เพื่อนร่วมยุคสมัย
อ่าน: 1728
ระหว่างทางของชีวิตเรา มีสิ่งต่างๆมากมายหมุนเวียนเข้ามาสัมผัสกับตัวตนและจิตใจ ถ้ามองอย่างผู้เรียน สิ่งเหล่านี้เองที่เป็นบทเรียนแห่งชีวิต ปัญหาอยู่ที่ว่าเรารู้ตัวและเข้าใจหรือเปล่าว่าเรากำลังเข้าสู่บทที่ต้องเรียนตลอดเวลา “ถูกก็ได้เรียน ผิดก็ได้เรียน” “เรียนเรื่องดีใจ พอใจ ชอบใจ เรียนเรื่องเสียใจ ไม่สมใจ ผิดหวัง” “เรียนเรื่องทุกข์ เดือนร้อน เอาเป็นเอาตาย ทำไมมันเป็นอย่างนี้วะ”
ทั้งหมดทั้งมวลนี้มันมาเองเกิดขึ้นเอง
..เปล่าหลอกหนาเขามาเอง,,
อย่างที่พุ่มพวงราชินิลูกทุ่งร้องเอาไว้..
เมื่อวานเดินทางกลับบ้าน แวะไปรับรถที่เอามาซ่อมเช็คสภาพไว้ จ่ายค่าเสียหายแล้วก็ชวนกันไปซื้อกับข้าวที่ตลาดสดเมืองบุรีรัมย์ ตั้งใจไปซื้อเห็ด ไข่ไก่ ผัก ปลาสด ได้ปลานิลตัวใหญ่ราคา90บาท ให้เขาจัดการขอดเกล็ดสับเรียบร้อย
มีแผนที่จะทยอยลดการบริโภคเนื้อสัตว์ ตอนนี้มาหยุดอยู่ที่ปลา เนื้อสัตว์อย่างอื่นแทบจะงดได้แล้ว เว้นแต่มีเจ้ามือเลี้ยงเป็นครั้งคราวก็ไม่ว่ากัน สั่งอะไรมาก็จะเจี๊ยะบ้าง จะไม่สร้างเงื่อนไขไอ้นั่นไม่ทานไอ่นี่ก็ไม่ทาน แต่ถ้าทำเองเปิบเองจะทานมังสวิรัติแบบค่อยเป็นค่อยไป ขืนกระโตกกะตากเดี๋ยวพยาธิในกระเพาะจะน้อยใจและเสียโอกาสอร่อย
กลับมาถึงบ้านป่าจวนค่ำ ฝนตกต้อนรับปรอยๆ ช่วยกันต้มยำปลาบุบพริกขี้หนูสดๆโยนลงหม้อร้อนๆ ควันฉุยซดป้องกันหวัดดีนักแล เอาฝักเพกามาอบหั่นบางๆจิ้มน้ำพริกแค่นี้ก็อิ่มแล้ว ดูข่าวทีวีนิดหน่อยก็นอนแต่หัวค่ำ มาสะดุ้งตื่นเอาจวนตี 3 ..ฝันว่ามีคนเอานกอีมูตัวใหญ่มาให้ ในฝัน..นกตัวนี้ชอบเล่นน้ำ เอาละสิ สงสัยกินมากฝันมาก แต่ก็มานั่งนึกได้ว่ามีจดหมายมาปึกหนึ่ง มีซองพัสดุจากอุ้ยมาด้วย เปิดซองแล้วเห็นแผ่นซีดีและหนังสือธรรมะ แต่ง่วงเสียก่อนจึงยังไม่ได้แตะต้อง จนมาฝันนี้แหละนึกขึ้นได้>> นกอีมูตัวใหญ่ที่แท้ก็เป็นพัสดุจากเชียงใหม่นี่เอง
ช่วงย่ำรุ่งตี3 บรรยากาศเงียบสงบมาก มีเสียงแมลงส่งเสียงระงมตามธรรมชาติของโลกกลางคืน ..ลุกนั่งทำสมาธิ จิตไม่สงบง่ายปีนซ้ายป่ายขวาไปตามเรื่อง ก็ตามดูความคิด มันอยากคิดดีนักปล่อยให้คิดเสียให้เข็ด..คิดไปสิ ดูสิมันจะเก่งสักแค่ไหน ..ระหว่างนั่งเงียบๆเบาๆเฝ้าดูความคิดโลดเล่น ประมาณ03.30น.เสียงไก่ละเมอ เริ่มโก่งคอขันที่โน่นที่นี่ มีเสียงอยู่ใกล้-อยู่ไกล ประมาณ 20 นาทีเสียงนาฬิกาไก่ก็เงียบหายไป
