอ่าน สมาธิไม่พออย่าเสี่ยงกับบันทึกนี้) ก็กำลังจะสรุปอยู่นี่ละว่า เมื่อยอมรับตัวเองได้แล้ว จะเปลี่ยนหรือไม่เปลี่ยน เราเลือกเอง ไม่มีใครบังคับเราได้ แต่บางทีเราก็ไม่มีทักษะ ไม่เข้มแข็งพอจะเปลี่ยนไปยังสิ่งที่เราต้องการนี่…

ส่วนตัวมีวิธีการง่าย ๆ ก็คือ อย่าหักด้ามพร้าด้วยเข่า ให้ค่อยเป็นค่อยไป เราไม่จำเป็นต้องเป็นนางฟ้า นางเอก พระเอกขี่ม้าขาว ผู้พิทักษ์ตลอดกาล เราค่อยทำสิ่งที่คิดว่าดี เป็นประโยชน์ต่อทั้งตัวเอง คนใกล้ตัว รอบบ้าน รอบชุมชน ทำหลาย ๆ คนเข้า มันจะขยายวงยิ่งใหญ่ไปเอง

ไม่ต้องทำสิ่งยิ่งใหญ่หรอก ทำสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่มุ่งมั่นตั้งใจ คาดหวังน้อย ๆ ทำด้วยใจร่ม ๆ เย็น ๆ…

แล้วมันจะดีเอง… (อย่าเชื่อนะ)

;-) อยู่ได้ไงล


เรียนรู้-เปลี่ยนแปลง

2 ความคิดเห็น โดย freemind เมื่อ 9 สิงหาคม 2010 เวลา 9:19 (เย็น) ในหมวดหมู่ ปรัชญา แนวคิด ชีวิต #
อ่าน: 2075

////

ข้อความดี ๆ ที่มาจาก Forward mail

///

หากอยากเป็นผู้สร้างสรรค์สิ่งใหม่ให้โลก

ต้อง เรียนรู้ ก่อนจะ เปลี่ยนแปลง

เรียนรู้ในความแตกต่าง

เส้นทางของความแตกต่าง มักยากลำบากในการเริ่มต้น

แต่…ดอกผลอันงดงามหอมหวานรออยู่เสมอ

///

อ่านแล้วชอบใจ นึกขอบคุณคนส่งมาให้ คิดไปถึงวลีหนึ่งที่ว่า… ของฟรีไม่มีในโลก ทุกอย่างมีราคาค่างวด อาจต้องใช้เวลา ความมุ่งมั่นตั้งใจ บากบั่น น้ำใจ ไมตรี และอาจหมายถึงคราบน้ำตาหยาดเหงื่อแห่งความทดท้อใจที่ต้องแลกเพื่อให้ได้มา

ราคงไม่ได้ทุกอย่างที่เราอยากได้หรอก แต่เราจะได้สิ่งที่เหมาะสมกับเราเสมอ

มีความสุขมาก ๆ กับการเรียนรู้…

เพื่อการเปลี่ยนแปลงนะคะ


บ่มเพาะ-ความรัก

6 ความคิดเห็น โดย freemind เมื่อ 9 สิงหาคม 2010 เวลา 9:19 (เช้า) ในหมวดหมู่ การจัดการความรู้, การศึกษา #
อ่าน: 2089

222

เมื่อถึงที่สุดแล้ว….

เราจะเก็บแต่สิ่งที่เรารัก

เราจะรักแต่สิ่งที่เราเข้าใจ

เราจะเข้าใจแต่สิ่งที่เราได้รับการบ่มเพาะและรัก

บานา ดิอุม

นักอนุรักษ์ชาวเซเนกัล

โค้ดข้อความมาจากหนังสือ จากใจสู่ใจ

1234

2222ข้อความนี้สะดุดใจตั้งแต่ครั้งแรกที่อ่านเจอ เพราะตรงกับความครุ่นคิดของตัวเองที่ว่า หากเราอยากปลูกฝังสิ่งดี ๆ ให้กับเด็กรุ่นหลัง เราต้องทำอย่างไร นอกเหนือจากความรู้ ความชำนาญ ประสบการณ์ และข้อผิดพลาดต่าง ๆ ที่เราเรียนรู้สั่งสมมาแล้ว มีอะไรอีกบ้างที่จำเป็นและต้องมี

