สงกรานต์ ที่หงสา

3 ความคิดเห็น โดย silt เมื่อ 16 เมษายน 2009 เวลา 10:33 (เช้า) ในหมวดหมู่ ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 1737

๑๖ เมษา “วันปากปี๋” วันนี้คนยวน คนลื้อยัง กิ๋นแก๋งบ่าหนุน (แกงขนุน) กันอยู่ไหม
๑๕ เมษา “วันพญาวัน” เมื่อวานนี้ คนล้านนายังคงถือฮีต “ฮักษาศีลบริสุทธิ์” กันอยู่หรือไม่
ฟื้นอดีตตามประสา “ผู้เฒ่าเล่าความหลัง” เมื่อยามเด็ก ถึงวันที่สิบหกเมษาแม่จะปลุกตั้งแต่ตีสี่
ให้ไปช่วยกันส่องไฟเก็บถั่วฝักยาวที่ค้างริมบ้าน และยอดชะอมข้างรั้ว พอตีห้าก็พากันไปขายที่ตลาดขายดิบขายดีขายได้ราคาแพง
เพราะว่าไม่มีผักมาขายเลย ที่แม่แตงสมัยนั้นพี่น้องจะไม่เก็บผักหักไม้ ไม่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิตในวันพญาวัน
วันปากปี๋ ทุกบ้านจะมีแกงขนุนอยู่ใน “ขันโตก” เพราะ บ่าหนุน - หนุนโชค
เดี๋ยวนี้ลูกหลานยังคงยึดถือฮีตฮอยนี้อยู่ไหมหนอ

ที่เมืองหงสา สปป ลาว วันนี้ ๑๖ เมษา พี่น้องชาวเมืองออกไปทำบุญตักบาตรกันแต่เช้า ท่านว่าเป็นวัน “สังขารขึ้น”
เมื่อวาน ๑๕ เมษา ที่หงสาเป็น  “วันเนา” ชาวเมืองขึ้นไปสรงน้ำพระธาตุ (แต่ผมขึ้นบ่ไหว…สูงโพด…)
วานซืน ๑๔ เมษา ที่นี่เป็นวัน “สังขารล่อง”
สงกรานต์ที่นี่จะช้ากว่าบ้านเราวันหนึ่งครับ
พรุ่งนี้ผมมีนัดไป “ฮับโชค” ครับ ก่อนหยุดยาววันสงกรานต์ สารถีคู่ใจเดินมาหาที่โต๊ะ เอาแบงค์ร้อยบาทมายื่นให้ใบหนึ่ง แล้วเขาก็นั่งลงเอาหัวโผล่มาที่ขอบโต๊ะพร้อมกับพูดว่า “อ้าย น้องขอเชิญไปฮับโชคที่เรือนเด้อ”
“ฮับโชค” คำนี้ผมเคยได้ยินจากพี่น้องในหมู่บ้านหลายหน วันก่อนที่ไปติดตามการบันทึกบัญชีรับ-จ่ายครัวเรือนของกลุ่มพี่น้องบ้านปากห้วยหลวง หลายคนที่มาช้าก็ยกมือไหว้ขอโทษและบอกว่าเพิ่งไป “ฮับโชค” มา
“ฮับโชค” หรือรับโชค เป็นพิธีกรรมที่คล้ายคลึงกับ การรับขัวญ การผูกข้อต่อแขน ของทางบ้านเรา แต่ฮับโชคของที่นี่จะจัดกันในช่วงบุญสงกรานต์เท่านั้น เป็นพิธีกรรมในแต่ละครอบครัว ก่อนถึงวันพิธีเจ้าภาพจะไป “เล่า” คือไปเชิญแขกญาติผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือพร้อมกับมอบเงินให้จำนวนหนึ่งประมาณห้าพันถึงห้าสิบพันกีบ (ยี่สิบถึงสองร้อยบาท) เมื่อถึงวันงานแขกที่ไปร่วมก็จะนำเงินไปคืนในจำนวนที่มากกว่าที่เจ้าภาพฝากไว้ ถือว่าเจ้าภาพได้รับเงินมากขึ้น มีโชค ค้าขายได้กำไร มีการผูกแขนอวยพรเจ้าภาพ แล้วก็ดื่มกิน ม่วนซื่น
งานฮับโชค ถือเป็นฮีตอันดีงามของหงสา ผมถอดรหัสได้ถึง ความซื่อสัตย์ ไว้เนื้อเชื่อใจกันและกัน ของคนในชุมชนครับ
ไม่อย่างนั้นเจ้าภาพคงไม่กล้าเอาเงินไปฝากไว้กับแขกคนละร้อยสองร้อยบาท  
แบบนี้เรียกว่า เมื่อให้ใจกับผู้อื่น ย่อมได้ใจจากผู้อื่นด้วยครับ 


