พอหรือยัง?

2 ความคิดเห็น โดย freemind เมื่อ 9 กันยายน 2010 เวลา 9:19 (เย็น) ในหมวดหมู่ ภาษา ร้อยกรอง ความคิด #
อ่าน: 2363

May you have

Enough happiness to make you sweet,

Enough trials to make you strong,

Enough sorrow to keep you human,

And enough hope to make you happy.

Anonymous

อ่านที่เพื่อนส่งมาให้แล้วยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่นาน…

ความสุข ทำให้เรา อ่อนโยน

ความ ทุกข์ทรมาน ทำให้เรา เข้มแข็ง

ความ โศกรันทด ทำให้เราคงไว้ซึ่ง ความเป็นมนุษย์

และ ความหวัง ทำให้เรามี ความสุข

กระหยิ่มยิ้มย่องในใจ งั้นที่เคยคิดและเชื่อเสมอมาว่า ทุกสิ่งทุกเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับเราย่อมส่งผลดีและเหมาะสมกับเรานี่ ก็คงใกล้เคียงความจริงน่ะสินะ

๑๑๑๑สรุป (เองว่า) เราควรพยายามถามตัวเองบ่อย ๆ ว่าเรามีความสุขพอไหม เราได้สร้างความหวังพอหรือยัง เราต้องไม่ยอมอยู่อย่างท้อแท้ท้อถอย จะได้อ่อนโยนยิ่งขึ้นกับตนเองและผู้คนรอบข้าง อย่ารังเกียจความทุกข์ทรมานและความโศกสลดรันทดใจที่จำต้องรับและเรียนรู้ เพราะมันช่วยให้เรามีความเข้มแข็งและเปี่ยมล้นด้วยความเป็นมนุษย์ (ที่สมบูรณ์)

@@@

อยากให้ทุกคนมีความสุขค่ะ

:-D


อยู่ดีมีสุข

5 ความคิดเห็น โดย freemind เมื่อ 7 กันยายน 2010 เวลา 11:40 (เช้า) ในหมวดหมู่ ภาษา ร้อยกรอง ความคิด #
อ่าน: 2257

วันนี้ได้อ่านหนังสือเรื่อง ร่างกายที่เหนืออายุขัย จิตใจที่ไร้กาลเวลา ซึ่งคุณเรืองชัย รักศรีอักษร แปลจากเรื่องAgeless Body Timeless Mind ของคุณหมอเชื้อสายอินเดียชื่อดัง Deepak Chopra หนา 492 หน้า ราคาปก 320 บาท พิมพ์โดยสำนักพิมพ์มติชน

เนื้อหาเท่าที่อ่านผ่าน ๆ อย่างเร็ว ๆ จะให้ความรู้ในเรื่องที่เกี่ยวกับภาพรวมของศาสตร์ว่าด้วยการมีชีวิตที่ยืนยาว (อย่างมีคุณภาพ) อธิบายในมุมมองของแพทย์แผนปัจจุบัน ควอนตั้มฟิสิกส์ ผนวกกับศาสตร์ของอินเดียโบราณ (ผู้เขียนเป็นนายแพทย์เชื้อสายอินเดียที่เรียนและใช้ชีวิตในอเมริกา)

โลกกำลังเข้าสู่ยุคสังคมผู้สูงอายุ ในขณะที่อัตราการเกิดของประชากรลดลงโดยรวม หลายประเทศล่วงหน้าไปแล้วทั้งญี่ปุ่น อเมริกา สิงคโปร์ โดยรวมก็คือเรากำลังมีประชากรที่เป็นผู้สูงอายุเพิ่มขึ้น การเป็น ผู้สูงอายุคงไม่ใช่เพียงแค่เป็นผู้มีอายุมากขึ้น แต่ต้อง อยู่อย่างมีคุณภาพชีวิตที่ดี และแม้ว่าการแพทย์ปัจจุบันจะก้าวหน้าเพียงไร เราก็คงต้องยอมรับว่ายังมีข้อจำกัด คนจึงหันกลับมาสนใจ ศาสตร์ทางเลือก ซึ่งโดยมากก็มักจะเป็นความรู้จากทางตะวันออก เช่น สมุนไพร การฝังเข็ม การอดอาหารเพื่อสุขภาพ การใช้ดนตรีบำบัด การใช้ความร้อนความเย็น การใช้พลังจากแสงอาทิตย์ การใช้อาหารบำบัด การนั่งสมาธิ โยคะ การออกกำลังกายชนิดต่าง ๆ ซึ่งแต่ละคนก็คงเลือกตามที่เหมาะสมกับตนเอง (ว่าง ๆ ค่อยเขียนต่อ)