2222บอกตัวเองว่า…ที่เราคิด เราเชื่อ และทำอย่างเป็นบ้าเป็นหลังนี่ อาจผิดก็ได้… แต่จำเป็นต้อง กล้า ๆ หน่อย มัวแต่กลัวการเสียหน้า เสียความมั่นใจ กลัวผิด แล้ว…จะได้ประเด็นใหม่ ๆ ที่นำไปสู่ การพัฒนาได้อย่างไร

222ได้ข้อสรุปตอนนี้ว่าหากอยากส่งต่อสิ่งดี ๆ ที่ได้รับมาให้กับเด็กรุ่นหลัง นอกจากต้องสั่งสมความรู้ ความชำนาญ ประสบการณ์ที่ผ่านการกลั่นกรองพินิจพิเคราะห์แล้วอย่างรอบคอบ ยังต้องสร้างสรรค์ความรัก ความเข้าใจ และต้องหัดบ่มเพาะสิ่งดี ๆ ไว้ในใจของกันและกันให้มาก ๆ ด้วย

//// เพราะหากอยู่บนพื้นฐานของความรู้สึกไม่ไว้วางใจ ไม่เข้าใจ ไม่ยอมรับ ขาดความรักและความรู้สึกดี ๆ ต่อกัน ต่อให้ความรู้ ประสบการณ์เลอเลิศขนาดไหน … ก็คงมีน้อยเท่านัอยคนที่จะเปิดใจรับ…

คลิกเลย…แฮะ

;-)


คิด - ถึง

6 ความคิดเห็น โดย freemind เมื่อ 7 สิงหาคม 2010 เวลา 9:03 (เย็น) ในหมวดหมู่ เรื่องเรื่อยเปี่อยตามอารมณ์ #
อ่าน: 2267

////

วันนี้คิดถึงแม่มากเป็นพิเศษ…

อาจเป็นเพราะใกล้ วันแม่แห่งชาติ” 12 สิงหาคมของทุกปีนั่นเอง

////จะว่าไปแล้ว…ยังไม่เคยหยุดคิดถึงแม่เลยสักวัน หลังจากที่แม่จากไปตั้งแต่ปี 2548 คิดถึงทุกวัน วันละหลายครั้ง เพราะในทุกกิจกรรมจะมีความทรงจำของคำสอน คำพูด การกระทำของแม่ร่วมอยู่ด้วยเสมอ

อย่างนี้นะ…แม่ต้องบอกว่า…

ผักนี่นะ…แม่ชอบ แต่นี่แม่ไม่ชอบเลย…

เรื่องนี้นะ…แม่ต้องว่าอย่างนี้แน่เลย…

ถ้าแม่อยู่นะ…แม่ต้องหัวเราะ แล้วก็ว่า…

///

//// ชอบอ้อนแม่… (ฮา ๆ ใครไม่เคยอ้อนแม่บ้างล่ะ) แม่เป็นคนไม่ชอบกินยา ไม่ชอบไปโรงพยาบาล เลยบอกแม่ว่า หนูรักแม่นะ แม่ต้องรักษาตัวให้แข็งแรง เพราะไม่มีแม่แล้ว หนูจะอยู่ยังไง คงเหงาแย่ ไม่มีแม่คอยให้คำแนะนำ ไม่มีคนคอยเตือน ไม่มีคนทำของอร่อย ๆ ให้กิน แล้วก็หนูไม่รู้จะแหย่ใคร…

222แม่บอกหน้าตาเฉย ๆ ว่า คิดถึงแม่…ก็ให้…ถึงแม่ แล้วกัน … ดูสิแม่เรานี่ช่างเล่นคำ ขนาดไม่ได้เรียนหนังสือสักตัว แต่คงดูละครทีวี ฟังรายการวิทยุมากแน่เลย พูดอะไรเข้าใจยากจังแฮะ

