แม่
อ่าน: 1289(แม่-ครูที่สอนวิชาชีวิตเกษตรกรรมผม)
อ่านเรื่องแม่ที่รอกอดเอามาเผื่อแผ่แล้ว ทำให้สันดานลูกไม่ดีมีเต้นเร้า คิดถึงแม่แต่ก็สายไปเสียแล้ว ในวันที่แม่อยู่ห่างไกลโพ้น อยู่สวรรค์ชั้นไหนก็ไม่รู้ ได้แต่เดินดูเดินทวนความหลัง ต้นไม้ต้นโน้นต้นนี้แม่เป็นคนปลูก แม่สอนโดยการกระทำให้ดู แม่เป็นครูที่ไม่เคยผ่านวิชาครู แต่แม่เป็นครูด้วยชีวิตจิตใจขนานแท้ คำว่าให้ความรักก่อนให้ความรู้ แม่ทุกคนทำมาแต่เราตีนเท่าฝาหอย ทุ่มเทให้ทุกสิ่งทุกอย่างโดยไม่มีข้อจำกัดและไม่เคยเบี่ยงเบนใดๆทั้งสิ้น แม่เป็นผู้ให้ผู้เสียสละที่ยิ่งใหญ่ของลูกๆทุกคน
ดีใจด้วยอย่างยิ่งสำหรับคุณเธอทั้งหลายที่แม่ยังมีชีวิตอยู่ ขอให้ทะนุถนอมแม่พระไว้ให้ดี รักและเข้าใจแม่ให้มาก ไม่มีลูกคนไหนหรอกที่เข้าถึงจิตใจแม่ที่ทุ่มเทให้ทั้งหมด รักของแม่นั้นลึกและอลังการเกินที่ใจหยาบๆอย่างเราจะสัมผัสได้ คนที่มีแม่นั้นโชคดีที่สุดในความเป็นมนุษย์ ลองนึกถึงลูกกำพร้า ลูกเลี้ยง ลูกที่พลัดพรากจากพ่อแม่ เขาจะโหยหาแม่สักเพียงไหน หรือดูข่าวทีวีที่คุณแม่ถูกขโมยลูกวัยทารก เธอออกมารำพึงรำพันเปิ้มว่าอกจะแหลกสลาย ในยามนั้นแม้แต่ชีวิตแม่ก็ยอมแลก มีกรณีหนึ่ง คุณพ่อเป็นโรคไตร้ายแรง คุณลูกชายยอมสละไตให้พ่อ เพื่อจะต่ออายุให้คุณพ่อได้อยู่เป็นขวัญกำลังใจให้คนในครอบครัวปกติสุขร่วมกันไปนานๆ น่าชื่นใจกับหนุ่มคนนี้เหลือเกิน
เจ้ากอล์ฟลูกชายโทนผม
คุณพ่อป่วยด้วยโรคไต
ต้องไปฟอกไตประจำ
กอล์ฟเล่าว่า การฟอกไตแต่ละครั้งคุณพ่อทนทรมานมาก
คุณพ่อสู้ยืดอายุเพื่อจะได้อยู่กับลูกเต้าเท่าที่สังขารจะทนได้
ทุกปีกอล์ฟจะไปโรงพยาบาลเพื่อบริจาคเกล็ดเลือดเป็นประจำ
เพื่ออุทิศความรักและรำลึกถึงพ่ออย่างไม่จืดจาง
แม่ผมเมื่อสังขารร่วงโรย แม่ป่วยออดๆแอดๆ พาไปตรวจพบว่าป่วยเป็นมะเร็งในตับ โชคดีที่ไปค้นพบในระยะแรก สมัยนั้นมีหมอเชี่ยวชาญเพิ่งจบการศึกษาโรคนี้กลับมาจากอเมริกาหมาดๆ หมอเอากรณีของแม่เป็นการวิจัยโรคนี้ในประเทศไทย แม่ได้รับการผ่าตัด หลังจากไปตรวจตามนัดหลายครั้ง ได้ข่าวดี หมอบอกว่า..แม่หายขาด ..
