วงจรใจช้ำ
อ่าน: 1252>> เป็นเรื่องเก่ามาเล่าใหม่ส่วนใหญ่ก็อยู่รอบๆตัวนี่แหละ
ตอนหัวค่ำมีลมกระโชก เอาเม็ดฝนมาโปรยเป๊าะแปะ
จึงนอนรอฟังเงียบๆ แต่แล้วก็เลี้ยวลดไปตกที่ไหนก็ไม่รู้
มีเสียงฟ้าผ่า เปรี๊ยง! มาครั้งหนึ่งแล้วก็เงียบฉี่
แปลกใจมากเลย ปกติฟ้าจะไม่เปรี๊ยงเดียวจบ
อย่างน้อยก็น่าจะคราญครืนครางงึมงำ หรือกระซิกกระซี่บ้าง
ไปแบบไม่ลามาไม่บอกนี่ ..เป็นลางสงหรณ์อะไรไม่รู้นะ
>> ห่วงแต่ว่า..เมืองไทยแต่นี้ไปไม่เหมือนเดิมแล้ว
จะออกหัว-ออกก้อยอย่างไร ก็มีแต่ชีช้ำจนยากที่จะประเมิน
ทำอะไร ช่วยอะไรบ้านเมืองไม่ได้ ทำใจก็แล้วกัน
ดูแล้ว พวกเราส่วนใหญ่ไม่สามารถไปเล่นเกมส์อะไรกับเขาได้
ได้แต่ตำหนิตัวเองที่รักประเทศไทยแบบเซ่อซ่า
เรื่องหน้าที่พลเมือง ประชาธิปไตย หรือการเลือกตั้ง
เพราะเห็นว่ามันเป็นเพียงเศษส่วนหนึ่งของระบบประชาธิปไตย
แต่พวกการเมืองยกเอาเรื่องคะแนนเสียงที่ไปหาซื้อมาได้ตรายางศักดิ์สิทธิ์
เมื่อมีลิขสิทธิ์เถื่อนแล้วทำอะไรก็ได้
คนส่วนใหญ่ก็ไม่ว่าอะไร มึ- จะกินจะทำอะไรก็ทำไป
ต่อๆมาถึงตาแตกตาตื่น ว่าอำนาจบวกกิเลศนั้นมันไม่มีจุดชะงัก
ความต้องการ บวกความหลงมัวเมามีอัตราทวีคุณ
ก็มันได้เงินเป็นหมื่นเป็นแสนล้าน รวยเร็วกว่าอาชีพใดๆเสียอีก
แถมยังมีคนยกยอปอปั้น >> บ้าก็บ้าวะ นะสิ
>> พูดไปก็เท่่านั้น
น้ำหยดลงหิน หินมันยังเปียก
เดินไปหาเก็บไข่ไก่ต๊อกมาต้มกินแก้ช้ำใจดีกว่า
ไม่นึกว่าพี่ต๊อกจะออกไข่เร็วขนาดนี้
สงสัยว่าชุดแรกคงโดนฝน ไม่เอามาต้มก็เน่าทิ้งอยู่ดี
ไข่โดนฝนยังพอมีวิธีแก้ไขก่อนเน่า
แต่การเมืองน้ำเน่าจะเอาไปต้มอะไรได้
>> เสียดาย ตอน ..รอกอดมา เราไม่ยักกะรู้ว่าคุณต๊อกแอบออกไข่
<< ไม่ยังงั้นไปเก็บมาต้มให้กินแก้โรคม๊อบกำเริบ
<< อิ อิ..ไม่ค่อยออก
Next : รักวุ่นๆวันสงกรานต์ » »
2 ความคิดเห็น
อย่าตำหนิตัวเองเลยค่ะ แค่คิดดีต่อประเทศชาติก็นับว่าเป็นกุศลแล้วค่ะ อันที่จริงระบบการศึกษาไทยยิ่งพัฒานาเจริญลงเป็นลำดับ กลับไปส่งเสริมความเจริญทางวัตถุอย่างไร้การตรึกตรองที่แท้จริง แยกการศึกษากับคุณธรรมจริยธรรม ออกมาจากวัด ยัดเยียดความรู้จากฐานตะวันตกที่หลากหลายเปลี่ยน ตามอำเภอใจของผู้ดูแลระบบการศึกษาไทย โคลนิ่งคนที่เป็นตัวแทนมาคุมการศึกษาไทยจนถึงทุกวัน เห็นผลการสร้างกรรมให้ประเทศกันหรือยังละค่ะ หากไม่แก้ปัจจัยที่เหตุ คงยากที่จะแก้ไขปัญหาได้ค่ะ
ขอบคุณครับอาจารย์