222แม่อธิบายว่าก็ คิดถึงแม่ ก็ให้คิดถึง…สิ่งที่แม่เคยสอนไว้ไงล่ะ ใครจะอยู่ค้ำฟ้าได้ แม่อยากไปเกิดใหม่จะแย่แล้ว ขืนอยู่นานเกินไปไม่มีใครอยู่ด้วย เหงาแย่เลย… เรื่องคล้าย ๆ จะเศร้าเลยกลายเป็นหัวเราะกันเอิ๊กอ๊าก…ซะงั้น

222ช่วงชีวิตหลังจากแม่จากไป เมื่อใดที่ คิดถึง ก็จะพยายาม ถึง คำที่แม่สอนสั่งด้วยความรัก มันหล่อเลี้ยงและเติมเต็มได้จริงดังที่แม่เคยว่าไว้

ความจริงแล้ว ก็คิดถึงทั้งพ่อและแม่พอ ๆ กันนั่นแหละ แต่ความใกล้ชิดและช่วงเวลาที่ได้ใช้และคลุกคลีกับ แม่ มากกว่า พ่อ จึงทำให้ความรู้สึกและความระลึกถึงที่เข้มข้นกว่าอยู่ที่ แม่

///

////นานมาแล้วในวันเกิดของตัวเอง มีเพื่อนส่งการ์ดมาให้และมีข้อความที่อ่านแล้วรู้สึกแปลก ๆ (ในตอนนั้น)

วันเกิดต้องคิดถึงและกอดพ่อแม่ให้แน่น ๆ นะ

///

////ถ้อยคำนั้นกระทบใจ เก็บการ์ดไว้อย่างดี เพิ่งค้นเจอเมื่อไม่นานมานี้ เหลืองเก่ามากแล้ว แต่ข้อความกลับกระจ่างใจ

ก็เลยคิดถึงข้อความคล้าย ๆ กันนี้ที่ว่า…

///

จงรักและกอดพ่อแม่อย่างทะนุถนอม

เพราะโลกนี้จะแปลกประหลาดและว่างเปล่า…

ทันทีที่ท่านจากไป

////

ไม่อิจฉาหรอก…

ยินดีด้วยสำหรับคนที่ยังมีพ่อแม่ให้กอด

ฝากกอดท่านแถมอีกทีหนึ่งด้วยนะคะ


เปลี่ยนแปลง

4 ความคิดเห็น โดย freemind เมื่อ 7 สิงหาคม 2010 เวลา 5:18 (เย็น) ในหมวดหมู่ วิจัยเชิงคุณภาพ งานวิจัยที่ทำ #
อ่าน: 1982

;-)

คนแม้เพียงหยิบมือ ถ้ามุ่งมั่น มีความคิด

และรับผิดชอบก็จะเปลี่ยนแปลงโลกได้

Margaret Mead

นักมานุษยวิทยาชาวอเมริกัน

1234

งานวิจัยเชิงคุณภาพ/เชิงคุณลักษณะ (Qualitative research)นั้น มักถูกวิพากษ์ว่า เป็นงานวิจัยที่ไม่มีหลักการที่น่าเชื่อถือ วัดและประเมินผลไม่ได้ด้วยข้อมูลทางสถิติ เมื่อเปรียบเทียบกับงานวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative research) และมีโอกาสสูงที่จะเจือด้วย อคติ ตามลักษณะของงานวิจัยที่มุ่งศึกษาปรากฏการณ์ ตามบริบทและสิ่งที่เกิดขึ้นในแต่ละพื้นที่ จากลักษณะของงานวิจัยที่มีความเฉพาะเจาะจงเช่นนี้ จึงไม่สามารถที่จะนำไปสู่การเป็นตัวแทนหรืออธิบายเรื่องเดียวกันในบริบทหรือพื้นที่อื่น ๆ ได้

Margaret Mead เป็นนักมานุษยวิทยา (ทำการวิจัยเชิงชาติพันธุ์วรรณา ซึ่งเป็นประเภทหนึ่งของการวิจัยเชิงคุณภาพ) กลุ่มแรก ๆ ที่ได้พยายามยืนหยัดและสร้างความชัดเจน เป็นปึกแผ่นให้กับงานวิจัยเชิงคุณภาพ และการต่อสู้กันทางด้านความคิดของค่ายการวิจัยทั้งสอง(การวิจัยเชิงปริมาณและการวิจัยเชิงคุณภาพ) ดำเนินมาเกินกว่าสามทศวรรษ และยังคงดำเนินต่อไปในบางประเด็น …