กดสวิทซ์ แซ๊ะ! แสงสว่างโร่ ลุกไปหยิบซองพัสดุอุ้ยมาเปิด เจอหนังสือคู่มือดับทุกข์ และบทสวดมนต์ ถวายพรพระ กับหนังสือปฏิบัติธรรมให้ถูกทาง เปิดอ่านเล่มเล็กคู่มือดับทุกข์แล้วโดนใจมาก
ตอนที่ 41
ในตอนเจ็บไข้ได้ป่วย จงอย่าคิดอยากจะหายจากโรคนั้น แต่จงคิดว่า ท่านจะรักษาโรคไปตามเรื่องของมัน บางทีก็หาย บางทีก็ไม่หาย อย่างไรก็ตาม ถึงท่านไม่เป็นโรคนี้ท่านก็ต้องตายอยู่แล้ว ดังนั้น จึงไม่จำเป็นต้องเสียใจหรือหวาดกลัวต่อโรคนั้น
ตอนที่ 80
ความทุกข์จะไม่หมดไป เพราะท่านได้อะไรๆสมใจอยาก แต่การได้อะไรสมใจอยากนั่นแหละที่ทำให้ท่านเป็นทุกข์ ในสักวันหนึ่งคือวันที่สิ่งนั้นหายไปจากท่าน
ตอนที่ 81
แต่ความทุกข์จะหมดไป เพราะท่านมีจิตสงบและฉลาด รู้จัดหยุดรู้จักปล่อยวาง รู้จักสร้างสรรค์และเสียสละ อย่างนี้เรื่อยไป
ตอนที่ 84
สมาธิเปรียบเสมือนลมหายใจที่มีอยู่ตลอดเวลา แต่ท่านลืมดูมันเท่านั้นเอง ถ้ารู้อย่างนี้สมาธิก็จะกลายเป็นสิ่งที่ฝึกได้ไม่ยาก
ตอนที่ 87
ศีล สมาธิ ปัญญา เท่านั้นคือทางออกไปจากความทุกข์ทั้งหลายทั้งปวง ทางอื่นหรือลัทธิความเชื่ออย่างอื่น ไม่สามารถจะทำให้ท่านหลุดพ้นจากความทุกข์ได้
ตอนที่ 88
การอ้อนวอนหรือบนบานสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อให้ได้อะไรๆตามที่ท่านปรารถนานั้น มันก็ขึ้นอยู่กับกฎแห่งความไม่เที่ยงเหมือนกัน บางทีก็ได้ บางทีก็ไม่ได้ และที่ท่านได้อะไรๆมา ก็เพราะมันมีเหตุที่จะทำให้ท่านได้สิ่งนั้นอยู่แล้ว มันจึงได้มา ไม่ใช่มันได้มาเพราะสิ่งอื่นช่วยให้ท่านได้มา ไม่ใช่อย่างนั้นเลย
ตอนที่ 91
ถ้าทำอย่างนี้ ท่านก็มีสิทธิ์ที่จะได้อะไรๆเหมือนเดิม และที่ดีไปกว่านั้นคือ ถึงแม้ท่านจะไม่ได้สิ่งนั้นๆ ท่านก็จะไม่เป็นทุกข์ หรือเมื่อได้มาแล้วมันเกิดสูญเสียไป ท่านก็จะไม่เป็นทุกข์เช่นเดียวกัน ประโยชน์ของการปฏิบัติธรรม เพื่อการรู้เท่าทันสิ่งทั้งปวงนั้นมันดีอย่างนี้ คือมันจะทำให้ท่านไม่เป็นทุกข์ในทุกๆกรณี
ตอนที่ 92
ดังนั้น จงฝึกจิตให้สงบด้วยสมาธิ เพื่อจะเรียกปัญญาคือความฉลาดของจิตใจให้เกิดขึ้นมา เพื่อจะเอาใช้แก้ปัญหา ด้วยการทำจิตให้ปล่อยวางอยู่เสมอ และในที่สุดความหลุดพ้นจากความทุกข์ทั้งปวง ก็จะเกิดขึ้นอย่างถูกต้องได้ไม่ยากนัก
หนังสือเล่นน้อยนี้ไม่ปรากฏว่าใครรวบรวม ใครพิมพ์ ไม่มีคำนำคำแนะอะไรทั้งสิ้น สอนความเรียบง่ายเรียบร้อยตั้งแต่การทำหนังสือแล้ว สุดยอดจริงๆ อ่านไล่ไปทีละข้อๆ จะเห็นตัวทุกข์ล่อนจ้อน อธิบายขบวนธรรมะข้อ “อนิจจตา” “ทุกขตา” “อนัตตา” แบบซื่อๆตรงๆโป๊ะเซะ
