อภิหารกล่องดำ
(ขนุนสวนปิ๋ว เนื้อไม่หนาแต่หวานจนบาดคอ)
มื้อเย็นวานนี้ นัดดวลอาหารรสร้านศรีสะเกษเจ้าเก่า ช่วยกันสั่งต้ม ๆ ยำ ๆ แล้วก็ตำบักหุ่ง
กินกับข้าวเหนียว แน่นท้องดีเหลือเกิน แล้วขึ้นมาทำการบ้านต่อ จวนจะ 5 ทุ่มก็ออกไปขึ้นรถที่สถานีนครชัยแอร์ แท็กซี่ชวนคุยเรื่องรถทัวร์ เขาบอกว่าเพื่อนเขาก็มาขับรถให้บริษัทนี้เหมือนกัน ทำให้มีทราบข้อมูลใหม่ ๆ..
เขาเล่าว่ารถทุกคันของบริษัทนี้มีกล่องดำ ผมก็นึกในใจ โอ้โห! ไม่ธรรมดา.. ยังกะเครื่องบินแน๊ะ เจ้ากล่องที่ว่านี้กำกับความคุมการทำงานของพนักงานขับรถ ประกอบกับการบริหารที่เป็นระบบ ทันสมัยสะดวกสบาย เห็นหัวคนมาใช้บริการว่าต้องการได้รับอะไร ความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น ทำให้เป็นที่นิยมอย่างรวดเร็วยิ่งกว่าไฟไหม้ฟาง ใครก็นครชัยแอร์ ๆๆๆ
คนต่างจังหวัดมีความต้องการรถทัวร์ที่ดูแลอย่างนี้มานาน เมื่อ 5 เดือนที่แล้ว จะมีรถทัวร์นครชัยวิ่งผ่านบุรีรัมย์ หล้งจากนั้นก็มีวิ่งออกจากบุรีรัมย์โดยตรง วันละ 2 เที่ยวเช้า-เย็น เมื่อวานโทรไปถาม ทัวร์บอกว่าเดี๋ยวนี้เพิ่มวันละ 8 เที่ยว แสดงว่าเพิ่มทุกเดือน ต่อไปอาจจะมีทุก 1-2 ชั่วโมง ความคล่องตัวฉับไวนี้ ไม่ต้องขับรถมาให้เหนื่อย..ค่าโดยสารก็ถูกไปกลับ 680 บาท มา 10 คน 6,800 บาท พอไหวใช่ไหมครับ หลังจากเรียนจบหลักสูตรโข่งวิทยาแล้ว ผมคงไม่ได้มากรุงเทพบ่อยนัก ใครอยากเจอก็ต้องหาเรื่องไปกันเอง เดินทางเย็นวันศุกร์ กลับเย็นวันอาทิตย์ คิด ๆๆๆ แล้วก็เข้าท่า..ไม่มาไม่เห็น โลกเปลี่ยนแปลงเร็วมาก อีกไม่นานนกยูงจะออกไข่แล้ว เดี๋ยวเจี๊ยบน้อยก็จะออกมาเดินเต๊าะแต๊ะ..
ตอนนี้ช่วงกลางคืนมีวิ่งออกจากกรุงเทพตั้งแต่ 3 - 6 ทุ่ม เที่ยว 6 ทุ่มนี่โดนใจมาก เพราะไม่ต้องรีบร้อนอะไร เอ้อระเหยลอยชายได้ นอนสักตื่นไปก็ยังไหว ดูหน้งสักเรื่องก็ยังทัน ดวลอาหารกันร้านไหนก็หิ้วปีกไปขึ้นรถสบาย ๆ
รถออก 24.10 น. ได้เวลางัวเงียพอดี
ปรับแอนเบาะนอน ห่มผ้า เขาตั้งอุณหภูมิไว้ที่ 23 องศา
เลือกนั่งเก้าอี้ด้านหน้าตรงคนขับที่อยู่ด้านล่าง
กระจกด้านเปรียบเหมือจอขนาดใหญ่ชมวิวกลางคืนได้
อ่านป้ายได้ว่ามาถึงไหนแล้ว
แต่คราวนี้ง่วงมาก เผลอหลับรวดเดียว
รถทั้งคันมีผู้โดยสาร 4 คน แข่งกันกรนสบาย..
05.00 น. รถเทียบสถานีขนส่งบุรีรัมย์
แสดงว่าจะออกเที่ยวไหน เขาจะทำเวลาวิ่งประมาณ 5 ชั่วโมง
แต่คืนนี้ รถวิ่งเร็วใช้เวลา 4 ชั้วโมง 50 นาทีเท่านั้น
มันมีผลทางจิตวิทยาเหมือนกันนะ..
ถ้าจะมาเที่ยวบุรีรัมย์ นั่งรถ 4 ชั่วโมงเศษเท่านั้น..
