ช้ำในกินใบบัวบก ช้ำใจกินใบอะไร?
อ่าน: 3295
ถ้าอยู่เฉยๆแล้วอะไรๆจะดีขึ้นได้ ก็นับว่าแปลกแล้วละ
ถ้าตะบี้ตะบันตะบันทำ ก็ใช่ว่าจะเป็นคำตอบสุดท้าย
ถ้าปรับแก้ย่ำแย่ซ้ำรอยเดิม ตาบอดสี ก็ยากที่จะแยกแยะอะไรออก
สถานการณ์ไทยก็อยู่ประมาณนี้
รู้ทั้งรู้แต่ก็แก้ได้แค่ถูลู่ถูกัง
เป็นอาการเดียวกับเกลือไม่พอใส่ปลา
จะเก็บไว้ก็ไร้ประโยชน์ จะโยนทิ้งก็ทำไม่ได้
ในเมื่อตกอยู่ในจุดเซ็งสุดชีวิต
ไม่ใคร่ได้ใคร่ดีอะไร
ราชการใจดีเลี้ยงไว้ดูเล่น ให้อยู่ได้อย่างมั่นคง
ก็ยังมีพฤติกรรมบกพร่องทำให้เกิดความเสียหายให้ตนเอง
กินเหล้าเล่นไพ่เที่ยวเตร่เฮฮา
แล้วมาถามว่าทำอย่างไรเด็กถึงจะมีคุณธรรมจริยธรรม
อีโธ่อีถังเอ๋ย..
มีความจริงที่พูดไม่ได้ไอไม่ดัง
สมมุติว่าบุคลากรในสถาบันแห่งหนึ่ง
แบ่งคุณภาพออกเป็น 3 เกรด A B C
เกรด A มีความสำนึกดี รู้หน้าที่ มีความรับผิดชอบ 20%
เกรด B เอาไหนเอาด้วยช่วยบ้าง ยังอยากได้อยากดีถ้ามีสิ่งจูงใจ 30%
เกรด C ฉันจะทำยังงี้แหละ เบี้ยวตะบันราด เหลวไหลบ้าๆบอๆ 50%
ลองนึกดูเถิด ผลลัพธ์ ผลงานจะเป็นอย่างไร
ผลกระทบ ผลพวงอะไรจะตามมา
ถ้าเป็นการงานหน้าที่ส่วนตนจะรอดไหม
ถ้าเป็นกิจการบริษัทห้างร้านเอกชนจะรอดไหม
ถ้าเป็นหน่วยงานหรือองค์กรของรัฐจะเป็นยังไง
ข้อแรกข้อสองผ่าตัดได้
แต่ข้อสุดท้าย..จะทำอย่างไร Thailand เอ๋ย..
บ่นมากๆคุณหมอจอมป่วนก็ว่า ..เอาอีกแล้วๆ
ถ้าพิจารณาจดหมายท่านอาจารย์หมอประเวศก็มีเค้านะ
ถึงตอนนั้น..วิชาหลบเป็นปีกรู้หลีกเป็นหางก็ใช้ไม่ได้หรอก
ร้องเพลง..ไอ้หวังตายแน่ได้อย่างเดียว
ถ้าจะหาที่ทางขุดรูอยู่
ท่านไร้กรอบก็บอกว่าโลกจะเย็น น้ำจะท่วม
ทางรอดเท่ารูเข็มอยู่ที่ไหน
ตอน..โยกเยกน้ำท่วมเมฆกระต่ายลอยคอ..
ใบบัวบกปลูกไว้กินแก้ช้ำใน
แต่โรคช้ำใจไม่รู้จะกินใบอะไร อิ อิ..
« « Prev : ถ่ายท้องเรื่องเล็ก ถ่ายภาพเรื่องใหญ่
Next : หน้าม้ามาแล้วครับ .. » »
5 ความคิดเห็น
จำมาจากไหน ขออภัยที่ลืมที่มา
แต่ว่ามีวิธีคิดน่าสนใจค่ะ ท่านว่า มีวิธีคิดบวก
ว่าร้ายกว่านั้นคืออะไร ร้ายที่สุดคิออะไร
ป้าหวานมามองว่า ตัวประกอบ มี 3-4 อย่าง
คน จะเป็นหนึ่ง สอง หรือกี่คนก็แล้วแต่
สถานที่ จะเล็กแค่ในบ้านหรือออกไปถึงโลกก็ตามแต่
เวลา อดีต ปัจจุบัน อนาคต มีเวลาเป็นตัวแปรเสมอ
เอามาทำให้เกิดปัจจัยได้หมด ทำให้คิดต่างได้อีก
เอาทีละเรื่องก็ได้แยะแล้ว ในสถาบันที่พ่อครูว่า
ถ้าเกรดซีมีมากกว่านั้นเล่า…เอาเลวสุดๆเท่าไร…
ถ้าสถาบันนั้นคือ ประเทศเล่า….เลวกว่านั้นมีอีก.ทั่วประเทศไหม..
เป็นแบบนั้นเมื่อไร ยาวนานแค่ไหนเล่า…มีมาแล้ว หรือ จะมีอีกไหม.
ดังนั้นเราก็จะพอมองเห็นว่าตอนนี้ยังไม่เลวร้ายที่สุด
พอหายใจได้ต่อไปไม่ต้องกลั้นใจตาย….
พอคิดได้ก็เริ่มใช้ปัญญาเข้าไปจับ หาทางออกไปที่ละข้อ ทีละมุม
ตัน เต็ม ก็วาง.. ไปพักก่อน มีแรงแล้วมาใหม่ มันเป็นเช่นนั้นเอง
สาธุ….กินอะไรก็ไม่ทีเดียวหายหรอกเจ้าค่ะ…สาธุ
บางคนบอกให้กิน ไบก้อน 555
……. ดูแลผู้อื่นด้วยการดูแลตัวเอง (วิศิษฐ์ วังวิญญู)
……. ไม่แน่จริง อย่าออกมาอาละวาด ( วรภัทร์ ภู่เจริญ)
……. รู้ ก ข ค ก็ช่วยแนะนำ ก ข ค แล้วก็สนใจค้นคว้าเล่าเรียนต่อด้วย (หลวงพี่ติ๊ก)
จากคำสอนของอาจารย์แต่ละท่าน ก็เลยเร่งพัฒนาตัวเองเป็นหลัก แต่ก็ออกอาละวาดบ้างตามสมควร ( รู้ ก สระอู ก็เลยแนะนำแค่ ก สระอู….อุ๊ยจั๋นตา) อิอิ
ไม่แหย่ ก็ไม่ออก
ก็แค่นี้แหละ อิ อิ
การเรียนรู้ไม่จำกัดขอบเขต และกาลเวลา
จริต คนเรานั้นหลากหลาย
นานาจิตตังค่ะ
แม้คำของเด็กอนุบาล ยังเตือนใจด๊อกเตอร์ได้
ถ้าจิตใจตรงกัน