ชิ้นส่วนความรู้

อ่าน: 1982

(ฝนตกเห็ดหูหนูในธรรมชาติเบิกบานอยู่บนตอสะเดา)

นอนฟังเสียงอึ่งอ่างร้องทั้งคืน นึกไม่ออกบอกไม่ได้ว่า..ทำไมอึ่งถึงส่งเสียงร้องยืดเยื้อ6-7ชั่วโมง ..จะเพราะเรียกหากัน ชักชวนกัน ดีใจกัน ก็บรรลุวัตถุประสงค์ตั้งแต่ต้นแล้ว แต่..ต่างตัวต่างตั้งหน้าตั้งตาส่งเสียง..เข้าใจไม่ได้จริงๆ ถ้าย้อนมาดูตัวเอง ผมมีเรื่องความไม่เข้าใจมากมายสารพัดเรื่อง ยกตัวอย่างเรื่องม๊อบที่ยืดยั่ว รัฐบาลประกาศยุบสภาฯเพื่อเลือกตั้งใหม่แล้ว แต่นักร้องกลางถนนก็ยังดื้อเพ่งชุมนุมร้องแรกแหกกระเชอเหมือนเดิม ให้เหตุผลว่าเพื่อขายความคิดเรื่อง “โนโหวต” แหม พ่อเจ้าประคุณเอ๋ย จะมาบริการวิชารักเมืองไทยชูประชาธิปไตยไทยไม่ใช่จะมีวิธีเดียว มันควรจะทำการบ้านติดต่อกันอย่างเป็นระบบ ไม่ใช่นึกอะไรขึ้นได้ก็เอะอะตึงตังกันเป็นครั้งเป็นคราว..

(หญ้าเจอฝนค่อยๆฟื้นตัวให้เห็นความเขียวบ้างแล้ว)

เท่าที่สังเกตมีคนจำนวนมากเห็นด้วยที่จะโนโหวต เพราะเลือกตั้งครั้งไหนๆก็ได้แต่พวกหน้าเก่า มาเหมาโหลบริหารประเทศแบบอีลุบตุบป่อง..นักรณรงค์เลือกตั้งก็จะบอกว่า..ให้เลือกคนดีเข้าสภา อยู่ที่ไหนละคนดี สัญญาต่างๆที่ประโครมช่วงหาเสียง ..จะอย่างนัั้นอย่างนี้ พอได้เป็นรัฐบาลก็หายจ้อย ได้หน้าลืมหลัง ใครจะทักท้วงอย่างไรก็ช่างหัวมัน จ่ายค่าสมประโยชน์ล่วงหน้าด้วยการซื้อเสียงแล้วนี่ จะมาร้องเป็นอึ่งอ่างทำไม

(ปลูกหญ้าในตอต้นตาลแทนไม้ประดับ)