กระบี่กับเฮฯ๘

5 ความคิดเห็น โดย silt เมื่อ 11 เมษายน 2009 เวลา 11:49 (เช้า) ในหมวดหมู่ ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 1904

ผมไปร่วมเฮฯ๘ที่กระบี่แบบสุขภาพไม่เต็มร้อย ทั้งสุขภาพกายที่เจ็บไข้มาแรมเดือน  อีกทั้งสุขภาพใจที่เหนื่อยล้ากับสรรพสิ่งที่ผ่านพบ(ตามประสาคนไม่รู้จักปล่อย ไม่รู้จักวาง) ได้แต่หมายมั่นว่าไปพบปะญาติชาวเฮฯครานี้จะช่วยเยียวยาทั้งกายและใจให้พลิกฟื้น ซึ่งก็บรรลุตามคาดหวัง เหมือนกับจะรู้ใจเจ้าภาพที่ตั้งธงให้เฮฯแปด เป็นเฮฯเพื่อสุขภาพ (ทั้งการเลือกห้องชั้นสี่ให้คนไว้พุง หลอกให้เดินไปกินข้าว ให้ปีนป่ายไปชมถ้ำ เป็นหัวหน้าแก๊งค์เด็กพายเรือ….ดีจังที่เจ้าภาพวุ่นวายกับโปรแกรมสุขภาพกลุ่ม สุขภาพรายบุคคลที่กลัวๆเอาไว้ว่าจะถูกชำแหละเลยรอดตัว)

เฮฮาศาตร์ในมุมมองของผม
ประการแรกคือ เฮฮาศาตร์แฝงไว้ด้วยสาระ หากมองให้ละเอียดแล้วการจัดแต่ละครั้งนอกจากจะเฮฯกันมาพบปะสังสรรกันแล้ว เจ้าภาพยังได้ตั้งธงไว้ด้วยสาระที่เกี่ยวข้องกับความโดดเด่นหรือเอกลักษณ์ของพื้นที่ หรือความถนัดของเจ้าภาพ

  • เฮฯกระบี่ เป็นเฮฯเพื่อสุขภาพ
  • เฮฯภูเก็ต ชูศิลปชิโน-โปรตุกิส
  • เฮฯเจียงฮาย ชวนกันไปดื่มด่ำกับศิลปะและประวัติศาสตร์เมืองเหนือ
  • เฮฯดงหลวง มีดีที่วิถีท้องถิ่น กับวิถีการต่อสู้ของพี่น้อง
  • เฮฯสวนป่า เป็นการตกผลึก และต่อยอดความคิด

