ชิ้นส่วนความรู้
(ฝนตกเห็ดหูหนูในธรรมชาติเบิกบานอยู่บนตอสะเดา)
นอนฟังเสียงอึ่งอ่างร้องทั้งคืน นึกไม่ออกบอกไม่ได้ว่า..ทำไมอึ่งถึงส่งเสียงร้องยืดเยื้อ6-7ชั่วโมง ..จะเพราะเรียกหากัน ชักชวนกัน ดีใจกัน ก็บรรลุวัตถุประสงค์ตั้งแต่ต้นแล้ว แต่..ต่างตัวต่างตั้งหน้าตั้งตาส่งเสียง..เข้าใจไม่ได้จริงๆ ถ้าย้อนมาดูตัวเอง ผมมีเรื่องความไม่เข้าใจมากมายสารพัดเรื่อง ยกตัวอย่างเรื่องม๊อบที่ยืดยั่ว รัฐบาลประกาศยุบสภาฯเพื่อเลือกตั้งใหม่แล้ว แต่นักร้องกลางถนนก็ยังดื้อเพ่งชุมนุมร้องแรกแหกกระเชอเหมือนเดิม ให้เหตุผลว่าเพื่อขายความคิดเรื่อง “โนโหวต” แหม พ่อเจ้าประคุณเอ๋ย จะมาบริการวิชารักเมืองไทยชูประชาธิปไตยไทยไม่ใช่จะมีวิธีเดียว มันควรจะทำการบ้านติดต่อกันอย่างเป็นระบบ ไม่ใช่นึกอะไรขึ้นได้ก็เอะอะตึงตังกันเป็นครั้งเป็นคราว..
(หญ้าเจอฝนค่อยๆฟื้นตัวให้เห็นความเขียวบ้างแล้ว)
เท่าที่สังเกตมีคนจำนวนมากเห็นด้วยที่จะโนโหวต เพราะเลือกตั้งครั้งไหนๆก็ได้แต่พวกหน้าเก่า มาเหมาโหลบริหารประเทศแบบอีลุบตุบป่อง..นักรณรงค์เลือกตั้งก็จะบอกว่า..ให้เลือกคนดีเข้าสภา อยู่ที่ไหนละคนดี สัญญาต่างๆที่ประโครมช่วงหาเสียง ..จะอย่างนัั้นอย่างนี้ พอได้เป็นรัฐบาลก็หายจ้อย ได้หน้าลืมหลัง ใครจะทักท้วงอย่างไรก็ช่างหัวมัน จ่ายค่าสมประโยชน์ล่วงหน้าด้วยการซื้อเสียงแล้วนี่ จะมาร้องเป็นอึ่งอ่างทำไม
(ปลูกหญ้าในตอต้นตาลแทนไม้ประดับ)
คนไทยเอาแต่ด่านักการเมืองโกงกินอย่างโน้นอย่างนี้
แทนที่จะช่วยกันสร้างเงื่อนไขไม่ให้นักกินเมืองขี้โกงได้ง่ายๆ
กลับไปประโคมข่าวให้เลือกคนดีเข้าสภา
รู้ทั้งรู้ว่าทำไม่สำเร็จแต่ก็ไม่มีเรื่องใหม่มาชี้แนะ
แล้วก็มาโยนบาป..ให้คนชนบท..แกนั่นแหละขายเสีย
ทำไม! คนในภูมิภาคถึงขายเสียง
เพราะความยากจนหรือเปล่า เพราะโดนหลอกหรือเปล่า หรือเพราะตกอยู่ในวงจรอุบาทก์ เคยคุยกับชาวบ้านในประเด็นนี้ ..พ่อใหญ่บอกว่า..ตราบใดที่รัฐบาลไม่ได้สร้างเสริมเศรษฐกิจพอเพียงให้เพียงพออย่างแท้จริง คนเข้าตาจนที่ไม่มีวิธีแก้ไขปัญหาปากท้อง ..มีอะไรก็ขายทั้งนั้นแหละ ขายแรงงาน ขายที่ดิน ขายวัวควาย ขายลูกสาว ขอแต่ให้มีอะไรขายได้ ก็พร้อมที่จะขายมาจุนเจือครอบครัว กะอีแค่เรื่องขายเสียง สบายมาก ..เลือก อบต. เลือกกำนันผู้ใหญ่บ้าน เลือกอะไรๆทุกตำแหน่งต้องซื้อทั้งนั้น ในส่วนกลางวิ่งเต้นกันยังไง ในชบบทก็ลอกเลียนตามอย่างนั้น หลายฝ่ายกำลังพัฒนากลยุทธหน้าาไหว้หลังหลอก
ประเทศเราเลือกวิธีนี้ใช่หรือไม่?