ขอขอบคุณน้ำใจจากอุ้ย ที่ทยอยส่งความรักความห่วงใยแฝงไมตรีจิตอย่างล้ำลึกสม่ำเสมอ ปีที่แล้วได้รับหนังสือเรื่องเดอะลาสต์เลกเชอร์ ของ แรนดี เพาซ์ เป็นหนังสือเล่มหนึ่งที่ดีมาก ในจำนวนที่อ่านแล้วประทับใจยิ่งนัก ส่วนซีดีกายบริหารซี่กง4ท่าของกรมสุขภาพจิตยังไม่เปิดดู ตอนนี้สนุกกับการกวาดใบไม้หน้าบ้าน และการขัดห้องสุขอยู่หนไหน..น้าอึ่งเคยพาไปฝึกล้างห้องสุขาในวัดที่เชียงใหม่ไว้บ้างแล้ว แต่ตอนนั้นไม่เข้าใจถึงคุณประโยชน์ของการขัดล้างเท่าวันนี้ว่า ..จิตใจจะสะอาดได้ ห้องน้ำต้องสะอาดด้วย
ญาติโกโหติกาเอ๋ย ความเป็นกัลยามิตรของชาวลานนั้นประเสริฐสุด ผมได้รับข้อคิดข้อปฏิบัติดีๆมากทั้งที่ลับที่แจ้งจากทุกท่าน แต่ตอนนี้ดูแผ่วๆไป ความดี ความหวังดี ความปรารถนาดีเว้นวรรคไปเฉยๆ อย่าปล่อยให้เป็นกาลนานเลยนะโยม..โปรดช่วยกันเติมปัญญาลงในลาน ร่วมกุศลทอดกฐินสามัคคี สร้างไมตรีเอื้ออาทรความรู้ให้แก่กันเถิด ทุกแง่มุมในลานปัญญาล้วนเป็นครูที่ดีของผม
ครูครับ
ผมรอคุณครูทุกท่านอยู่นะครับ
เสียงระฆัง..ตีหลายรอบแล้ว
เมื่อไหร่ครูจะเข้าห้องครับ
ตอนที่ 199
ครูแป๊ด ครูอึ่งอ๊อบ ครูขาหวาน ครูแป๋ว ครูอาลาม ครูตาหวาน ครูปากหวาน ครูหลวงพี่ ครูเหลียง ครูปู ครูลุงเอก ครูไร้กรอบ ครูกอล์ฟ ฯลฯ จะส่งเรียงความหัวใจวันไหนดีละครับ ซองกฐินไม่ต้อง ขอความเรียงเรื่องหัวใจไล้ธรรมะ อิ อิ
Next : ขาใหญ่ » »
6 ความคิดเห็น
มีคนเล่าว่า ท่านผู้แต่งหนังสือคือพระรูปหนึ่งที่จำวัดในวัดเล็กๆของจังหวัดเล็กๆ ไม่มียศตำแหน่ง และไม่ต้องการแสดงตัวว่าเป็นใคร แต่คนก็เล่าว่าท่านได้มรณภาพไปแล้วค่ะ
ชอบ ๆ ๆ ๆ
(ชอบอ่านเรื่องของพ่อ….อ่านแล้วไปปฏิบัติบ้าง…..รู้สึกดีดีดีดี
แต่….ยังไม่เขียนนะ (อิอิอิ))
สาธุ แล้วถ้าอยากได้หนังสือนี้บ้าง ก็เป็นทุกข์ เจ้าค่ะ เกิดความโลภ อยากมี อยากได้ ธรรมะมีมากมาย ก็ยังอยากได้ เมื่อวานเจ้านายของป้าหวานเทศน์ว่า อ่านแล้วให้นำมาใช้ ประเดี๋ยวเดียว..เอาอีกแล้ว…มาอ่านลานสวนป่า เห็นเรื่องหนังสือคู่มือดับทุกข์ ก็อยากได้อีกแล้ว นี่คือ อ่านแล้วไม่นำมาใช้ ใช่ไหมเจ้าคะ สาธุ อย่างไร พ่อครูก็เมตตาถ่ายทอดอยู่เนื่องๆ มารับต่อได้ ขออธิษฐานให้ตัวเองรู้จักจดจำและนำไปใช้ด้วยเถิด สาธุ
ลงมือเขียนได้แล้ว อิอิ
ขอบคุณท่าน Logos มากๆค่ะ