บันทึกนี้คงไม่เล่ารายละเอียดที่เกี่ยวกับการต่อสู้ทางความคิดของทั้งสองค่าย แต่มีสิ่งที่น่าสนใจคือ การต่อสู้ทางความคิดของทั้งค่ายการวิจัยเชิงปริมาณและการวิจัยเชิงคุณภาพนี้ ยิ่งทำให้เกิดประโยชน์และความกว้างขวางยิ่งขึ้นของการวิจัยโดยรวม ไม่ใช่การต่อสู้เพื่อทำลายล้างหรือสร้างความโกรธเกลียดกัน จนอาจกล่าวได้ว่าในปัจจุบันนิยมที่จะใช้การวิจัยทั้งสองประเภทนี้ร่วมกันในงานวิจัยหนึ่ง ๆ ซึ่งทำให้ได้เห็นและอธิบายถึงภาพของงานวิจัยได้ชัดเจนและเกิดประโยชน์กว่าการใช้ระเบียบวิธีวิจัยเพียงอย่างเดียว

อ่านไปก็สนุกไป และได้ข้อคิดเล่น ๆ ขึ้นมา…

ข้อแรกคือ มนุษย์นั้นมีความเห็นต่างกันได้ แต่อย่าปิดใจ คิดเห็นดีงามในเรื่องอะไรว่าเป็นสิ่งที่ดีและถูกต้อง แต่ต้องไม่ยึดมั่นถือมั่น ฟังคนอื่น มองสิ่งรอบตัวบ้าง … อาจมีอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่เราไม่เคยตระหนักถึงมาก่อนเลยก็ได้ โลกเราพัฒนาไปสู่ความก้าวหน้าได้ ก็เพราะมุมมองที่แตกต่างหลากหลาย…ไม่ใช่หรือ

ข้อต่อมาคือ หากมุ่งมั่น ตั้งใจ คิดดี เห็นชอบแล้วว่าดีว่าถูก จำนวนคนที่เห็นด้วยกับเราไม่ใช่ปัจจัยสำคัญ ขอให้ตั้งใจ อดทน และพยายามชี้ให้เห็นความจริงนั้นอย่างมีหลักการด้วยความจริงใจ…ไม่วันใดก็วันหนึ่ง…โลกก็ต้องหันมา พยักหน้า กับเราสักวัน

สรุปว่าเริ่มต้นตั้งใจอ่านเพื่อสิ่งหนึ่ง

แต่ลงท้ายกลับได้อีกสิ่งหนึ่ง…ซะนี่

:lol:

หากสนใจเรื่องของ Margaret Mead อ่านได้ที่  http://en.wikipedia.org/wiki/Margaret_Mead


อนุภาคชีวิต

5 ความคิดเห็น โดย freemind เมื่อ 6 สิงหาคม 2010 เวลา 12:08 (เย็น) ในหมวดหมู่ ปรัชญา แนวคิด ชีวิต #
อ่าน: 2307

////

อนุภาคแต่ละตัวมีวิถีชีวิตของมันเอง และคาดเดาไม่ได้

ทฤษฎีควอนตัมฟิสิกส์

////

//////เพื่อนที่เรียนด้วยกันและตัดสินใจเลิกเรียน โดยยังไม่ได้ทำดุษฎีนิพนธ์เมลมาหา (บ่นเล็กน้อยว่าโทรมาแล้วไม่รับสาย…อ้าวยังไม่ชินกับนิสัยเพื่อนอีกนะ) เล่าสารทุกข์สุกดิบของชีวิตหลังตัดสินใจเลิกเรียน

////เล่าหลายเรื่องหลายประเด็น…เลยโทรกลับไปเพราะเป็นห่วง เพื่อนเล่าระบายความรู้สึกต่าง ๆ ทั้งดีใจ โล่งใจที่ตัดสินใจเลิกเรียน แต่ในขณะเดียวกันในบางครั้งก็เกิดคำถามว่า เพราะเราไม่อดทนหรือ จึงเรียนให้จบเช่นคนอื่นไม่ได้ คนอื่นทำได้ทนได้ ทำไมเราจึงทำไม่ได้…และอีกมากมายคำถาม