หยิบประเด็นในหนังสือที่น่าสนใจมาให้อ่านเป็นน้ำจิ้มก่อน… ในหนังสือเล่มนี้อ้างถึงงานวิจัยของ ดร.เจเวทท์ ซึ่งทำงานวิจัยเกี่ยวกับปัจจัยที่ส่งผลต่อการมีอายุยืน ดังนี้ (หน้า303-304)

ลักษณะพิเศษของร่างกายของผู้มีอายุยืน

- น้ำหนักตัวไม่เกินหรือต่ำกว่ามาตรฐานเกินไป

- น้ำหนักตัวขึ้น-ลงไม่มากตลอดชีวิต

- กล้ามเนื้อแข็งแรง

- มือกำได้แน่น

- ผิวหนังดูอ่อนกว่าวัย

- ยังขับรถและเข้าร่วมกิจกรรมทางกายภาพได้

อ่านดูแล้วก็พื้น ๆ ไม่น่าจะพิเศษอะไรนัก นี่อาจเป็นสิ่งที่บอกได้ว่าสิ่งที่จะอยู่ได้นานอย่างมีคุณภาพไม่จำเป็นต้องพิเศษกว่าปกติอะไร แต่ลักษณะที่น่าสนใจเพิ่มขึ้นอีกนิดคือ

ลักษณะพิเศษทางจิตใจ(รวมทั้งรูปแบบการใช้ชีวิตและพฤติกรรม)

- มีเชาวน์ปัญญาดีเลิศมาแต่กำเนิด สนใจเหตุการณ์ทั่วไปที่เกิดขึ้น ความจำดี

- เป็นอิสระจากความกังวล ไม่ค่อยเจ็บป่วย ไม่ขี้กังวล

- สามารถเลือกอาชีพอย่างเป็นอิสระ ชอบที่จะเป็นเจ้านายตนเอง ทำธุรกิจของตนเอง (มีรายละเอียด แต่ขอละไว้ขี้เกียจพิมพ์) และส่วนมากไม่เกษียณอายุการทำงานก่อนกำหนด

- ส่วนมากเคยประสบกับภาวะหดหู่อย่างรุนแรง แต่สามารถฟื้นตัวและสร้างอนาคตใหม่ได้

- เป็นผู้มีความสุขกับชีวิต ทั้งหมดมองโลกในแง่ดีระดับหนึ่งและมีอารมณ์ขันอย่างชัดเจน ตอบรับกับความเพลิดเพลินง่าย ๆ ชีวิตเหมือนเป็นการผจญภัยที่ยิ่งใหญ่ สามารถมองเห็นความงามในขณะที่คนอื่นมองเห็นแต่ความอัปลักษณ์

- มีความสามารถในการปรับตัวได้ดี มีความทรงจำในวัยเด็กที่น่ารื่นรมย์มากมาย ทุกคนชอบอยู่กับปัจจุบันที่มีการเปลี่ยนแปลงหลากหลาย

- ไม่กังวลกับความตาย

- ใช้ชีวิตด้วยความพึงพอใจในแต่ละวัน

- ทุกคนเคร่งศาสนาในความหมายกว้าง ๆ แต่ไม่มีใครเป็นพวกอนุรักษ์นิยมสุดขั้ว

- รู้จักประมาณในการกิน แต่ก็อยากทดลอง ไม่เลือกกิน กินอาหารหลากหลาย มีโปรตีนสูง ไขมันต่ำ

- ทุกคนตื่นแต่เช้า นอนหลับเฉลี่ย 6-7 ชั่วโมง

- ไม่ติดสารเสพติดเช่นเหล้า บุหรี่ (แม้จะดื่มและสูบบุหรี่บ้าง)

