ข่าวคืบหน้าคืบหลัง
อ่าน: 1427เขียนที่ห้อง 814 บริษัทสุวิมลและบุตร แมนชั่นจำกัด
111/212 หมู่ 5 ซอยสำราญสุข
ตำบลปากเกร็ด อำเภอปากเกร็ด
จังหวัดนนทบุรี 11120
วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2552
กราบเรียนอาจารย์นายแพทย์ ประเวศ วะสี ที่เคารพอย่างสูง
สิ่งที่ส่งมาด้วย สำเนาตัวอย่างประวัติสมาชิกคนแซ่เฮ 1ชุด
เ่รื่องที่กระผมขอความเมตตาจากท่านอาจารย์ในครั้งนี้ มีมูลเหตุมาจากพวกเราได้ศึกษาเรื่องการจัดการความรู้ โดยการสื่อสารถึงกันผ่านอินเตอร์เน็ทในบล็อกที่ชื่อว่า “ลานปัญญา” ผลของการใช้ไอทีเป็นแม่สื่อ ทำให้เรามีปฎิสัมพันธ์กันขึ้นมาเป็นเครือญาติ ที่เรียกในหมู่กันเองว่าชาวเฮฮาศาสตร์ คนแซ่เฮเหล่านี้กระจายตัวอยู่ในทุกภูมิภาค ทุกอาชีพ มีจิตสาธารณะ ถ้อยทีถ้อยอาศัยช่วยกันสร้างสังคมแห่งสติปัญญาขึ้นมา
กระผมในฐานะหน้าม้า ได้ยุให้สมาชิกเหล่านี้เขียนถึงตัวเอง เมื่อได้อ่านพิมพ์เขียวที่ประกอบไปด้วยลายแทงชีวิตของสมาชิกแล้ว ได้คำตอบว่า..นี่คื่อวิธีดึงเอาความรู้ในตัวคนออกมาในสาขาต่างๆได้อีกประการหนึ่ง ความรู้ในตัวคนนั้นมีอานุภาพมากนัก ถ้าเรามีวิธีถอดรหัสหรือซึมซับเอาบทเรียนผ่านชีวิตจริงเหล่านี้มาสังเคราะห์ ประเทศนี้น่าจะได้ตำราว่าด้วยบริบทของนักสู้ชีวิต
สังคมไทยมักจะเขียนสดุดีกันในพิธีประชุมเพลิง กระผมเห็นว่าท่านที่ล่วงลับไม่สามารถรับทราบอะไรได้ แต่ถ้าเราเปลี่ยนมาชื่นชูใจในระหว่างที่มีชีวิตร่วมกันอยู่นี้ ท่านที่คิดดีทำดีนอกจากจะปลิ้มปิติแล้ว ยังเกิดแรงใจที่จะขยายเชื้อความดีให้แพร่ขยายออกไป เมื่อคิดได้ก็ควรเร่งลงมือทำ ตามแบบอย่างที่ท่านอาจารย์เคยลงปฎักผมไว้ ความดีไม่มีขาย อยากได้ต้องทำเอง เพื่อให้เกิดเป็นรูปธรรม และมีแรงส่งคุณงามความดีให้เครือญาติ พวกเราจึงคิดร่วมกันว่าน่าจะพิมพ์หนังสือรวมสิ่งละอันพันละน้อยของแต่ละคน มาไว้ในพ๊อกเก๊ตบุ๊คส์ ที่ชื่อว่า “เจ้าเป็นไผ”
กระผมได้ส่งสำเนาประวัติบางส่วนมาให้อาจารย์ด้วยแล้ว เพื่อขอความเมตตาท่านอาจารย์ได้โปรดเขียนคำนิยมให้กับหนังสือเล่มนี้ด้วย ลายน้ำหมึกของอาจารย์ จะเป็นยิ่งกว่าน้ำทิพย์ชะโลมใจ ให้คนดีทั่วแผ่นดินลุกขึ้นมาร่วมด้วยช่วยกันทำหน้าที่มนุษย์ ทำความดีความงามให้กับบ้านเมืองของเราตลอดไป
จึงกราบเรียนมา เพื่อโปรดเติมน้ำคำให้เป็นน้ำใจลูกหลานด้วยเถิด