เมื่อไม่มีระบบไม่ซื้อ-ขายเสียงที่มีประสิทธิภาพพอ
จะไม่ให้ประชาชนไม่ขายเสียง..มันก็ตลกนะสิเธอ
ลองหมู่บ้านไหนไม่ขายเสียงดูสิ..จะเป็นหมาหัวเน่าถูกตัดงบฯช่วยเหลือ
เรื่องนี้มีเบื้องหลังน่าศึกษา
ชาวบ้านไม่โง่พอที่จะไม่มีเหตุผล
ถ้าไม่ทำอะไรใหม่ เราก็ตกอยู่ในรูปแบบประชาธิปไตยกำมะลอนะสิ
ประชาชนคนไทยจึงเชี่ยวชาญเรื่องการขาย
ไม่ว่าจะระบบตรง ระบบขายทางอ้อม แม้แต่ปริญญา ก็ขาย ขาย
ข่าวเล่าเช้านี้..บอกว่าใบปริญญาพระก็มีของปลอม
เอาละสิ..เราอยู่กับโลกจอมปลอมหรืออย่างไร?
ตอนแรกนึกว่าคนจนก้มหน้าก้มตาขายๆๆๆ
เดี๋ยวนี้คนมีความรู้มีฐานะดีก็ขายทุกอย่างที่ขวางหน้า
คุณธรรมความเป็นธรรมถูกเขวี้ยงทิ้งตั้งนานแล้ว
เออ..ทุกคนทุกฝ่ายขายๆๆๆ เก่ง
แต่ทำไมไม่เห็นมีใครร่ำรวย
คนรวยตัวจริงอยู่ที่ไหน
ไม่ว่าจะหยิบยกเรื่องใดมาพิจารณา
ดูเหมือนว่าความรู้เราไม่พอใช้
เรามีความรู้เป็นชิ้นๆ
ชิ้นส่วนที่ว่า..เมื่อไหร่จะครบส่วน
สถาบันไหนจะเป็นเจ้าภาพปะติดปะต่อความรู้
ถ้าไม่มี..สังคมจะเสี่ยงอยู่กับความไม่รู้ต่อไป
เมื่อไม่รู้เราจะทำยังไงละครับ
1 อวดรู้ไปเรื่อยๆ
2 ปรับเปลี่ยนวิธีเรียนรู้เชิงรุก
3 ใส่ใจการแสวงหาความรู้
4 ค้นหาตัวช่วยมาอุปการะความรู้
5 สร้างเครือข่ายเรียนรู้ร่วมกัน
6 ฝึกนิสัยให้แชร์ความรู้ด้วยการเขียนบล็อกในลานปัญญา
7 ช่วบบอกหน่อยเถอะ ในกรณีนี้เราจะทำอะไรได้อีก
“ความโง่นี่เป็นทุกข์จริงหนอ”
“ความโง่ไม่ปราณีใคร”
“เราจะชลอหรือบรรเทาโง่ได้อย่างไร”
“เราจะบริหารความเสี่ยงจากการโง่กันอย่างไร”
..ท่านใดจะเมตตาฉุดผมออกจากหลุมโง่
ก็เชิญมาร่วมวงวันที่ 17 นี้นะครับ ..อิ อิ
« « Prev : คนบ้าทีวี
4 ความคิดเห็น
โหวตให้ข้อ 6 ค่ะ คิคิ
พูดเรื่องซื้อขายเสียงนี่มันก็น่าเจ็บใจอยู่นะคะ ผู้ใหญ่บ้านเอาเงินมาแจกชาวบ้านโครมๆ บอกว่าเบอร์นั้นเบอร์นี้ให้มา ได้กันไปคนละร้อยบ้าง ห้าร้อยบ้าง แต่ทำไมมันข้ามบ้านข้าน้อยไปล่ะนี่ บ้านซากุระเลยไม่เคยได้อานิสงค์เงินซื้อเสียงกะเค้าเลย ทั้งๆ ที่รู้และเห็น สงสัยเขากลัวเราจะเอาไปเป็นหลักฐานฟ้องศาล เหอๆๆๆ เราก็เลยอดเพราะเรียนสูง
ข้ามไปฝั่งลาวมาเมื่อปีก่อน ตระเวณตั้งแต่เหนือจรดใต้ คนลาวบอกว่ารักทักษิณ เปิดทีวีเชียร์กันทุกบ้าน ไล่ไปตั้งแต่ชายแดนจีนไปจนถึงชายแดนเขมร แต่ไม่ว่าจะรักทักษิณแค่ไหน ก็รับเงินพันธมิตรมานอนประท้วงกะเค้าที่กรุงเทพฯ ด้วย ลาวไทยสมานไมตรี ไม่ว่าใครจ่ายน้องลาวรับหมด เป็นการกระจายรายได้สู่พี่น้องริมฝั่งของเจ้า ไม่ได้เข้าข้างเสื้อสีไหนนะคะ เก็บมาเล่าสู่กันฟังเฉยๆ น้องลาวยังบอกอีกว่า