- ตลอดชีวิตที่ผ่านมาใช้ ยา น้อยมาก

- ส่วนใหญ่ดื่มกาแฟ

มนษย์คงไม่พ้นความแก่ ความเจ็บ ความตายไปได้เป็นแน่ แต่เมื่อยังดำรงอัตภาพนี้อยู่ก็คงต้องดูแลร่างกาย จิตใจให้อยู่ได้ดี มีคุณภาพพอควร ไม่ต้องอยู่เป็นอมตะตลอดกาลหรือมีอายุยืนจนต้องบันทึกสถิติโลก แค่ใช้ชีวิตได้ตามวัย ดำรงตนอยู่อย่างมีความสุขตามอัตภาพ ไม่เป็นภาระแก่คนรอบข้าง สร้างสรรค์ประโยชน์ต่อตน ครอบครัว สังคมโลกได้บ้าง …. ก็คงคุ้มค่าแล้วที่จะเป็น ผู้สูงอายุที่มีคุณภาพ ของสังคม

แอบดีใจเล็ก ๆ ในลักษณะข้อสุดท้าย…

ส่วนใหญ่ดื่มกาแฟ…ไชโย!!!

:lol:


อ่านใจ

2 ความคิดเห็น โดย freemind เมื่อ 27 สิงหาคม 2010 เวลา 11:08 (เย็น) ในหมวดหมู่ ภาษา ร้อยกรอง ความคิด #
อ่าน: 2217

เมื่อเจอบทเรียนที่เจ็บปวด

ทิ้งความเจ็บปวดไป…

เก็บไว้แต่ บทเรียน…”

จากหนังสือ จิตจักรพรรดิตอนมาเฟียพลังจิต

ดังตฤณ

@@@

วันนี้เพิ่งมีโอกาสอ่านหนังสือ จิตจักรพรรดิ ตอนมาเฟียพลังจิต ของ ดังตฤณ อ่านรวดเดียวจบแบบไม่ทันตั้งตัว

เป็นหนังสือที่น่าอ่านและอ่านได้สนุกมาก ๆ อ่านจบไม่รู้ตัวเลย นอกจากได้ความเพลิดเพลินแล้วยังได้ข้อคิด ข้อธรรม มากมายตามสไตล์ของคุณดังตฤณ (หาซื้อได้ตามร้านหนังสือทั่วไปและBook Smile ในร้าน 7-11 ราคาเล่มละ 99 บาท)

เพิ่งได้รับเมลว่าสามารถโหลดฟรีมาอ่านได้ที่

http://dungtrin.com/EmporerMind/Vol1.pdf

ดีจัง อนุโมทนาบุญกับผู้เขียนและผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดด้วยค่ะ

ส่วนตัวชอบอ่านที่เป็น หนังสือ มากกว่าเพราะจะหยิบจับมาอ่านตอนไหนก็ได้ นั่งกินข้าว กินขนม นั่งรอเพื่อน รอรถเมล์ สามารถหยิบมาอ่านและเสพสุนทรียะของหนังสือได้ตลอดเวลา

ชอบใจข้อความหลายตอนในหนังสือเล่มนี้ พบว่าหนังสือดี ๆ นั้น อ่านทีไรก็คล้ายจะมี คำตอบ ให้กับสิ่งที่เรากำลังประสบหรือครุ่นคิดอยู่และแม้อ่านอีกกี่ครั้งกี่หนก็มักจะได้ประเด็น ข้อคิดใหม่ ๆ เสมอ

@@@

บอกตัวเองว่า…อ่านหนังสือแล้ว

อย่าลืมน้อมนำมา อ่านใจ ด้วยล่ะ

@@@

เล่ม 2
ตอนลายเซ็นจักรพรรดิ จะออกต้นเดือนกันยายน 2553


ว่าด้วย…นิทาน

5 ความคิดเห็น โดย freemind เมื่อ 18 สิงหาคม 2010 เวลา 7:40 (เย็น) ในหมวดหมู่ ภาษา ร้อยกรอง ความคิด #
อ่าน: 2304

:-D

คำชี้แจง : บันทึกนี้เหมาะสำหรับเด็กและ/หรือผู้ที่มีหัวใจอันอ่อนเยาว์ของเด็กน้อยเท่านั้น

