เสียวตับ
อ่าน: 2885(ความคิดชั่ววูบ ทำทุกอย่างวูบไปด้วย)
เมื่อวานนั่งรถผ่านไปประชุมที่สำนักงานคณะกรรมการอุดมศึกษา สกอ.
เห็นร่องรอยเผากรุงแล้วสุดสังเวช
สุดท้ายมันก็กระเทือนซางกันทั้ง 2 ฝ่ายนั่นแหละ
โทษมึงโทษกูยุ่งอยู่กับเรื่องสับปะรังเคทั้งนั้น
ไม่ได้สร้างสรรอะไรมีแต่ถูไถถอยเข้าคลอง
คนกรุงที่ไม่ชอบยุ่งกับใครก็ได้แต่มองตาปริบ ๆ
ยังดีที่กระซิบกันออกมาปัดกวาดชะล้างภาพอุจาดออกไป
(เมืองอุบลคนนักปราชญ์ อาจจะเปลี่ยนเป็นอุบลคนนักเผา)
คนชนบทมีส่วนร่วมทางอ้อม
นอกจากมาเข้าขบวนแล้วยังเป็นพวกที่ปลูกยาง
ยางพวกนี้แหละ
-เปลี่ยนมาเป็นยางรถยนต์-เปลี่ยนมาเป็นบังเกอร์-เปลี่ยนมาเป็นเชื้อเพลิง
เป็นยุุทธปัจจัยสงครามยางรถเก่า เผา เผา จุด จุด ยิง ยิง
ควันคะคลุ้งท้องฟ้า เหม็นผวาไปทั่วกรุง
(อาคารหนึ่งซ่อมเสร็จ อีกอาคารหนึ่งเพิ่งเผาเสร็จ)
ช่วงที่ไปอุบลบ่อย ๆ
แวะไปดูกรมศิลปากรซ่อมแซมอาคารไม้ตะเคียนทองหลังใหญ่ที่สุดในโลก
หมดงบประมาณไป 14 ล้าน
ซ่อมเสร็จแล้วจะเซ็นสัญญา MOU ระหว่างกรมศิลปากรกับมหาวิทยาลัยอุบลฯ
ตั้งใจว่าจะเป็นสถานที่จัดแสดงศิลปะวัฒนธรรมอีสานใต้
รวบรวมเอากึ๋นอีสานทุกด้านมาแสดง
เปิดนิทรรศการตลอดปี
จัดเป็นพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นเหมือนตำหนักเจ้าดารารัศมีที่แม่ริม เชียงใหม่
(อดีตเป็นโรงเรียนเบญจมมหาราช จึงมีห้องมากมาย)
วันที่ 19 พค.ม็อบอุบลก็บุกเผาศาลากลางจังหวัด
เดชะบุญที่ลมไม่พัดหวนไปที่อาคารหลังดังกล่าว
ไม่อย่างนั้นก็คงโกร๋นเหลือแต่โครง
ผู้ว่าราชการฯ และผู้บังคับการตำรวจโดยย้ายไปนั่งตบยุง
ศาลากลางคงย้ายออกไปสร้างที่ใหม่
เมื่อไม่มีอะไรกีดขวางภูมิทัศน์
อาคารไม้ตะเคียนทองหลังใหญ่ที่สุดในโลกนี้ก็จะสง่างาม
(คุณนิกร วีสเพ็ญ ผู้บุกเบิกเรื่องนี้เล่าว่าไม้ทุกชิ้นยังคงสภาพดี)
อาคารหลังนี้นับว่ามหัศจรรย์มาก
สร้างมาเกือบร้อยปีแล้วเนื้อไม้ยังคงทนถาวร
ปลวกไม่มีมากล้ำกรายสักตัว
แม้แต่พระเพลิงก็ไม่กล้าไหม้
กลายเป็นของดีเมืองอุบลไปโดยอัตโนมัติ
ชาวเรา..ถ้าได้ไปเที่ยวอุบลอย่าลืมแวะชมนะครับ
ของเหลือไหม้ เช่นครุฑตรงหน้าจั่วศาลากลางและสิ่งของอื่นๆ
เราก็จะเก็บมาจัดแสดงไว้
ทราบเป็นการภายในว่า..
