มิใช่บทยั่วยุแต่เป็นบทยั่วใจ อิ อิ ..
อ่าน: 1365(จะหันหน้า-หันข้าง-หันหลัง ให้สังคม ล้วนมีผลลัพธ์เฉพาะทางทั้งนั้นแหละ)
2-3 วันมานี้ ยินคำว่า ถอดบทเรียน หรือ สรุปบทเรียนบ่อยมาก
เข้าใจว่าน่าจะเป็นการทบทวนสิ่งที่รู้ และสิ่งที่ยังไม่รู้
จากต้นทาง กลางทาง และปลายทาง
รูปแบบ กระบวนการ ผ่านการกลั่นกรองจากผู้นำองค์กรนิสิต
ที่น่าประทับใจ..มีรุ่นน้องสนใจงานด้านนี้กระแซะเข้ามาฟังด้วย
ตรงจุดนี้น่าสนใจ ถ้าเราเฉลียวใจ
ควรรีบชวนให้รุ่นน้องได้เข้ามาร่วมวงสนทนา..
เพื่อคลี่คลายข้อสงสัยที่ว่าพี่ๆเขาคุยอะไรกัน
ทั้งที่ๆที่ปล่อยรุ่นน้องให้ไปพักผ่อนแล้ว
- การพบกันครึ่งทาง
- การต่อยอดความคิด
- การสร้างเสริมประสบการณ์
- การจัดตั้งตัวแทนประจำคณะ
- การถักใยเครือข่ายภายในสถาบัน
- การค้นหาสไตล์ของตนเอง
- การแจกความรับผิดชอบ
- การเสริมพลังใจให้เกิดความเอื้ออาทรอย่างยั่งยืน
- การค้นหาโอกาสและสร้างโอกาส
- การอธิบายขยายกิจกรรมให้ผู้บริหารได้พิจารณา
- การสร้างพันธมิตรกับชุมชนและองค์กรภายนอก
- การกำหนดแผนแม่บทขององค์กรนิสิตนักศึกษา
ประเด็นสดๆร้อนๆ ยิ่งทำยิ่งเห็น บานปลายออกไปๆ
การเรียนรู้จากประสบการร์ตรงในสังคมที่กำลังปั่นป่วนและเปลี่ยนแปร
ทำให้นิสิตแกร่งขึ้น รู้โลก รู้เขารู้เรา บางทีจะทำให้เขาใส่ใจเรียนรู้ชีวิตมากขึ้น
วิชาชีวิตต้องเรียนกับประสบการณ์และทักษะชีวิตใช่ไหมพี่น้อง
ในแต่ละสถาบันมีหน่วยงานต่างๆมากมาย
กรุณาพิจารณาจัดตั้งหรือขยายงานด้านองค์กรนิสิตให้มีสถานะ มีศักดิ์ศรี ด้วยเถิด
แล้วจะ..
เห็นทิศทางการเชื่อมโยงวิชาการ เข้ากับวิชาเกิน
เห็นช่องทางที่จะเดินไปสู่โลกกว้าง
เห็นช่องทางที่จะลำเลียงบทบาทชุมชนมหาลัยไปสู่องค์กรและสถาบันอื่นอย่างเป็นรูปธรรม
ถ้าพิจารณาอย่างถ่องแท้
จะเห็นข้อแม้ของชาวมหาวิทยาลัยอยู่ลางๆ
ที่เป็นอุปสรรคต่อการก้าวย่างออกจากรั้วสถาบัน
อาจารย์รุ่นใหม่ๆยังขาดประสบการณ์ด้านการเข้าถึงสภาวะสังคม
การเตรียมตัว เตรียมสรรพสิ่งที่จะออกไปทิ้งทุ่นวิชาการในสนามภายนอก ควรจะมีวิธีบริหารใจไว้บ้าง
การบ้านที่ฝากมีเท่านี้..ชี้โพรงให้กระรอกแล้วนะขอรับ
ลูกศิษย์ อาจารย์บางส่วนแห่กลองยาวเข้าชุมชนไปบ้างแล้ว
แต่ขบวนยังสั้น สีสรรค์ยังไม่จ๊าบเท่าใดนัก
ถ้ามีพลพรรคสมัครใจไปเฉิบๆให้คึกครื้นกว่านี้
จะเป็นการชุบชีวีของมหาวิทยาลัยให้ไฉไลสุดจ๊าบเลยทีเดียวเลยละขอรับ
Key Word : ถ้ามหาวิทยาลัยทอดทิ้งสังคม สังคมก็จะเมินเฉยต่อมหาวิทยาลัย
Next : บัณฑิตมมส.ไม่ธรรมดา » »
3 ความคิดเห็น
อยากให้ นศ นอกจากจะได้ความรู้ที่เรียนมา อยากให้มีคุณธรรมมากๆครับ
……… อาจารย์รุ่นใหม่ๆยังขาดประสบการณ์ด้านการเข้าถึงสภาวะสังคม
การเตรียมตัว เตรียมสรรพสิ่งที่จะออกไปทิ้งทุ่นวิชาการในสนามภายนอก ควรจะมีวิธีบริหารใจไว้บ้าง …..
โดนครับ โดนๆๆๆๆ
ถ้าพิจารณาอย่างถ่องแท้ จะเห็นข้อแม้ของชาวมหาวิทยาลัยอยู่ลางๆ ที่เป็นอุปสรรคต่อการก้าวย่างออกจากรั้วสถาบัน
ข้อแม้จะมีหรือไม่มีมันอยู่ที่ว่าจับมันไว้มั่นเองรึเปล่านะซีค่ะ จะวางซะมันก็ไม่มีที่ไหนวางเลยหรือค่ะพ่อครู ข้อแม้มักจะเกิดเมื่อใจไม่อยาก ใจไม่อยากเพราะรู้สึกกลัวลึกๆ อาจารย์ก็ต้องถามใจให้ออก “กลัวอะไร”