///ฟังจนหูชา ตอบบ้าง ไม่ตอบบ้าง บางทีเพื่อนคงไม่ได้ต้องการ คำตอบ หรอก แต่อยากพูดอยากเล่า เราก็แค่ฟัง…น่าจะพอแล้ว

หากเป็นแต่ก่อนก็คงสวมบทบาทเป็นนักจิตวิทยา (จำเป็น) ทำทีเป็นฟังอย่างตั้งอกตั้งใจ (แต่ไม่ค่อยได้ยินสาระที่เขาต้องการสื่อจริง ๆ) แล้วรีบสรุปจบบทสนทนาแกมให้กำลังใจว่า… อย่าคิดมาก เราเลือกแล้ว สิ่งที่เราเลือกต้องมีสิ่งดี ๆ และเหมาะสมกับเรา ลองคิดถึงสิ่งดี ๆ ที่เกิดขึ้นจากการเลือกสิ…สู้ ๆ นะ ให้กำลังใจจ้ะ… แล้วก็มานั่งภูมิใจว่า เออนะ อย่างน้อยฉันก็ทำหน้าที่เพื่อนที่ดีล่ะ รับฟัง ให้ข้อคิด และให้กำลังใจเพื่อนแล้วน่ะ…

/////สรุปรวมว่ากระบวนการให้คำปรึกษาจบลงด้วยดี แต่…การแก้ปัญหาสำเร็จเสร็จสิ้นหรือไม่ ไม่กล้าตอบตัวเอง (ฮา ๆ)

แต่…เมื่อวานนี้ไม่ได้ทำสิ่งที่มักจะทำเป็นประจำเช่นนั้น อาจด้วยตัวเองก็กำลังครุ่นคิดถึง วิถีการเรียนของตัวเองเช่นกัน เลยเงียบไปพักใหญ่หลังเพื่อนจบเรื่องเล่าอันยาวเหยียด เพื่อนบอกว่าว่าไงล่ะ คิดว่าไงบ้าง…จะแนะนำอะไร เอ๊ะ…เลยเพิ่งตระหนักรู้ตัวว่าที่ผ่านมาเราเป็นพวกที่ชอบแนะนำและให้ข้อคิดสำเร็จรูปกับเพื่อนนะนี่ แม้จะรู้สึกเสีย self เล็กน้อย เพื่อนไม่ได้ว่าแต่สิ่งที่สะท้อนกลับมาเป็นเช่นนั้น…(ยอมรับเสีย)

บอกเพื่อนไปว่า วันนี้ไม่รับปรึกษาปัญหา แต่รับฟังเท่านั้น ปัญหาใคร ใครก็แก้เอาเอง (แล้วกัน) เพื่อนก็ยังเซ้าซี้ ฉันว่าเธอต้องคิดอะไรกับเรื่องที่ฉันเล่า บอกมาเหอะ ฉันตัดสินเองแหละว่าชอบหรือไม่ชอบ

คิดไปคิดมาก็เลยโพล่งไปว่า … เคยได้ยินทฤษฎีควอนตัมฟิสิกส์ที่ว่า อนุภาคแต่ละตัวมีวิถีชีวิตของมันเอง และคาดเดาไม่ได้ ไหม เราก็คือหนึ่งในเสี้ยวส่วนของอนุภาคของโลก เมื่อมันมีวิถีชีวิตของมันเองและมักจะคาดเดาไม่ได้แล้ว…จะไปเอาจริงเอาจังอะไรกับมันล่ะ

////

ลืมบอกเพื่อนไปอีกข้อว่า เมื่อไม่ซีเรียสกับเรื่องราวใด ๆ แล้ว

ก็ต้องทำเรื่องตรงหน้าให้เต็มที่เต็มสติปัญญาด้วยล่ะ…

ฮ่า ๆ ยังอดจะแนะนำไม่ได้แฮะ!!!

;-)

////



Main: 0.097280979156494 sec
Sidebar: 0.047435998916626 sec