คนไทยเอาแต่ด่านักการเมืองโกงกินอย่างโน้นอย่างนี้

แทนที่จะช่วยกันสร้างเงื่อนไขไม่ให้นักกินเมืองขี้โกงได้ง่ายๆ

กลับไปประโคมข่าวให้เลือกคนดีเข้าสภา

รู้ทั้งรู้ว่าทำไม่สำเร็จแต่ก็ไม่มีเรื่องใหม่มาชี้แนะ

แล้วก็มาโยนบาป..ให้คนชนบท..แกนั่นแหละขายเสีย

ทำไม! คนในภูมิภาคถึงขายเสียง

เพราะความยากจนหรือเปล่า  เพราะโดนหลอกหรือเปล่า หรือเพราะตกอยู่ในวงจรอุบาทก์ เคยคุยกับชาวบ้านในประเด็นนี้ ..พ่อใหญ่บอกว่า..ตราบใดที่รัฐบาลไม่ได้สร้างเสริมเศรษฐกิจพอเพียงให้เพียงพออย่างแท้จริง คนเข้าตาจนที่ไม่มีวิธีแก้ไขปัญหาปากท้อง ..มีอะไรก็ขายทั้งนั้นแหละ ขายแรงงาน ขายที่ดิน ขายวัวควาย ขายลูกสาว ขอแต่ให้มีอะไรขายได้ ก็พร้อมที่จะขายมาจุนเจือครอบครัว กะอีแค่เรื่องขายเสียง สบายมาก ..เลือก อบต. เลือกกำนันผู้ใหญ่บ้าน เลือกอะไรๆทุกตำแหน่งต้องซื้อทั้งนั้น ในส่วนกลางวิ่งเต้นกันยังไง ในชบบทก็ลอกเลียนตามอย่างนั้น หลายฝ่ายกำลังพัฒนากลยุทธหน้าาไหว้หลังหลอก

ประเทศเราเลือกวิธีนี้ใช่หรือไม่?

เมื่อไม่มีระบบไม่ซื้อ-ขายเสียงที่มีประสิทธิภาพพอ

จะไม่ให้ประชาชนไม่ขายเสียง..มันก็ตลกนะสิเธอ

ลองหมู่บ้านไหนไม่ขายเสียงดูสิ..จะเป็นหมาหัวเน่าถูกตัดงบฯช่วยเหลือ

เรื่องนี้มีเบื้องหลังน่าศึกษา

ชาวบ้านไม่โง่พอที่จะไม่มีเหตุผล

ถ้าไม่ทำอะไรใหม่ เราก็ตกอยู่ในรูปแบบประชาธิปไตยกำมะลอนะสิ

ประชาชนคนไทยจึงเชี่ยวชาญเรื่องการขาย

ไม่ว่าจะระบบตรง ระบบขายทางอ้อม แม้แต่ปริญญา ก็ขาย ขาย

ข่าวเล่าเช้านี้..บอกว่าใบปริญญาพระก็มีของปลอม

เอาละสิ..เราอยู่กับโลกจอมปลอมหรืออย่างไร?

ตอนแรกนึกว่าคนจนก้มหน้าก้มตาขายๆๆๆ

เดี๋ยวนี้คนมีความรู้มีฐานะดีก็ขายทุกอย่างที่ขวางหน้า

คุณธรรมความเป็นธรรมถูกเขวี้ยงทิ้งตั้งนานแล้ว

เออ..ทุกคนทุกฝ่ายขายๆๆๆ เก่ง

แต่ทำไมไม่เห็นมีใครร่ำรวย

คนรวยตัวจริงอยู่ที่ไหน

ไม่ว่าจะหยิบยกเรื่องใดมาพิจารณา

ดูเหมือนว่าความรู้เราไม่พอใช้

เรามีความรู้เป็นชิ้นๆ

ชิ้นส่วนที่ว่า..เมื่อไหร่จะครบส่วน

สถาบันไหนจะเป็นเจ้าภาพปะติดปะต่อความรู้

ถ้าไม่มี..สังคมจะเสี่ยงอยู่กับความไม่รู้ต่อไป

เมื่อไม่รู้เราจะทำยังไงละครับ

1 อวดรู้ไปเรื่อยๆ

2 ปรับเปลี่ยนวิธีเรียนรู้เชิงรุก

3 ใส่ใจการแสวงหาความรู้

4 ค้นหาตัวช่วยมาอุปการะความรู้

5 สร้างเครือข่ายเรียนรู้ร่วมกัน

6 ฝึกนิสัยให้แชร์ความรู้ด้วยการเขียนบล็อกในลานปัญญา

7 ช่วบบอกหน่อยเถอะ ในกรณีนี้เราจะทำอะไรได้อีก

“ความโง่นี่เป็นทุกข์จริงหนอ”

“ความโง่ไม่ปราณีใคร”

“เราจะชลอหรือบรรเทาโง่ได้อย่างไร”

“เราจะบริหารความเสี่ยงจากการโง่กันอย่างไร”