หมอจะเอาแม่ไปโชว์วงการแพทย์ที่อเมริกา
แม่บอกไม่ไปหรอก
ทำไมละ
เกรงว่าจะไม่ได้เคี้ยวหมาก
หลังจากป่วยใหญ่คราวนั้น แม่อยู่กับลูกๆอย่างปกติ แต่ยังเป็นมนุษย์เหล็กทำงานทั้งวัน ฝนพร่ำๆยังไม่ยอมเข้าร่ม เตี่ยบอกว่า..แม่นี่ขยันมากกินไป ทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับคู่ชีวิตอย่างทรหด สมัยที่บุกเบิกก่อร่างสร้างตัวที่สวนป่า แม่ขี่ม้าไปมาระหว่างสวนป่ากับตัวบ้านที่สตึกเป็นประจำ จะกลับมาช่วงค่ำ ตื่นเช้ามืดขี่ม้ากลับไปทำงานที่สวน แม่อายุยืนต่อมาได้20กว่าปี เป็นคนแรกๆที่ผ่าตัดมะเร็งตับแล้วหายขาด
เร็วๆนี้พี่ๆน้องๆและหลานๆมาเยี่ยมผม มีเสียงเล็ดลอดออกมาว่า ที่ตรงโน้นที่ตรงนี้พวกเขาเคยมาเดินมาวิ่งเล่น พูดถึงความหลังอย่างกระจ่างใจ ทุกคนลงความเห็นว่าจะช่วยกันสานต่องานในสวนป่าให้ดีที่สุด ไม่ต้องทำอะไรหรอก รักษาต้นไม้-ปลูกต้นไม้เสริม ช่วยกันสืบทอดหยาดเหงื่อของบรรพบุรุษให้มันมีชีวิตชีวาต่อไป เพื่อจะมอบธรรมชาติกลับคืนมาอีกครั้งหนึ่ง
ถึงอายุไขที่ต้องลับลาไกล แม่ล้มป่วยด้วยโรคภายในลำไส้ ลูกๆพาไปโรงพยาบาล ตรวจรักษากันเต็มที่ แต่ก็ยากจะฝืนความจริงต่อไปได้ หมอบอกว่า..แม่อยากกินอะไรก็ให้กิน คงจะอยู่กับเราได้ไม่นานนัก อย่างเก่งคงไม่เกิน6เดือน ลูกๆรับแม่กลับมาบ้าน แล้วก็ได้แต่นั่งมองหน้ากันเพราะไม่รู้จะทำอะไรได้
เมื่อเห็นว่าแม่เริ่มป่วยมากขึ้น
ผมรีบสร้างบ้านชั้นเดียวหลังเล็กๆในปี 2535
ใครไปสวนป่าจะเห็นว่าบ้านหลังคาสีเขียวไม่มีบันได
ทำเป็นทางเทลาดเหมือนทางขึ้นตึกในโรงพยาบาล
ข้างในทำเตียงไม้กว้างๆ
มีห้องน้ำ ห้องครัว อยู่ในระนาบเดียวกัน
และแล้วบ้านหลังนี้ก็ได้ต้อนรับแม่มาพักช่วงป่วยหนัก
แม่จำใครไม่ได้ เพ้อเป็นพักๆ กินอะไรไม่ได้เลย แม่คงหิวเหนื่อยและเจ็บปวด แต่บอกใครไม่ได้ ตาฝ้าฟางแขนขายกไม่ขึ้น หมอหมดความสามารถ บอกว่าให้เอากลับมารอวาระ.. ผมสงสารแม่จับใจ แต่ไม่รู้จะทำอะไรได้ แม่อ้าปากแทบไม่ได้เลย ไม่รู้จะทำยังไง ..ผมให้ลูกน้องไปหารังผึ้งมา ผมเลือกเอาลูกผึ้งอ่อนมา แล้วเอาช้อนกดลงไปให้ลูกผึ้งแตกออกเป็นน้ำข้นๆคลายๆกับนม เอาน้ำผึ้งผสมบ้าง เอายอดตำลึงมาต้ม แล้วเอาน้ำผักมาผสมน้ำลูกผึ้งและหวานผึ้งเพื่อลดความข้นเหนียว ค่อยๆประคองแม่ขึ้น แล้วเอาช้อนค่อยๆแง้มปากให้อ้าได้หน่อยหนึ่ง ค่อยๆเอาน้ำลูกผึ้งที่ปรุงแล้วหยอดลงไป วันแรกแม่กลืนได้ 5-6 ช้อน วันต่อมาเริ่มรับประทานได้มากขึ้นๆ ผมให้อาหารพิเศษนี้ติดต่อกัน3-4เดือน อาการค่อยๆกระเตื้องขึ้น ครบหนึ่งปี แม่เริ่มฝึกเดินใหม่ จากที่เต๊าะแตะก็ไม่ต้องจับราวไม้ สุดท้ายแม่ก็เดินแข็งแรงขึ้นมาได้อีกรอบหนึ่ง
หมอใหญ่ที่กรุงเทพฯเจอหน้าหลานชายที่เป็นอาจารย์หมอด้วยกัน
บอกว่า..ถ้าทำบุญครบรอบแม่วันไหนบอกด้วยนะ
พอรู้ว่าแม่ยังอยู่ ยังเดินปร๋อ
เคี้ยวหมากจั๊บๆอารมณ์ดี
ยังขึ้นล่องกรุงเทพฯมาเยี่ยมหลานๆประจำ
หมอใหญ่ต๊กกะใจ๋!! ร้องฮ้า!