ขอกราบคารวะอย่างสูง
(ครูบาสุทธินันท์ ปรัชญพฤทธิ์ )
วันที่ 6-7 เดือนกุมภาพันธ์ศกนี้ สกว.จัดประชุมสรุปงานวิจัยชุมชนในรอบ10 ปี อ่านดูรายนามท่านอาวุโสแล้วก็เสียวแปล๊บในหัวใจ จะมีผู้ที่เกี่ยวข้องกับการวิจัยระดับหัวกะทิประมาณ 100 ชีวิตมาสังคายนากัน ทำให้ผมคิดถึงการบ้าน..เรื่่องคำนิยม ที่จะพิมพ์ในหนังสือเจ้าเป็นไผ ที่ล่าช้ามานานสองนาน แต่ถ้าคิดเข้าข้างตัวเอง ช้าๆได้พร้าเล่มงามก็ดีไปอีกแบบหนึ่ง บทความระยะหลัง ๆ นี่เด็ดสะระตี่เหลือเกิน
โอกาสนี้รอขอเขียนของบางท่าน ที่เขียนล่อตะเข้..ให้น้ำลายหก ..แล้วก็อุบเงียบไปเฉย ๆ อย่างอาเหลียงเป็นต้น กำลังรออ่านตอนไฟลุกหน้าจอคอมฯ…เขียนแล้วหรือยังขอรับ ชีวประวัติอาเหลียงนั้นเอามาสร้างภาพยนต์ได้เลยเชียวแหละ และขอชมสาวตา..ที่ทยอยส่งการบ้านเป็นระยะสม่ำเสมอ สามารถที่จะเอามารวมพิมพ์ฉบับพิเศษของคนเดียวได้เลย
ช่วงนี้ผมมีเวลาได้อ่านการบ้านของแต่ละท่านคนละหลายรอบ ยิ่งอ่านก็ทำให้อยากพิมพ์เร็วๆ นอกจากจะเห็นนวัตกรรมชีวิตของแต่ละท่านแล้ว มันเป็นชุดความรู้ที่มีสไตล์พิเศษเฉพาะตัว เอามารวมกันแล้วฟันธงได้เลยว่านี้แหละคนแซ่เฮพันธุ์แท้ ที่ส่งมาแล้วมีของท่านจอมป่วน อัยการชาวเกาะ อุ๊ยจันตา ครูอึ่ง น้าอึ่ง รวมของใครๆที่ส่งนั่นและ สุดยอดจริงๆ ขอบอก ใครที่ยังไม่เขียน..เห็นหนังสือออกมาแล้วอย่ามาตีอกชกหัวภายหลังก็แล้วกัน
งานนี้มีเจ้ายุทธภพมาเจอกันมากเป็นประวัติการณ์
ศ.นพ.ประเวศ วะสี
ศ.เสน่ห์ จามริก
ศ.นพ.เกษม วัฒนชัย
ศ.ฉัตรทิพย์ นาถสุภา
ศ.นิธิ เอี่ยวศรีวงศ์
ท่านอนุช อาภาภิรม
ดร,อุทัย ดุลยเกษม
ศ.ดร.มรว.อคิน รพีพัฒน์
รศ. ศรีศักดิ์ วัลลิโภดม
21 ความคิดเห็น
ครูฯครับ
ด้วยความเคารพ
กระผม นาย เหลียง มีความซาบซึ่งครูบาฯอย่างที่สุด
เรื่อง “เจ้าเป็นไผ” เป็นความประสงค์ที่ดีครับ
ผมมั่นใจอย่างยิ่งว่า ถ้า ครูบาฯ ทำสำเร็จ เป็นงานที่สุดยอดเรื่องหนึ่งในวงการ
แต่ชีวิตส่วนตัวผมยังเป็นเรื่องที่ไม่ทราบว่า จะสามารถเป็นบทเรียนที่ดีให้กับสังคมได้แค่ไหน
ถ้าจะเขียนให้มีด้านบวกมากๆสำหรับตัวเอง ก็หาใช่อุปนิสัยส่วนตัวของผมครับ
ถ้าจะเขียนให้ตามความเป็นจริงในชีวิต มันอาจจะไม่เป็นผลดีต่อสังคม
ทุกวันนี้ ผมมีความสุขมากใน กลุ่ม “เฮฮาศาตร์” และด้วยความเคารพ ต่อทุกๆท่านรวมทั้ง ครูบาฯ