จ่ายหนักทั้งเสื้อเหลืองเสื้อแดงจ้า ดีกว่าไปทำนาเยอะเลย ก็แหม ถ้าไม่จ่ายใครจะยอมทิ้งไร่ทิ้งนาไปนอนประท้วงล่ะค่ะ ขืนทำอย่างนั้นก็อดตายกันทั้งบ้าน อุดมการณ์กับปากท้องมันก็ต้องชั่งกันหน่อยว่าอะไรมันสำคัญเป็นอันดับก่อนหลัง ที่เขียนอย่างนี้ไม่ได้ว่าทุกคนที่ไปประท้วงได้เงินนะคะ บางส่วนได้ บางส่วนไม่ได้ ส่วนที่ไปด้วยใจเพราะอุดมการณ์เดียวกันไม่ต้องมีคนมาเกณฑ์ไป ไม่มีหัวหน้าสาย ไม่มีเบี้ยเลี้ยงรายวันก็เยอะ เมื่อมันผสมผสานกันทั้งสองส่วนเช่นนี้ แล้วเราจะไปเชื่อถืออะไรได้กับการเรียกร้องประชาธิปไตยเพราะพอเข้าไปในกลุ่มแล้วเราก็ไม่รู้หรอกว่าไผเป็นไผ
ที่รู้ๆ คนดีที่ไม่อยากเสีย ไม่ควรลงเล่นการเมือง เพราะการเมืองไทยยังเล่นกันแบบเด็กเอาแต่ใจไม่ยอมโต พออยากได้อะไรแล้วไม่ได้ดั่งใจก็ลุกขึ้นมาร้องกรี๊ดๆ แต่งไข่ ใส่สี แสดงมารยา แทงกันข้างหลัง เลื่อยขาก้าวอี้ สร้างหลักฐานเท็จ ฯลฯ นักการเมืองส่วนใหญ่ไม่ได้โง่รู้ทั้งรู้ประโยชน์ประเทศคืออะไรแต่ขอประโยชน์กูก่อน เมื่อไม่ได้ประโยชน์กูเมื่อไหร่ ก็ต้องบรรลัยกันไปข้างหนึ่ง อือออออ แต่นักการเมืองที่ดีก็มีนะคะ ทำอย่างไรเราจะส่งเสริมให้นักการเมืองดีๆ มีโอกาสมาทำงานรับใช้ประเทศชาติ เพราะคนดีมักไม่ค่อยสรรเสริญตัวเอง พอลงแข่งขันรับเลือกตั้งก็แพ้พวกพูดเก่งทุกที
อีกอย่างคนไทยจำนวนหนึ่งใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผลในการตัดสินใจ ที่เป็นเช่นนี้เพราะความผิดพลาดด้านการศึกษาและการปลูกฝังนิสัยตั้งแต่เด็กหรือเปล่า โดยเฉพาะผู้หญิง เพราะผู้หญิงจำนวนหนึ่งไม่สนใจการเมือง แต่จำเป็นต้องมีส่วนร่วมในการเลือกตั้ง ไม่รู้เอาไงดี เอาหล่อไว้ก่อนล่ะวะ โอ้..ประเทศชาติ
กรี๊ด…อภิสิทธิ์ หล่อมากกกกกกกกก สู้ๆ นะคะ (อภิสิทธิ์แฟนคลับ)
ผู้ว่า กทม ปีนี้ เธอจะเลือกใคร — ต้องอภิรักษ์สิ เขาหล่อจริงๆ (แม่ค้าใน กทม)
ก็ต้องออกตัวอีกละว่าไม่ได้มีอคติกับคุณอภิสิทธิ์และคุณอภิรักษ์นะคะ แต่ยกตัวอย่างที่ประสบมาจริงๆ มาแบ่งปันให้เห็นเฉยๆ ว่า เรายังหลงรูปกันอยู่มาก ทั้งๆ ที่รูปมันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับความสามารถในการบริหารบ้านเมืองสักนิด ถ้าเป็นเวทีประกวดชายงามก็ว่าไปอย่าง …
มาแล้วครับ มุมต่างมอง ได้เพิ่มเติมเรื่องที่จั๊กกะจี้ทางการเมืองเข้าไปอีกหลายกิโล
กลัดเสื้อผิดกระดุม ..มันก็เบี้ยวแถกไถไปยังงี้ละครับ
คนไทยและประเทศไทยสร้างสไตล์การเมืองแบบไทยๆ
เราอยู่ในความเป็นไทยก็ต้องเรียนรู้การเมืองไทย
ว่า..ถ้าทำตัวไม่น่าไว้ใจ ฉันก็จะไม่จ่าย ข้ามไปจ่ายบ้านอื่น
