ยิ้มแล้วกอด ทางรอดประเทศไทย
อ่าน: 2411ลุเข้าปี ค.ศ.2008
สงครามล่าอานิคมสงบลง
ประเทศเพื่อนบ้าน ญวน ลาว พม่า เขมร มลายู
ผ่อนคลายสงครามที่มารุกราน
ต่างปรับกระบวนการพัฒนาประเทศยกใหญ่
อาณาประชาราษฎร์ขยันขันแข็งช่วยกันสร้างบ้านแปลงเมือง
จะมีก็แต่สยามประเทศนี้แหละ
ถึงไม่มีสงครามภายนอกมาข้องแวะ
แต่ก็เกิดกลียุคคุกรุ่นภายในกันเอง
สภาพบ้านเมืองระส่ำระสายแตกเป็นก๊กเป็นเหล่า
สภาพแวดล้อมกำลังเปลี่ยนแปลง
ส่งผลกระทบขยายวงกว้างไปทั่วทุกย่อมหญ้า
บ้านนี้เมืองนี้กำลังเรียนวิชาประชาธิปไตยเชิงประจักษ์
ผีซ้ำด้ามพลอยไปทุกเรื่อง
อาหารการกินมีสารอันตรายปนเปื้อนมาไม่รู้กี่มากน้อย
เลือดที่วิ่งพล่านไปตามร่างกายนำสารอันตรายไปป้อนเซลล์ต่างๆ
ชาวพาราเจ็บไข้ทางกายก็มาก ป่วยทางจิตเยอะ
สถิติเฉพาะพวกจิตแปรปรวนหมอจิตเวชบอกว่าปีละไม่น้อยกว่าล้านคน
ที่กระโดดตึก ผู้คอ กินยาพิษ ประสบผลสำเร็จปีละ4,000ราย
ปีนี้อากาศหนาว ผลผลิตชาวบ้านลงราคา ยางพาราก็หูรูด
น้ำมันถูกอย่างเดียวแต่ของกินของใช้ไม่พยายามที่จะลง
เงินทองเป็นของหายาก
ร้านทองหยุดขายวันเสาร์-อาทิตย์ และห้ามซื้อเกินคนละ10บาท
นักเลงหุ้นหน้าดำยิ่งกว่าคราวที่แล้ว
ชาวไร่ชาวนาจะอยู่กันยังไง
อย่าบอกนะว่า..เปลี่ยนเป็นชาวม๊อบกันหมดแล้ว
ข่าวพยากรณ์บอกว่าจะแล้งยาว หนาวจนหิมะตก
สาวๆคนไหนผิวบางต้องเตรียมหาน้ำมันกิ้งกือชโลมตัว
ออกจากบ้านไปเย้ๆ ควรหาซื้อเสื้อกันหนาวมือ2มาสวมใส่
แก๊สหุงต้ม ฟืนไฟ ระวังให้ดี น้ำไม่ค่อยมีจะดับเสียด้วย
พวกกินเหล้าเมายาหรือนิยมยาบ้าท่าจะบ้าหนักเข้าไปอีก
ช่วงนี้เดือดร้อนไปทุกย่อมหญ้า
มีเสียงรำพึง..คนเป็นแฟนทำแทนแค่นี้ไม่ได้
ปล่อยให้สีแดง สีเหลือง สีเขียว ท้าทายกันจนน้ำลายเหนียว
เราชะล่าใจปล่อยให้ความทะเยอทะยานบานปลายไปเรื่อยๆ
เฉื่อยเฉยกับบทบาทหน้าที่พลเมืองกันรึเปล่า
รึเราไม่มีความรู้เพียงพอที่จะแก้ไขปัญหาการเมือง
หลักสูตรการศึกษาไม่สอนวิชาสิทธิหน้าที่พลเมืองมันส่งผลจริงรึเปล่า
บอกได้แค่ว่าอย่าทะเลาะกัน หันหน้ามาคุยกัน ปรองดองกัน
ในขณะที่ใจบอดหูหนวกตาส่อนนี่นะ
หนทางไปข้างหน้าเล็กและแคบ แต่ละฝ่ายยกโขยงมากลุ่มใหญ่
ถ้าคิดให้เป็นรูปธรรม เอาอย่างนี้จะดีไหม?
แก้ไขสัญญาณจราจร เปิดเฉพาะไฟแดง
แก๊สน้ำตาเปลี่ยนเป็นแก๊สน้ำมนต์
เวทีปราศรัยปรับเป็นลานทอดกฐินสามัคคี
แม่ยก พ่อยก ออกมาเต้น..เหนื่อยแล้วก็กลับบ้านซะ
เสื้อ ผ้าโพกหัว ไม้ตีมือตีเท้า เก็บเข้ากองกลางโมทนาบุญ
โฆษกเสียงจัดจ้านเปลี่ยนให้ไปประชาสัมพันธ์
หัวหน้าม๊อบแต่ละฝ่ายให้แสดงลิเกประชันกัน
พวกนักดนตรีพเนจร นักร้องกิตติมศักดิ์
เชิญขึ้นเวทีออกรายการโทรทัศน์มหากุศลคนรักสยาม
นักวิชาการ นักศึกษา นั่งหน้าโทรศัพท์คอยรับบริจาค
แล้วเชิญ..
มหาจำลอง แจกรอยยิ้ม
นัฐวุฒิ ร้องเพลง ..เขาไม่กอด แต่ยินดีให้กอด
เรื่องนี้ไม่ได้คิดเล่นๆ พูดเล่นๆ
ถ้านักสันติวิธี นักประชาธิปไตยใสซื่อไม่เชื่อ
วันที่8พฤศจิกายน2551
ไปดูการสาธิตเรื่องดังกล่าวได้ที่สโมสรกองพล ปตอ. เกียกกาย
อิ อิ ..
« « Prev : ทำไม่รู้ไม่ชี้ก็ตามใจ
1 ความคิดเห็น
เป็นที่น่ายินดียิ่งนักที่จะเกิดสันติครับ
ขอตีมือให้ทุกท่าน
ที่ลงมือสร้า้งเวทีที่ดีที่สุดที่มนุษย์ควรจะกระทำ
ในฐานะ สัตว์ผู้ประเสริฐ
และจะต้องอยู่ร่วมกัน