พวกมือเผาทั้งหลายมาแอบดูซากสลักหักพัง
บางคนยืนร้องไห้..ตูทำไปได้ยังไงวะ..
ความเศร้ารันทดคงติดตามหลอกหลอนไปนานเท่านาน
ใครว่า..ของหลวงตกน้ำไม่ไหลตกไฟไม่ไหม้..เข้าใจเสียใหม่
อะไร ๆ ก็ไหม้ได้ทั้งนั้น
แม้แต่หัวใจ..ถ้าเรามองเห็นมันเป็นยางรถยนต์เก่า
อยากจะขอร้องไว้สักอย่างหนึ่ง
หัวใจแก่ ๆ เก่า ๆ ที่สวนป่าอย่าไปเผาเลยนะต๋อย..
แคว๊ก ๆ
Next : 53 ก้าวถึงเจ้าอร่อย » »
10 ความคิดเห็น
ดีใจด้วยอย่างยิ่ง จะฉลองวันไหนนนนนนนนนนน
อาจารย์ที่ปรึกษาชื่ออิหยัง
ศ. อภิชัย พันธเสน เป็นเจ้าตำรับเรื่องนี้
ทำนโยบายเศรษฐกิจพอเพียงระดับอินเตอร์
อาจารย์ลูกหว้าคงจะคว้าปริญญาได้เป็นดร.สมใจแล้วสินะครานี้
สู้ๆๆๆๆ
แคว๊กๆๆ
ใจคนนี่หากควบคุมไม่อยู่ ความร้อนข้างในเผาโลกทั้งใบก็ได้
ใครไปจุดไฟที่ใจคนให้ลุกโพลนขึ้นมา
ต้องดับไฟที่ใจกัน
หากใจมีแต่เยือกเย็น
โลกนี่ก็ร่มเย็น
ใจคนจุดก็ร้อนรน อาจจะร้อนมากกว่า
ถึงจะเปลี่ยนสัญชาติไทยไปสัญชาติชั่–
ไฟแค้นคุกรุ่น อยากที่ชีวิตจะสงบสุข
จะรอดูคนมันจะหนีไฟกิเลศได้สักกี่น้ำ
พวกเราน่าจะสงบใจได้มากแล้ว
อามิตรพุทธ
งามจริง ๆ ครับ
เหมาะแล้วที่จะทำพิพิธภัณฑ์เป็นศรีสง่าและแหล่งเรียนรู้ของอีสานใต้
ว่างๆจะชวนออตไปดู อาจจะวางแผนออกร้านผ้าประจำก็ได้นะออต
จะชวนคณะศิลปะประยุกต์มาอยู่ที่นี่
ไม่รู้อาจารย์จะว่ายังไง?
คงหาโอกาสไปชมในวันข้างหน้าค่ะ
เห็นแล้วก็นึกถึงศาลากลางนนทบุรีหลังเก่าที่ถูกทิ้งโทรมแถมมีคนไปถ่ายหนักถ่ายเบารดอีก…ดูแล้วทรงคล้ายๆกันนะคะ..
เก๋กันคนละแบบนะอุ้ย
น่าเสียดายทั้งคู่ ของนนทบุรีถเาปรับปรุงดีๆก็เกิดประโยชน์อย่างมาก
พวกใกล้ด่างกินเกลือก็อย่างนี้แหละ อิ
อิอิ บ้านคณบดีคณะศิลปประยุกต์ ที่ขอนแก่นก็งามครับพ่อ
ดูตึกเก่าแล้วงามจริง ๆ ไปอุบลจะแวะไปดูครับ