เฮฯร่มธรรมจะเป็นแนวธรรมะข้างวัดรึเปล่าหนอ แล้วเฮฯน่านหงสาจะขายอะไรละนี่คิดไว้เบื้องต้นน่าจะเป็นเฮฯย้อนเวลานะครับ จัดให้มีกองบุญสาวๆนุ่งซิ่นไปวัดมีการงันจัดรอบรำวงให้หนุ่มๆน่าจะดี เอาไว้ค่อยๆคิดไป
ประการที่สอง เฮฮาฯเป็นการรวมญาติ ปีหนึ่งๆพี่น้องลูกหลานป้าลุงมาพบมากอดกันสักครั้งสองครั้ง เรามีความผูกพันเหมือนญาติพี่น้องก้าวข้ามช่องว่างของวัยของเพศ อันนี้ถือเป็นความโดดเด่นของชาวเฮฯ  ปีนี้ได้เห็นการพัฒนาของเด็กๆ ทั้งน้องไผ่ น้องฝ้าย น้องนีน่า น้องอ้าย น้องจิ  ก็ชื่นใจแล้วครับ รวมญาติปีนี้มีรดน้ำดำหัวผู้อาวุโสด้วย ลุงเปลี่ยนดีใจที่ได้มีโอกาสมีส่วนร่วมในการสมทบดอกจิกแห้งสำหรับผสมกับน้ำอบ ที่ใช้ในการรดน้ำในวันนั้น เป็นดอกไม้เครื่องหอมที่บรรจงเก็บมาจากยอดดอยในหงสา ผึ่งลมให้แห้งบรรจุถุงผ้าเอาติดตัวลงมาด้วย ดูเหมือนครูสุจะจำได้ว่าตอนเด็กๆเคยเห็นคนเฒ่าคนแก่ใช้ปรุงน้ำอบที่น่าน ส่วนที่หงสาทุกวันนี้พี่น้องใช้ปรุงน้ำเพื่อสรงน้ำพระครับ
ประการที่สาม เฮฮาฯเป็นโอกาสที่ได้พบญาติใหม่ อีกหลายๆท่าน ได้รู้จักโกเหลียง(เจ้าภาพฝ่ายชาย) พี่วอญ่าแห่งเมืองลุง(บล็อคเกอร์ญาติเยอะ) ครอบครัวหนุ่มร้อยเกาะ(ชาวเกาะที่อู้คำเมือง มีแม่ทัพเป็นชาวน่าน ขับรถทะเบียนน่าน มีลูกชายโทนสุดหล่อชื่อน้องโบ) ได้ฟังอาหยงร้องเพลงจีนเพราะจับใจกระชากใจคนที่พยายามฟังเพลงจีนมานานเพราะอยากไปยกน้ำชากับว่าที่คุณพ่อ ได้กอดเจ้าหลานชาย โย่ตัวเป็นๆดีใจที่ตัวเองเป็นต้นคิดให้หลานชายได้มาสัมผัสทะเลหนแรก ได้พบคุณอรอีกครั้งหลังจากพบกันที่ภูเก็ตคราวนี้ก็ไม่ต่างจากคราโน้น คุณอรหอบหิ้วเครื่องเจมาปรุงอาหารให้อีกเช่นเคย
ขอบคุณเจ้าภาพ น้องเขียว คุณพยานาลเจ้าของของฝาก และผู้สนับสนุนทุกท่านไว้ที่บรรทัดนี้ครับ
ความนึกคิดเกี่ยวกับกระบี่  
ผมว่ากระบี่มีต้นทุนทางทรัพยากรการท่องเที่ยวสูงมาก เครื่องโบอิ้งจากสุวรรณภูมิเที่ยวที่ผมบินมา มีผู้โดยสารเต็มลำ และในนั้นเกือบร้อยคนเป็นนักท่องเที่ยวชาวตะวันตก เปรียบเทียบกับเครื่องที่ผมบินเข้าสุวรรณภูมิก่อนที่จะต่อเครื่องมาที่นี่ มีผู้โดยสารเพียง ๑๐คน นี่ทำให้เห็นความแตกต่างชัดเจน ในเมื่อมีต้นทุนทางการท่องเที่ยวสูงอย่างนี้แล้ว แนวทางที่จะเพิ่มและรักษาศักยภาพทางการท่องเที่ยวนั้น ผมเห็นว่าชาวกระบี่ควรที่จะ

  • รักษาแห่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติไว้ไม่ให้เสื่อมโทรม
  • ไม่ปรุงแต่งให้หายจากความเป็นธรรมชาติ
  • ไม่เอาเปรียบนักท่องเที่ยว
  • ย้ำอีกครั้ง ไม่ปรุงแต่งเพื่อการท่องเที่ยว แต่สร้างเสน่ห์ของกระบี่เป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยว

ภาพประกวด
เที่ยวนี้กล้องคู่กายพังครับ ไปเลือกซื้อกล้องขนาดพกพาราคาเศรษฐกิจมาใช้ก็ยังไม่คล่องมือ คัดรูปมาอวดได้แค่สองรูปเอาเป็นประเภทความคิดสร้างสรรค์ก็น่าจะพอได้

 

ภาพแรก ชื่อเมื่อโลกขาดชาวเฮฯ ยกกล้องจับภาพที่อ่าวต้นไทรยามที่พายุฝนจะพัดเข้ามา ชาวเฮฯพากันเข้าหลบฝนกันแล้ว ชายหาดแทบร้างผู้คนเหลือเพียงนักท่องเที่ยวอยู่ลำพังคนเดียว เรือลำหนึ่ง กับท้องฟ้าครื้มเมฆ ทะเลคลั่งลม ดูบรรยากาศแล้วหดหู่อ้างว้างครับ ภาพไม่ได้ตกแต่งใดๆย่อขนาดอย่างเดียว

ภาพที่สอง ชื่อนาวาชาวเฮฯ เป็นภาพเรือที่รับนักท่องเที่ยวกลับเข้าอ่าวพระนาง ลักษณะเช่นเดียวกับเรือลำที่ชาวเฮฯอาศัยไปกลับอ่าวพระนาง-อ่าวต้นไทร แม้ว่าทะเลมีคลื่น แต่นายเรือยังคงกุมหางเสือนำพาเรือไปอย่างมีจุดมุ่งหมาย เปรียบดั่งกลุ่มชาวเฮฯเราไงครับ



Main: 0.037307977676392 sec
Sidebar: 0.014881134033203 sec