ที่เล่าเป็นตุเป็นตะ เพื่อจะให้เป็นข้อมูลครูปู กับขจิต ที่จะมา
แต่ส่วนมาก 2 กุมารกุมารีจะเลือกรถทัวร์ยี่ห้อที่ไปลงขนส่งสตึก
ไม่ต้องให้ใครมารับ ไปถึงเวลาไหนก็ให้มอเตอร์ไซรับจ้างบึ่งเข้าไป
หัวฟูหัวแดงก็ช่าง ..หน่วยกล้าได้กล้าเสียเขาจะไม่มีข้อจำกัดอะไร
ส่วนผมคืนนี้ ไม่ถามพนักงานให้ดี เดาเอาว่ารถน่าจะถึง 6 โมงเช้า
ไม่รู้อภินิหารกล่องดำเสียแล้ว
ไปนัดคนคนสวยให้มารับ 6 โมงเช้า
จะโทรไปบอกใหม่ก็เกรงใจ ..กำลังหลับสบาย
ยังมีมีเวลาอีกตั้ง 1 ชั่วโมง
ผมก็งัดเอาโน๊ตบุคส์มานั่งรายงานท่านด้วยความคิดถึงยังไงละ
ขณะนี้เวลา 5.43 น. บันทึกจบ ฟ้าเริ่มแสงแล้ว
จะทำอะไรต่อดีละ..คนรับก็ยังไม่เห็น
เสียดายว่าที่นี่ไม่มีไวเลท ยังโบราณด้าน IT.
ไม่ยังงั้นจะส่งรายงานไปเขย่าท่านถึงเตียง อิอิ
ก่อนเข้าบ้านแวะกินโจ๊ก
มาถึงก็เดินท่ิอม ๆ ไปหลังบ้าน โอ้โฮๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ทำไมมะยมออกลูกระเบิดระเบ้ออย่างนี้
ปิ๋วบอกว่ามันเพิ่งหักลงมา 2 กิ่ง ไม่ยังงั้นมาจะพิลึกพิลั่นกว่านี้อีก
มองไปละมุดก็ออกลูกเต็มต้น
เดินไปบ่อปลา เห็นมะละกอสุกห้อยโตงเตง คนที่นี่กินจนเบื่อ..
หล่นมาก็เป็นอาหารปลา หมู ไก่
เดินไปดูแปลงผัก เจอฝนครั้งเดียวน้ำเต้าทอดยอดยั้วเยี้ย
พริกมะเขือกำลังงาม
แต่มะเขือม่วงลูกหดลงกว่าเดิมมาก ..สงสัยโรคจู๋จะกลับมาระบาด
ออย บอกว่า มะม่วง มะนาว มะขามเทศปีนี้ลูกดกเหมือนกัน
นึกถึงครูปู แวะไปดูผักบุ้งเสียหน่อย
กำลังโผล่ขึ้นมาสักคืบได้
ถ้าวันที่ 7-8-9 เมษายน ครูปูลงมา
ผักบุ้งน่าจะงามรอได้ขนาดลงกะทะไฟแดงพอดี
ถ้าฝีมือไม่อร่อยก็โทษใครไม่ได้แล้ว
เพราะวัตถุดิบดีทุกอย่าง..
จบ..เอ๊ะไม่ได้สิ ฝน ๆๆๆๆ ตก ๆๆๆ เย็นชุ่มฉ่ำครับพี้น้อง
หาผ้าขาวม้าก่อนนะครับ
ไม่อยากเป็นชีเปลือยเล่นฝน อิอิอิ..
« « Prev : นักศึกษากิติมศักดิ์!
Next : หมูยิ้ม » »
5 ความคิดเห็น
ผมไม่เคยเห็นมะยมดกขนาดนี้ ครูขจิตมาเติมยูเรียรึป่าววววว อิอิ
ตื่นเต้นกับมะยมมาก ๆ ค่ะ
ที่บ้านว่าดกแล้ว…ขอยอมแพ้ค่ะ
ลาไปเปรี้ยวปากก่อนดีกว่า…
อิอิ…แวะมาหาพ่อเพราะว่า…อยากกินมะยม อิอิ..คิดถึงนะค่ะพ่อ
คำถามที่ 1 : ร้านโจ๊กอยู่ตรงไหนคะ
คำถามที่ 2 : โจ๊กที่ว่านี่ อร่อยไม๊คะ
คำถามที่ 3 : ทำไมพ่อใช้คำว่า “ถ้าวันที่ 7-8-9 เมษายน ครูปูลงมา” หล่ะ ในเมื่อหนูไปอยู่แล้ว เหอ เหอ
อย่าทักซิ่พ่อ เดี๋ยวงานเข้าอีก วัยรุ่นจะเซ็งเอา
อิอิ
(^__________^)