ความอบอุ่นเหล่านี้ ย่อมทำให้ผม และครอบครัว น้อมรำลึกเสมอ ถึงคณุนาปการ ที่ครูฯ มีต่อสังคม ตัวอย่างเพียงเท่านี้ น่าจะเพียงพอต่อผลสะเทือนในสังคมและประเทศชาติในภายภาคหน้า
ถึงกระนั้น ผม นายเหลียง จะพยายามขุดผีตัวนี้ให้ออกสู่สังคมให้ได้ เพื่อทำตามความประสงค์ของ ท่านทั้งหลาย
ขอบคุณมากๆครับ
แบบนี้ถึงจะมีโอกาสกินโรตี อิอิ
อ.ฉัตรทิพย์ เป็นนักเศรษฐศาสตร์ที่เชิดชูชุมชน มาตลอด งานเขียนวิชาการของท่านเป็นที่ยอมรับและชื่นชมมาก แม้พวก NGO ที่มักตั้งแง่กับนักวิชาการก็ต้องหามาศึกษา
พี่อนุช นั้นผมนั่งฟังท่านพี่อภิปรายเพื่อชนบทมาตั้งแต่ก่อน 14 ตุลา พี่ชองรับเชิญไปตามที่นักศึกษาทำกิจกรรมเพื่อชนบทในสมัยนั้น
อ.นิธิมิต้องเอ่ย ท่านมีบทบาทในหนังสือสาธารณะมากมาย ผมเป็นคนหนึ่งที่ติดตามงานของท่านตลอด
อ.อุทัย เป็นนักวิชาการกบถท่านหนึ่ง ความคิดความอ่านของท่านไม่ฟังไม่ได้
สำหรับ อ.อคิน ถือว่าผมสนิทกับท่านมากที่สุดในกลุ่มนี้ เพราะเพิ่งจัดงานครบอายุท่านไม่เมื่อสัปดาหืก่อนที่ มข. ท่านมาพูด และออกหนังสือใหม่อีก 2-3 เล่มที่อ่านแล้ววางไม่ลง เพราะมันถูกจริตของผม มีคนขนานนามท่านว่า “เจ้าที่ทำตัวเป็นไพร่” เพราะท่านเป็นพระญาติชั้นสูงของสมเด็จ แต่ท่านคลุกคลีกับ NGO กับชาวบ้าน และหากใครศึกษาประวัติของท่านก็ ทึ่ง เช่นผมเพิ่มเขียนถึงท่านในบันทึกหมอเจ๊ ที่ว่า “วิทยานิพนธ์ปริญญาโทของท่านที่คอแนลนั้นท่านอาจารย์เล่าให้ฟังว่าถูกอาจารย์ที่ปรึกษาโยนทิ้งถึงเก้าครั้ง แต่ก็ทำจนสำเร็จและเป็นวิทยานิพนธ์ที่ดีที่สุด ดีกว่านิพนธ์ปริญญาเอกของนักศึกษาปริญญาเอกอีกมากมาย ชื่อเรื่อง “สังคมไทยในยุครัตนโกสินทร์ตอนต้น” มุมมองของท่านนั้นวิเศษยิ่งนัก
ท่านศรีศักดิ์ ผมเองเก็บงานของท่านมาศึกษามากมาย เพราะชอบสำนวนท่าน ฝีปากท่านนั้นร้ายนัก โดยเฉพาะคนที่ชื่นชมทุนทางสังคมละก็ ท่านอาจารย์ศรีศักดิ์ มีรายละเอียดมากมายที่เรามองไม่เห็น
สามท่านแรกนั้น ไม่ต้องเอ่ยถึง สุดยอดปัญญาชนอยู่แล้ว
กระซิบสำนวนต่อ ที่ใครต่อใครเอ่ยถึงท่านอาจารย์ อคินว่าเป็น “เจ้าทำตัวเป็นไพร่” นั้น มีอีกท่านหนึ่งที่ตรงข้ามเลยที่มีคนกล่าวถึงท่านว่า “เป็นไพร่แต่ทำตัวเป็นเจ้า”
ใครทราบไหมครับว่าเป็นใคร..อิอิ
ตาหวานส่งโรตี ด่วน
บ่ทราบคะร๊าบ
ลุ้นให้หนังสือออกเร็วๆ นะคะพ่อครู
อยากได้บ้างค่ะ อิอิ
พวกหนูจะมีสิทธิ์ลุ้นเล่มไหนน๊อพ่อ ยังเป็นวุ้นอยู่เลยอ่ะ เหอ..เหอ..
