มิใช่บทยั่วยุแต่เป็นบทยั่วใจ อิ อิ ..

โดย sutthinun เมื่อ 16 สิงหาคม 2008 เวลา 5:58 ในหมวดหมู่ สวนป่าฮาเฮ #
อ่าน: 1303

  

         (จะหันหน้า-หันข้าง-หันหลัง ให้สังคม ล้วนมีผลลัพธ์เฉพาะทางทั้งนั้นแหละ)

2-3 วันมานี้ ยินคำว่า ถอดบทเรียน หรือ สรุปบทเรียนบ่อยมาก

เข้าใจว่าน่าจะเป็นการทบทวนสิ่งที่รู้ และสิ่งที่ยังไม่รู้

จากต้นทาง กลางทาง และปลายทาง

รูปแบบ กระบวนการ ผ่านการกลั่นกรองจากผู้นำองค์กรนิสิต

ที่น่าประทับใจ..มีรุ่นน้องสนใจงานด้านนี้กระแซะเข้ามาฟังด้วย

ตรงจุดนี้น่าสนใจ ถ้าเราเฉลียวใจ

ควรรีบชวนให้รุ่นน้องได้เข้ามาร่วมวงสนทนา..

เพื่อคลี่คลายข้อสงสัยที่ว่าพี่ๆเขาคุยอะไรกัน

ทั้งที่ๆที่ปล่อยรุ่นน้องให้ไปพักผ่อนแล้ว

  • การพบกันครึ่งทาง
  • การต่อยอดความคิด
  • การสร้างเสริมประสบการณ์
  • การจัดตั้งตัวแทนประจำคณะ
  • การถักใยเครือข่ายภายในสถาบัน
  • การค้นหาสไตล์ของตนเอง
  • การแจกความรับผิดชอบ
  • การเสริมพลังใจให้เกิดความเอื้ออาทรอย่างยั่งยืน
  • การค้นหาโอกาสและสร้างโอกาส
  • การอธิบายขยายกิจกรรมให้ผู้บริหารได้พิจารณา
  • การสร้างพันธมิตรกับชุมชนและองค์กรภายนอก
  • การกำหนดแผนแม่บทขององค์กรนิสิตนักศึกษา

ประเด็นสดๆร้อนๆ  ยิ่งทำยิ่งเห็น บานปลายออกไปๆ

การเรียนรู้จากประสบการร์ตรงในสังคมที่กำลังปั่นป่วนและเปลี่ยนแปร

ทำให้นิสิตแกร่งขึ้น รู้โลก รู้เขารู้เรา บางทีจะทำให้เขาใส่ใจเรียนรู้ชีวิตมากขึ้น

วิชาชีวิตต้องเรียนกับประสบการณ์และทักษะชีวิตใช่ไหมพี่น้อง

 

ในแต่ละสถาบันมีหน่วยงานต่างๆมากมาย

กรุณาพิจารณาจัดตั้งหรือขยายงานด้านองค์กรนิสิตให้มีสถานะ มีศักดิ์ศรี ด้วยเถิด

แล้วจะ..

เห็นทิศทางการเชื่อมโยงวิชาการ เข้ากับวิชาเกิน

เห็นช่องทางที่จะเดินไปสู่โลกกว้าง

เห็นช่องทางที่จะลำเลียงบทบาทชุมชนมหาลัยไปสู่องค์กรและสถาบันอื่นอย่างเป็นรูปธรรม

 

ถ้าพิจารณาอย่างถ่องแท้

จะเห็นข้อแม้ของชาวมหาวิทยาลัยอยู่ลางๆ

ที่เป็นอุปสรรคต่อการก้าวย่างออกจากรั้วสถาบัน

อาจารย์รุ่นใหม่ๆยังขาดประสบการณ์ด้านการเข้าถึงสภาวะสังคม

การเตรียมตัว เตรียมสรรพสิ่งที่จะออกไปทิ้งทุ่นวิชาการในสนามภายนอก ควรจะมีวิธีบริหารใจไว้บ้าง

การบ้านที่ฝากมีเท่านี้..ชี้โพรงให้กระรอกแล้วนะขอรับ

ลูกศิษย์ อาจารย์บางส่วนแห่กลองยาวเข้าชุมชนไปบ้างแล้ว

แต่ขบวนยังสั้น สีสรรค์ยังไม่จ๊าบเท่าใดนัก

ถ้ามีพลพรรคสมัครใจไปเฉิบๆให้คึกครื้นกว่านี้

จะเป็นการชุบชีวีของมหาวิทยาลัยให้ไฉไลสุดจ๊าบเลยทีเดียวเลยละขอรับ

Key Word : ถ้ามหาวิทยาลัยทอดทิ้งสังคม สังคมก็จะเมินเฉยต่อมหาวิทยาลัย

 

« « Prev : วันลานปัญญา

Next : บัณฑิตมมส.ไม่ธรรมดา » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

3 ความคิดเห็น

  • #1 kajonsaks ให้ความคิดเห็นเมื่อ 16 สิงหาคม 2008 เวลา 8:21

    อยากให้ นศ นอกจากจะได้ความรู้ที่เรียนมา อยากให้มีคุณธรรมมากๆครับ

  • #2 จอมป่วน ให้ความคิดเห็นเมื่อ 16 สิงหาคม 2008 เวลา 15:18

    ………  อาจารย์รุ่นใหม่ๆยังขาดประสบการณ์ด้านการเข้าถึงสภาวะสังคม

    การเตรียมตัว เตรียมสรรพสิ่งที่จะออกไปทิ้งทุ่นวิชาการในสนามภายนอก ควรจะมีวิธีบริหารใจไว้บ้าง …..

    โดนครับ  โดนๆๆๆๆ

     

  • #3 หมอเจ๊ ให้ความคิดเห็นเมื่อ 16 สิงหาคม 2008 เวลา 16:43

    ถ้าพิจารณาอย่างถ่องแท้   จะเห็นข้อแม้ของชาวมหาวิทยาลัยอยู่ลางๆ  ที่เป็นอุปสรรคต่อการก้าวย่างออกจากรั้วสถาบัน

    ข้อแม้จะมีหรือไม่มีมันอยู่ที่ว่าจับมันไว้มั่นเองรึเปล่านะซีค่ะ จะวางซะมันก็ไม่มีที่ไหนวางเลยหรือค่ะพ่อครู  ข้อแม้มักจะเกิดเมื่อใจไม่อยาก ใจไม่อยากเพราะรู้สึกกลัวลึกๆ  อาจารย์ก็ต้องถามใจให้ออก “กลัวอะไร” 


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.49387383460999 sec
Sidebar: 0.483971118927 sec