..ท่านใดจะเมตตาฉุดผมออกจากหลุมโง่

ก็เชิญมาร่วมวงวันที่ 17 นี้นะครับ ..อิ อิ

« « Prev : คนบ้าทีวี

Next : ตีแตกความรู้ » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

4 ความคิดเห็น

  • #1 sakura ให้ความคิดเห็นเมื่อ 9 พฤษภาคม 2011 เวลา 13:13

    โหวตให้ข้อ 6 ค่ะ คิคิ

    พูดเรื่องซื้อขายเสียงนี่มันก็น่าเจ็บใจอยู่นะคะ ผู้ใหญ่บ้านเอาเงินมาแจกชาวบ้านโครมๆ บอกว่าเบอร์นั้นเบอร์นี้ให้มา ได้กันไปคนละร้อยบ้าง ห้าร้อยบ้าง แต่ทำไมมันข้ามบ้านข้าน้อยไปล่ะนี่ บ้านซากุระเลยไม่เคยได้อานิสงค์เงินซื้อเสียงกะเค้าเลย ทั้งๆ ที่รู้และเห็น สงสัยเขากลัวเราจะเอาไปเป็นหลักฐานฟ้องศาล เหอๆๆๆ เราก็เลยอดเพราะเรียนสูง

    ข้ามไปฝั่งลาวมาเมื่อปีก่อน ตระเวณตั้งแต่เหนือจรดใต้ คนลาวบอกว่ารักทักษิณ เปิดทีวีเชียร์กันทุกบ้าน ไล่ไปตั้งแต่ชายแดนจีนไปจนถึงชายแดนเขมร แต่ไม่ว่าจะรักทักษิณแค่ไหน ก็รับเงินพันธมิตรมานอนประท้วงกะเค้าที่กรุงเทพฯ ด้วย ลาวไทยสมานไมตรี ไม่ว่าใครจ่ายน้องลาวรับหมด เป็นการกระจายรายได้สู่พี่น้องริมฝั่งของเจ้า ไม่ได้เข้าข้างเสื้อสีไหนนะคะ เก็บมาเล่าสู่กันฟังเฉยๆ น้องลาวยังบอกอีกว่า จ่ายหนักทั้งเสื้อเหลืองเสื้อแดงจ้า ดีกว่าไปทำนาเยอะเลย ก็แหม ถ้าไม่จ่ายใครจะยอมทิ้งไร่ทิ้งนาไปนอนประท้วงล่ะค่ะ ขืนทำอย่างนั้นก็อดตายกันทั้งบ้าน อุดมการณ์กับปากท้องมันก็ต้องชั่งกันหน่อยว่าอะไรมันสำคัญเป็นอันดับก่อนหลัง ที่เขียนอย่างนี้ไม่ได้ว่าทุกคนที่ไปประท้วงได้เงินนะคะ บางส่วนได้ บางส่วนไม่ได้ ส่วนที่ไปด้วยใจเพราะอุดมการณ์เดียวกันไม่ต้องมีคนมาเกณฑ์ไป ไม่มีหัวหน้าสาย ไม่มีเบี้ยเลี้ยงรายวันก็เยอะ เมื่อมันผสมผสานกันทั้งสองส่วนเช่นนี้ แล้วเราจะไปเชื่อถืออะไรได้กับการเรียกร้องประชาธิปไตยเพราะพอเข้าไปในกลุ่มแล้วเราก็ไม่รู้หรอกว่าไผเป็นไผ