ช่วยกันทำมาหากินหน่อย
เขียนๆๆๆส่งมาหน่อย จะทยอยพิมพ์เล่าที่ 1-2-3-4-5-6 ไปเรื่อยๆ
ราณีรวบรวมไว้ที่เดี่ยวกัน จะสะดวกต่อการตรวจต้นฉบับ
ประกวดออกแบบปกดีไหม?
ครูปู น่าจะมีเรื่องเด็ดๆเยอะ ช่วยเขย่าตัวหนังสือให้หล่นออกมาจากสมองหน่อย
มิ้มได้ข่าวไปยกเครื่องหน้ามาสวยเช็ง!! ใช่ปล่าว
จ๊ากกกกกกกกก…พ่อครูบาค่ะ อิอิ
ทำไมข่าวไปเร็วถึงสวนป่าเลยเหรอค่ะ
ความจริง…..ยอมทำใจขึ้นเขียงเป็นหุ่นให้เด็กพี่ราณีสอบทำหน้าหรอกค่ะ อิอิ
แล้วพี่ราณีก็ดุม๊ากกกกกกกกก เด็กในร้านขวัญหนีดีฝ่อหมดเลยค่ะพ่อบาครู
ขนาดมิมนอนหลับตานิ่งๆ ยังกลัวเลยค่ะ แฮ่ะๆ แต่ก็ต้องปิดปากเงียบ
เดี๋ยวโดนดุอีกคนค่ะ ….เอิกซ์!!
อิอิ เปลี่ยนชื่อให้พ่อครูบา
จากพ่อครูบา เป็น พ่อบาครู
ฮ่าๆๆ
เมื่อวันก่อนที่ร้านไก่ตะกร้า พี่ครูลี่ กังวลใจเรื่องร่วมโต๊ะกับพ่อครูบา ฯ เกรงจะไม่เหมาะสม และยังงง ๆ อยู่ว่า น้องครูปูโทรนิมนต์พระมาฉันค่ำที่ร้านได้อย่างไร กร๊ากกก….
รวมแล้วค่ะอยู่ที่ลานไผเป็นไผ ในบันทึก เจ้าเป็นไผ…สะท้านยุทธจักร (ตอนรวมจอมยุทธ์)
มิ้นรู้ไหมที่นี่เป็นศูนย์อีกาคาบข่าว
ใครดุ ใครใจดี ใครสวย ใครเก่ง ใครงอแงรู้หมด อิอิ
ครูปู บอกครูลี่มาอามิตรพุทธด้วย อิอิ
เจ้าที่ทำตัวเป็นไพร่ หรือเจ้ากบถ คือ อาจารย์ อคิน ส่วน ไพร่ที่ทำตัวเป็นเจ้าคือ อาจารย์ สุลักษณ์ ครับ นี่คนในวงการวิชาการตั้งฉายาให้นะครับ เชิงแซวกัน ตามพฤติกรรมที่ท่านทั้งสองเป็นอยู่น่ะครับ
ขอบคุณครับที่เฉลย ได้ฮู้แล้วซำบาย เอาไปแซวต่อได้
พ่อครูขา ลูกครูตัวน้อย ๆ รับไม้ไว้แล้วนะขอรับ
กำลังแอบเหลือบการบ้านของครูใหญ่และครูน้อย บนลานไผเป็นไผอยู่ค่ะ
รักแล้วรอหน่อย เอ๊ย รอปูด้วยนะคะ ^_^
เชื่อในฝีมือ ว่าเขียนอร่อย ไม่แพ้ทำอาหาร ร๊อก อิ อิ