@@@

เอ้า…ล้อมวงเข้ามามีนิทานจะเล่าให้ฟัง…

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว…ณ ดินแดนอันไกลโพ้น (ไม่ทราบอยู่ตรงไหน) มีสาวงามผู้เปี่ยมด้วยความงาม เธอสวมใส่เสื้อผ้าอาภรณ์สีสันสดใสสวยงาม ไม่ว่าเธอจะย่างกรายไปที่ใด เธอจะเป็นที่สังเกตเห็นและได้รับความชื่นชอบ ทุกคนมีความสุข สนุกสนาน ล้วนแต่ชื่นชมยินดีในการปรากฏตัวของเธอ

มีหญิงงามอีกคนหนึ่งผู้มีความงามไม่น้อยกว่ากัน แต่เธอยากจนและมีแต่เสื้อผ้าอาภรณ์ที่ทึมทึบไม่สดใส ไม่เคยมีใครใส่ใจต่อเธอเลย

เธอจึงเข้าไปหาหญิงงามผู้เป็นที่รักและชื่นชอบนั้น เธอขอสวมใส่เสื้อผ้าอาภรณ์อันงดงามและขอติดตามหญิงงามผู้นั้นไปทุกที่ เธออธิบายว่าแม้ว่าเธอจะไม่มีเสื้อผ้าอาภรณ์อันสดใสสวยงาม แต่เธอก็มีเรื่องราวสำคัญที่อยากบอกเล่าให้กับผู้คนมากมาย  ส่วนหญิงงามผู้มีอาภรณ์งดงามนั้นนอกจากเป็นผู้มีจิตใจอันงดงามแล้วยังมีสติปัญญาด้วย เธอพิจารณาเห็นว่าแม้อีกฝ่ายจะไม่มีเสื้อผ้าสวยงามสวมใส่ แต่เธอผู้นั้นเป็นผู้มีสติปัญญาอันชาญฉลาด เธอจึงตกลงมอบเสื้อผ้าอันงดงามที่เธอมีอยู่มากมายนั้นกับเพื่อนผู้นี้

หญิงงามทั้งสองเดินทางไปด้วยกันในทุกที่ ทุกหนทุกแห่ง เมื่อเธอทั้งสองปรากฏกายก็จะได้รับความใส่ใจ ชื่นชม และห้อมล้อมด้วยความสุขเสมอ ๆ

จากนั้นเป็นต้นมาทั้งสองไม่เคยพรากจากกันอีกเลย เธอทั้งสองจะปรากฏกายพร้อมกันอย่างมีชีวิตชีวาตลอดมา แม้ในปัจจุบันนี้…

หญิงงามผู้ยากจนแต่เปี่ยมสติปัญญา แท้จริงแล้วเธอคือ Truth (สัจธรรม/ความจริงแท้) ส่วนหญิงงามผู้มีอาภรณ์สวยงามคือ Story (เรื่องเล่า/นิทาน)

นิทาน เป็นเรื่องราวที่บรรจุไว้ซึ่ง สัจธรรม/ความจริงของชีวิต ที่บูรณาการไว้ด้วยกันอย่างแยบคาย หากนิทานหรือเรื่องเล่าใดไร้ซึ่งสาระข้อคิดสะกิดใจแล้ว ก็คงไม่สามารถที่จะทรงคุณค่าอย่างมีเสน่ห์และอยู่ยั่งยืนมาได้จนปัจจุบันเป็นแน่แท้

คิดเล่น ๆ ต่อจากนิทานว่า…งั้น ตอนที่เราจะสอนหนังสือ เราต้องตระหนักไว้ว่า สาระเนื้อหาวิชาการที่จะดึงดูดและให้ข้อคิดและเป็นประโยชน์ได้เต็มที่ น่าจะอยู่ในรูปแบบที่ผ่อนคลาย ไม่ยาก ไม่เครียด และสนุกสนาน เฉกเช่นเดียวกันกับการปรากฏกายของหญิงงามทั้งสองที่มีทั้งความสวยงามของเสื้อผ้าอาภรณ์ (รูปล้ักษณ์ภายนอกที่ดึงดูดความสนใจ) และมีเนื้อหาสาระอันเป็นสัจธรรม (เนื้อแท้ภายใน) ที่บูรณาการเป็นองค์รวมไว้อย่างพอดีพองาม