    ที่รู้ๆ คนดีที่ไม่อยากเสีย ไม่ควรลงเล่นการเมือง เพราะการเมืองไทยยังเล่นกันแบบเด็กเอาแต่ใจไม่ยอมโต พออยากได้อะไรแล้วไม่ได้ดั่งใจก็ลุกขึ้นมาร้องกรี๊ดๆ แต่งไข่ ใส่สี แสดงมารยา แทงกันข้างหลัง เลื่อยขาก้าวอี้ สร้างหลักฐานเท็จ ฯลฯ นักการเมืองส่วนใหญ่ไม่ได้โง่รู้ทั้งรู้ประโยชน์ประเทศคืออะไรแต่ขอประโยชน์กูก่อน เมื่อไม่ได้ประโยชน์กูเมื่อไหร่ ก็ต้องบรรลัยกันไปข้างหนึ่ง อือออออ แต่นักการเมืองที่ดีก็มีนะคะ ทำอย่างไรเราจะส่งเสริมให้นักการเมืองดีๆ มีโอกาสมาทำงานรับใช้ประเทศชาติ เพราะคนดีมักไม่ค่อยสรรเสริญตัวเอง พอลงแข่งขันรับเลือกตั้งก็แพ้พวกพูดเก่งทุกที

    อีกอย่างคนไทยจำนวนหนึ่งใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผลในการตัดสินใจ ที่เป็นเช่นนี้เพราะความผิดพลาดด้านการศึกษาและการปลูกฝังนิสัยตั้งแต่เด็กหรือเปล่า โดยเฉพาะผู้หญิง เพราะผู้หญิงจำนวนหนึ่งไม่สนใจการเมือง แต่จำเป็นต้องมีส่วนร่วมในการเลือกตั้ง ไม่รู้เอาไงดี เอาหล่อไว้ก่อนล่ะวะ โอ้..ประเทศชาติ
    กรี๊ด…อภิสิทธิ์ หล่อมากกกกกกกกก สู้ๆ นะคะ (อภิสิทธิ์แฟนคลับ)
    ผู้ว่า กทม ปีนี้ เธอจะเลือกใคร — ต้องอภิรักษ์สิ เขาหล่อจริงๆ (แม่ค้าใน กทม)
    ก็ต้องออกตัวอีกละว่าไม่ได้มีอคติกับคุณอภิสิทธิ์และคุณอภิรักษ์นะคะ แต่ยกตัวอย่างที่ประสบมาจริงๆ มาแบ่งปันให้เห็นเฉยๆ ว่า เรายังหลงรูปกันอยู่มาก ทั้งๆ ที่รูปมันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับความสามารถในการบริหารบ้านเมืองสักนิด ถ้าเป็นเวทีประกวดชายงามก็ว่าไปอย่าง …

  • #2 sutthinun ให้ความคิดเห็นเมื่อ 9 พฤษภาคม 2011 เวลา 15:11

    มาแล้วครับ มุมต่างมอง ได้เพิ่มเติมเรื่องที่จั๊กกะจี้ทางการเมืองเข้าไปอีกหลายกิโล
    กลัดเสื้อผิดกระดุม ..มันก็เบี้ยวแถกไถไปยังงี้ละครับ
    คนไทยและประเทศไทยสร้างสไตล์การเมืองแบบไทยๆ
    เราอยู่ในความเป็นไทยก็ต้องเรียนรู้การเมืองไทย
    ว่า..ถ้าทำตัวไม่น่าไว้ใจ ฉันก็จะไม่จ่าย ข้ามไปจ่ายบ้านอื่น
    แสดงว่าระบบสารสนเทศหัวคะแนนเขาไม่เบา
    รู้ลึก รู้ละเอียด ครอบครัวไหนจ่ายแล้วไม่ไปกา…
    ก็จะทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ซึ่งก็ดีสำหรับเขา
    เพราะไม่แน่ว่า..ถ้าจ่ายแล้วอาจจะเจอใบแดงก็ได้