หลังจากนั้น 3 ปี แม่อยากทอดกฐินที่บ้านเก่า พวกเราลูกๆหลานๆพากันจัดให้ หลังจากทำบุญสมใจแล้ว แม่ก็ป่วยแล้วลาจากลูกหลานไปในที่สุด แต่แม่ยังฝากผลงานไว้เยอะมาก มีทั้งที่ตรึงอยู่ในใจ และที่เป็นต้นหมากรากไม้ที่แม่ปลูกเองกับมือ บางทีแม่เห็นว่าผมโอ้เอ้ แม่จัดการขนต้นไม้ไปปลูกให้ แม่ได้ถ่ายทอดยีนรักการปลูกต้นไม้ให้ผม ที่จริงแล้ว ต้นไม้ที่เห็นในสวนป่าจำนวนมาก ล้วนเป็นฝีมือแม่ทั้งนั้น
ผมเป็นได้แค่ลูก..ประเภทชุบมือเปิบครับผ๊ม!!
« « Prev : จ้ำจี้มะเขือการ์ตูน
Next : ขออนุญาตโอ้โหอีกรอบ » »
3 ความคิดเห็น
ครูบาคะ
อ่านแล้ว…ไม่ได้ร้องไห้ แต่…น้ำตามันออกมาเอง
เชื่อว่าคุณยายท่านคงนั่งยิ้ม น้ำหมากย้อยอยู่บนสวรรค์แล้ว เมื่อเห็นสิ่งที่ครูบาทำ
น้อมใจคารวะสิ่งที่ครูบาได้ทำและได้ดูแลคุณยายค่ะ
สมเป็นอภิชาตบุตรแล้ว
สวัสดีค่ะพ่อครู
ปลาบปลื้มใจมากกับการดูแลคุณยายอย่างดีที่สุดค่ะ ทำให้หนูระลึกถึงเตี่ยที่จากไปด้วยวัยแค่ 59 ปี หนูยังทดลองราชการอยู่ เตี่ยก็เริ่มป่วย หัวหน้าก็ดีใจหายให้รีบไปดูเตี่ย เตี่ยป่วยขับรถมาหาเราแม่ลูกที่กำลังเลี้ยงหลานในวัยทารก หนูทำได้แค่เพียงนำเตี่ยไปหาหมอโรงพยาบาล ได้ยามาเตี่ยก็ขับรถกลับสวรรคโลก ระยะทางห่างกัน 100 กิโลเมตร เวลาทำได้เเท่านั้นจริงๆค่ะ เสียดายเวลานั้นก็สายเสียแล้ว ยังมาปู่ของหลาน ทิ้งมะรุม แค็ปซูล กับน้ำผึ้งแท้ไว้ให้ เมื่อสับดาห์ที่แล้วลองชิมน้ำผึ้งปู่ดู ปู่อุตส่าห์ดูแลตัวเองอย่างดี แค่ชื่นชมหลานสาวได้เท่านี้เอง
ได้เรียนรู้สุดยอดหมอชาวบ้านครับ “ผมให้ลูกน้องไปหารังผึ้งมา ผมเลือกเอาลูกผึ้งอ่อนมา แล้วเอาช้อนกดลงไปให้ลูกผึ้งแตกออกเป็นน้ำข้นๆคลายๆกับนม เอาน้ำผึ้งผสมบ้าง เอายอดตำลึงมาต้ม แล้วเอาน้ำผักมาผสมน้ำลูกผึ้งและหวานผึ้งเพื่อลดความข้นเหนียว ค่อยๆประคองแม่ขึ้น แล้วเอาช้อนค่อยๆแง้มปากให้อ้าได้หน่อยหนึ่ง ค่อยๆเอาน้ำลูกผึ้งที่ปรุงแล้วหยอดลงไป วันแรกแม่กลืนได้ 5-6 ช้อน วันต่อมาเริ่มกลืนอาหารได้มากขึ้นๆ ผมให้อาหารพิเศษนี้ติดต่อกัน3-4เดือน อาการแม่ค่อยๆกระเตื้องขึ้น ครบหนึ่งปี แม่เริ่มฝึกเดินใหม่ จากที่เต๊าะแตะก็ไม่ต้องจับราวไม้ สุดท้ายแม่ก็เดินแข็งแรงขึ้นมาได้อีกรอบหนึ่ง”