@@@

นี่คือคำตอบที่ว่าทำไมเราจึงชอบ นิทานกันทั้งเด็ก

และผู้ใหญ่ที่มีหัวใจเด็ก

;-)

คำชี้แจงท้ายบันทึก : หากท่านอ่านแล้วยิ้มอย่างมีความสุข นั่นหมายถึงท่านมีอายุไม่เกิน 12 ปี หรือ…เป็นผู้ที่มีความอ่อนเยาว์บรรจุอยู่ในหัวใจ


ดอกรัก

4 ความคิดเห็น โดย freemind เมื่อ 12 สิงหาคม 2010 เวลา 10:51 (เช้า) ในหมวดหมู่ ภาษา ร้อยกรอง ความคิด #
อ่าน: 1932

1234

ดวงดอกไม้งดงามยามบานสวย

แสนรุ่มรวยหอมหวนควรถนอม

มาวันนี้ใยไม่แย้มใครจะยอม

อย่าอ้อมค้อมบอกมาด้วยเหตุไร

เธอรีบตอบใช่จะบานได้เสมอ

สำหรับเธอคนพิเศษแย้มยวนให้

ครั้นบานอวดโฉมแล้วจำจากไกล

แต่ ดอกรัก กลางใจแม่…แย้มทุกวัน

1234

ดอกไม้สำหรับผู้หญิงคนหนึ่ง… แม่

รักแม่และมีความสุขมาก ๆ ในวันแม่ค่ะ

:-P

ปล. ขอบคุณภาพจากเพื่อนที่ส่งมาให้เป็นดอกไม้ประกอบบันทึกคือ “ดอกบัว” แทน “รัก” สำหรับแม่ค่ะ


ยกเว้น

2 ความคิดเห็น โดย freemind เมื่อ 4 สิงหาคม 2010 เวลา 8:48 (เช้า) ในหมวดหมู่ ภาษา ร้อยกรอง ความคิด #
อ่าน: 1923

///

พึงวางตนห่างออกไปอย่างน้อยสามก้าว

จากคนที่เกลียดขนมปัง,ดนตรี,

และเสียงหัวเราะของเด็ก”

123

Lavater, Johann Kaspar

นักประพันธ์ชาวอังกฤษ

1234

ก่อนนี้ได้อ่านข้อความนี้ ยังขำ ๆ คงหาคนแบบนี้ได้ยาก ใครกันจะเกลียดสิ่งที่เป็นสามัญในชีวิต ขนมปัง (อาหารประจำที่ต้องกิน) ดนตรี ซึ่งเป็นแหล่งของสุนทรียะ และเสียงหัวเราะอันสดใสบริสุทธิ์ของเด็กน้อย

แต่วันนี้เจอคนบอกว่า เกลียดการกินข้าว ไม่ชอบดนตรี และรำคาญเสียงหัวเราะเล่นหัวของเด็ก ๆ …

แต่ก็เป็นคนที่กระตือรือร้น ชอบช่วยเหลือผู้คนด้วย…

////

คงมีข้อยกเว้นสำหรับ ข้อคิด”นี้ บ้างละมั้ง?

:-D

ต้นกระบองเพ็ชรที่นานปีจะออกดอกมาให้ชื่นชม

Pa2700090


จวักตักแกง

7 ความคิดเห็น โดย freemind เมื่อ 13 กรกฏาคม 2010 เวลา 10:54 (เย็น) ในหมวดหมู่ ภาษา ร้อยกรอง ความคิด #
อ่าน: 11828


ฟังใดได้รู้เรื่อง

ก็ปราดเปรื่องปรีชาชาญ

เปรียบลิ้นชิมน้ำตาล

รู้รสหวานซาบซ่านใจ

ฟังใดไม่รู้ความ

วิชาทรามจะงามไหน

เปรียบจวักตักใดใด

ไม่รู้รสหมดทั้งมวล

ชิต บุรทัต

1234

วันนี้อ่านเจอกลอนนี้โดยบังเอิญ ยิ้มเลย…

เพราะครุ่นคิดเกี่ยวกับเรื่อง การฟัง การได้ยิน การตีความในเรื่องราวต่าง ๆ อยู่พอดีว่า เพราะอะไรในเรื่องเดียวกัน แต่ต่างคนฟัง กลับเข้าใจกันไปคนละทางสองทาง บางครั้งถึงกับเป็นคนละเรื่องกันไปเลย พาลโกรธพาลทะเลาะกันวุ่นวายจริง ๆ