    ไม่ทราบว่าการเมืองญี่ปุ่นเป็นยังไงบ้าง
    นักการเมืองซามูไรหน้าบาง
    ถ้าทำอะไรผิดพลาดเขาก็จะรีบลาออก
    บ้านเรานอกจากไม่ลาแล้ว ยังหนีออกไปต่างประเทศ
    วันไหนอารมณ์ดีก็โฟนอินมาอ้อนออดแม่ยก
    :: ผมว่ามีนายกฯรูปหล่อก็ดีนะครับ ดีกว่านายกขี้เหร่
    :: แต่ท่านอภิสิทธิ์ ท่านก็ทำงานหนักนะครับ
    :: สภาพบ้านเมืองเป็นอย่างนี้ ใครมาเป็นนายกก็อ่วมอรทัยทั้งนั้นละครับ
    :: เราต้องเห็นใจในแง่ที่ว่า..บริหารบ้านเมืองในสภาพผิดปกติ
    :: ใครไม่เป็นเองไม่รู้หร็อก..ว่ารูปหล่อต้องแบกภาระมากมายขนาดไหน
    ::ไม่เหมือนพวกลอยชาย เอาแต่สบายวิจารณ์
    :: ถ้าให้มาเป็นนายกฯมันอาจจะเละเทะกว่านี้ก็ได้

  • #3 sakura ให้ความคิดเห็นเมื่อ 9 พฤษภาคม 2011 เวลา 16:21

    555 ท่านครูบาก็ชอบคนหล่อเหมือนกันนะคะเนี่ย คิคิ

    จะว่านักการเมืองญี่ปุ่นหน้าบางก็ไม่เชิงนะคะ แต่เขาใช้หลักตัดนิ้วดีกว่าตัดคอ (เหมือนพวกยากูซ่าเลย หุหุ) เขามีการปลูกฝังให้คนในชาติมีความรับผิดชอบต่อส่วนรวม (แต่คนนอกคอกก็มีค่ะ) คนที่แสดงความเห็นแก่ตัว เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนมากกว่าส่วนรวม จะถูกลอยแพ การตัดสินใจลาออกของนายกฯ หรือ นักการเมืองต่างๆ ก็เป็นผลจากการประชุมในระดับพรรค ไม่ใช่การตัดสินใจของเจ้าตัวเองเพียงลำพัง หากทางที่ประชุมพรรคเห็นว่าการลาออกของคนหนึ่งคนจะรักษาภาพลักษณ์และสถานภาพของพรรคไว้ได้ เขาก็จะคัดเอาคนนั้นออกและสรรหาคนใหม่เข้ามาแทนทันที (ดีนะคะนี่ที่เลิกฮาราคีรีกันแล้ว ไม่งั้นคนเก่งๆ คงตายไปอีกมาก) เรียกว่าเน้นความเป็นทีมเป็นหลัก ในขณะที่บ้านเราเน้นความสามารถส่วนบุคคล คนเก่งในไทยจึงหยิ่งได้ แต่คนเก่งในญี่ปุ่นต้องนอบน้อมเพื่อให้ทีมเชิดชู คนเก่งและหยิ่งสามารถถูกตัดออกจากทีมได้ทุกเมื่อ หากไม่เคารพระเบียบวินัยที่ทีมกำหนด และก็เช่นเดียวกันคนไม่เก่งก็อยู่ได้ หากเคารพกฎเกณฑ์กติกาของทีม

  • #4 sutthinun ให้ความคิดเห็นเมื่อ 9 พฤษภาคม 2011 เวลา 17:31

    ขอบคุณหลายเด้อ ที่ตีแตกระบบการเมืองญี่ปุ่นให้เห็น
    แสดงว่าระบบพรรคเขามีคุณภาพ
    ไม่ได้ปากว่าตาขยิบเออออห่อหมกเหมือนของบางประเทศ
    การเมืองญี่ปุ่น อย่างน้อยก็ยังมีจุดดีให้พอเห็นบ้าง
    เรื่องคนหล่อ มิได้ชื่นชมแต่อย่างใด
    แต่..เห็นว่าห่วยแตกน้อยกว่าคนอื่น
    ประกอบกับไม่มีตัวให้เลือก ก็เลยเลือกคนที่ชำรุดน้อยที่สุด
    บังเอิญแกรูปหล่อโดยธรรมชาติ ก็ปล่อยเลยตามเลย
    ยกประโยชน์ให้แก่คนหล่อ..ไปด้วยประการละฉะนี้ อิอิ


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.90320301055908 sec
Sidebar: 0.052273988723755 sec