แสดงว่าระบบสารสนเทศหัวคะแนนเขาไม่เบา
รู้ลึก รู้ละเอียด ครอบครัวไหนจ่ายแล้วไม่ไปกา…
ก็จะทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ซึ่งก็ดีสำหรับเขา
เพราะไม่แน่ว่า..ถ้าจ่ายแล้วอาจจะเจอใบแดงก็ได้
ไม่ทราบว่าการเมืองญี่ปุ่นเป็นยังไงบ้าง
นักการเมืองซามูไรหน้าบาง
ถ้าทำอะไรผิดพลาดเขาก็จะรีบลาออก
บ้านเรานอกจากไม่ลาแล้ว ยังหนีออกไปต่างประเทศ
วันไหนอารมณ์ดีก็โฟนอินมาอ้อนออดแม่ยก
:: ผมว่ามีนายกฯรูปหล่อก็ดีนะครับ ดีกว่านายกขี้เหร่
:: แต่ท่านอภิสิทธิ์ ท่านก็ทำงานหนักนะครับ
:: สภาพบ้านเมืองเป็นอย่างนี้ ใครมาเป็นนายกก็อ่วมอรทัยทั้งนั้นละครับ
:: เราต้องเห็นใจในแง่ที่ว่า..บริหารบ้านเมืองในสภาพผิดปกติ
:: ใครไม่เป็นเองไม่รู้หร็อก..ว่ารูปหล่อต้องแบกภาระมากมายขนาดไหน
::ไม่เหมือนพวกลอยชาย เอาแต่สบายวิจารณ์
:: ถ้าให้มาเป็นนายกฯมันอาจจะเละเทะกว่านี้ก็ได้
555 ท่านครูบาก็ชอบคนหล่อเหมือนกันนะคะเนี่ย คิคิ
จะว่านักการเมืองญี่ปุ่นหน้าบางก็ไม่เชิงนะคะ แต่เขาใช้หลักตัดนิ้วดีกว่าตัดคอ (เหมือนพวกยากูซ่าเลย หุหุ) เขามีการปลูกฝังให้คนในชาติมีความรับผิดชอบต่อส่วนรวม (แต่คนนอกคอกก็มีค่ะ) คนที่แสดงความเห็นแก่ตัว เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนมากกว่าส่วนรวม จะถูกลอยแพ การตัดสินใจลาออกของนายกฯ หรือ นักการเมืองต่างๆ ก็เป็นผลจากการประชุมในระดับพรรค ไม่ใช่การตัดสินใจของเจ้าตัวเองเพียงลำพัง หากทางที่ประชุมพรรคเห็นว่าการลาออกของคนหนึ่งคนจะรักษาภาพลักษณ์และสถานภาพของพรรคไว้ได้ เขาก็จะคัดเอาคนนั้นออกและสรรหาคนใหม่เข้ามาแทนทันที (ดีนะคะนี่ที่เลิกฮาราคีรีกันแล้ว ไม่งั้นคนเก่งๆ คงตายไปอีกมาก) เรียกว่าเน้นความเป็นทีมเป็นหลัก ในขณะที่บ้านเราเน้นความสามารถส่วนบุคคล คนเก่งในไทยจึงหยิ่งได้ แต่คนเก่งในญี่ปุ่นต้องนอบน้อมเพื่อให้ทีมเชิดชู คนเก่งและหยิ่งสามารถถูกตัดออกจากทีมได้ทุกเมื่อ หากไม่เคารพระเบียบวินัยที่ทีมกำหนด และก็เช่นเดียวกันคนไม่เก่งก็อยู่ได้ หากเคารพกฎเกณฑ์กติกาของทีม
ขอบคุณหลายเด้อ ที่ตีแตกระบบการเมืองญี่ปุ่นให้เห็น
แสดงว่าระบบพรรคเขามีคุณภาพ
ไม่ได้ปากว่าตาขยิบเออออห่อหมกเหมือนของบางประเทศ
การเมืองญี่ปุ่น อย่างน้อยก็ยังมีจุดดีให้พอเห็นบ้าง
เรื่องคนหล่อ มิได้ชื่นชมแต่อย่างใด
แต่..เห็นว่าห่วยแตกน้อยกว่าคนอื่น
ประกอบกับไม่มีตัวให้เลือก ก็เลยเลือกคนที่ชำรุดน้อยที่สุด
บังเอิญแกรูปหล่อโดยธรรมชาติ ก็ปล่อยเลยตามเลย
ยกประโยชน์ให้แก่คนหล่อ..ไปด้วยประการละฉะนี้ อิอิ