เคยได้ยินแม่สอนเมื่อเด็ก ๆ ว่า ผู้ใหญ่สอนสั่งอะไร ให้ตั้งใจจดจำ อย่าทำตัวเป็น “จวักตักแกง” (สำนวนไทย หมายถึงคนที่ทำตัวไม่สนใจที่จะรับประโยชน์จากบุคคลหรือสิ่งที่อยู่ใกล้ตัว)


จำได้ว่ายังทำหน้าทะเล้นถามแม่ว่า จวักเป็นไงจ้ะแม่…ใช้คำโบราณจัง


คนโบราณท่านช่างคิด ช่างเปรียบเทียบ และใช้คำสอนที่ทำให้เกิดความสนใจ ทำให้จดจำได้ง่าย โดยใช้สิ่งใกล้ตัวในชีวิตประจำวันนั่นเอง และคงต้องน้อมคารวะ นายชิต บุรทัต กวีเอกในล้นเกล้ารัชการที่ 6 (ผู้แต่งสามัคคีเภทคำฉันท์) ที่ท่านได้ร้อยกรองไว้อย่างไพเราะและเปี่ยมความหมายสอนใจ

เด็ก ๆ ที่บ้านไม่รู้จักคำว่า “จวัก” แล้ว…

แต่เรียกว่า “ที่ตักน้ำแกง”

นี่ถ้าแม่ยังอยู่คงได้ฟังนิทานเรื่องยาวเชียว…


ดอกไม้พลังใจ

3 ความคิดเห็น โดย freemind เมื่อ 5 กรกฏาคม 2010 เวลา 9:24 (เย็น) ในหมวดหมู่ ภาษา ร้อยกรอง ความคิด #
อ่าน: 2673

เรียงร้อยกานท์กวีขึ้นบทหนึ่ง

แอบเพิ่มคุณค่าเติมความหมาย

ซ่อนรักและพลังไว้มากมาย

แทนค่า ดอกไม้ มอบให้เธอ

อย่ายอมแพ้แม้ท้อเหนื่อยหนัก

ส่งความรักแทนใจไม่ให้เผลอ

สติตั้งใจตรงอย่าละเมอ

ดอกไม้ ยังรอเธอ…ไม่โรยรา

5 กค.53


อยากเห็น…

5 ความคิดเห็น โดย freemind เมื่อ 29 มิถุนายน 2010 เวลา 10:38 (เย็น) ในหมวดหมู่ ภาษา ร้อยกรอง ความคิด, ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 1336

อยากเห็น…

12345

ยามใด  อยากเห็น  เห็นยาก

ยิ่งเพ่ง  ยิ่งย้ำ  ยากหนอ

ยึดมั่น ถือมั่น พะนอ

รีรอ  ยากยิ่ง  เห็นธรรม

ปล่อยวาง  ว่างเปล่า  พลันพบ

ประสบ  ข้อธรรม  สุกใส

ละวาง  ลดละ  สละไป

วางใจ  จึ่งเห็น  โลกธรรม

29 มิย.53


ทางยัง…ไกล

4 ความคิดเห็น โดย freemind เมื่อ 23 มิถุนายน 2010 เวลา 11:20 (เช้า) ในหมวดหมู่ ภาษา ร้อยกรอง ความคิด #
อ่าน: 2211

 

เหนื่อยนัก พักก่อน ผ่อนใจ

วุ่นวาย ทำไม นักหนา

โศกเศร้า หวานรัก มักมายา

เธอจ๋า  อย่าหลง ทาง…ยังไกล

ผ่อนผ่าน ย่านย่าง ทางชีวิต

มมังการ  อหังการ  ฤๅหนไหน

กลับสู่ โลกหล้า ภายใน

สุดจิต  กลางใจ  คือ…ปัญญา

                                 23 มิย.53

 P80202911



Main: 1.3198790550232 sec
Sidebar: 0.090786933898926 sec