เรียนรู้ไปกับธรรมชาติ…ผ่านกระบวนการกรองใจ อิอิ

9 ความคิดเห็น โดย น้องจิ เมื่อ 15 ตุลาคม 2008 เวลา 16:28 ในหมวดหมู่ Uncategorized #
อ่าน: 3109
เรียนรู้ไปกับธรรมชาติ…ผ่านกระบวนการกรองใจ อิอิ

             ตั้งแต่วันที่น้องจิพาน้องๆบางลี่วิทยาไปสอบวิชาเฉพาะ…มีครูโย่งกับพี่นาไปคอยดูแลอย่างใกล้ชิด อิอิ จนพี่นาต้องตามมาสุพรรณด้วยเลยเจ้าค่ะ

             การเรียนรู้โดยไร้ตัวหนังสือ…..ไร้พรหมแดน…ต่างวัฒนธรรม…ต่างท้องถิ่นก็เริ่มเกิดขึ้นอย่างไม่ได้ตั้งใจ…..

            ช่วงออกพรรษานี้ พี่นาบอกว่า ชาวอีสานจะนำต้นข้าวที่ตั้งท้องไปวัดเพื่อเวียนเทียนด้วย…แตกต่างจากแถวบ้านน้องจิตรงที่แถวบ้านน้องจิออกพรรษาไม่มีการเวียนเทียน อิอิ…..

            การกิน…ที่บ้านพี่นาจะใช้ข้าวเหนียวแทนข้าวสุก แต่ชาวภาคกลางใช้ข้าวสุกกัน อิอิ แต่เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่รู้ๆกันอยู่แล้วใช่ไหมค่ะ

            การพูดสำเนียงภาษา…ทั้งน้องจิ น้องโย่และพี่นาต่างได้เรียนรู้ภาษาถิ่นของกันและกัน…พี่นาเว้าลาวใส่เป็นชุด ส่วนน้องจิกับน้องโย่ก็เหน่อใส่…ตอนนี้น้องจิก็พูดอีสานเป็นบางคำ ส่วนพี่นานั้นก็ พูดอีสานเหน่อได้แล้วเจ้าค่ะ

             น้องจิพาพี่นาไปทัวร์ในสวนผัก ไร่มะระ พาลุยไปทั่วทุกทิศและบุกโรงเรียนบางลี่วิทยา เรียนรู้วิถีชีวิตของชาวบางลี่…..ชมบรรยากาศพระอาทิตย์ตกดินที่บ้านน้องจิ….อิอิ…ทุกสิ่งทุกอย่างคือกระบวนการเรียนรู้ที่ไม่มีตัวหนังสือแม้แต่ตัวเดียว มีเพียงจิตใจที่เปิดกว้างยอมรับและเรียนรู้ไปร่วมกัน

                               Ha6

                               Ha4

              พี่นาได้เรียนรู้วิชาเหาะศาสตร์….จากที่พี่นาไม่ค่อยได้ปีนต้นไม้เลย…วันนี้พี่นาก็แสดงให้เห็นว่าพี่นาได้มาเรียนรู้การปีนต้นไม้จากน้องจิกับน้องโย่ได้สำเร็จแล้ว โดยเมื่อเช้าก่อนจะกลับบ้าน พี่นาได้ขึ้นไปบนต้นมะม่วงพร้อมน้องจิและน้องโย่…(อันสุดท้ายนี่สาระไม่ค่อยจะมี) อิอิ

                                Haha

               น้องจิได้เรียนรู้การขับมอเตอร์ไซค์…พี่นาเก็บได้ทุกช๊อตเลย อิอิ ฮาได้อีก พอเห็นรูปตัวเองทีไรก็อดขำไม่ได้ ทำกันได้ลงนะพี่น้อง

                                Ha26

               น้องจิกับน้องโย่ คุณแม่และคุณป้า ดีใจมากๆที่พี่นามาเยี่ยมที่บ้าน….คุณแม่บอกให้น้องจิเรียบร้อยเหมือนพี่นาบ้างซิ…น้องจิก็เลยตอบไปว่า..น้องจิก็เรียบร้อย(เป็นบางเวลา)….อิอิ…..ตอนนี้พี่นาก็เดินทางกลับไปแล้ว ขอให้เดินทางโดยสวัสดิภาพนะเจ้าค่ะพี่สาวที่น่ารัก

               ธรรมชาติกับมนุษย์…มนุษย์กับมนุษย์….มนุษย์กับสังคม…..สังคมกับธรรมชาติ……ทุกสิ่งทุกอย่างเหล่านี้จะอยู่ร่วมกันอย่างลงตัว…ถ้าเปิดใจ ยอมรับซึ่งกันและกัน โดยเฉพาะมนุษย์กับมนุษย์

               เมื่อเช้าน้องจิฟังลุงสุดที่รักของน้องจิออกทีวีรายการมองรัฐสภา…ลุงเอกพูดได้ดีมากๆในเรื่องของปัญหาสังคมไทยสมัยนี้….

              ไม่มีฝ่ายไหนทำถูกต้องสักฝ่ายเดียว…ตอนนี้ทุกฝ่ายที่กระทำลงไปก็เหมือนจะฆ่าตัวเอง ตัดแขน ตัดขาตัวเอง…แล้วเด็กอย่างน้องจิถามหน่อยว่า…จะทำไปเพื่ออะไร..อย่างไรหรือที่เรียกว่า ” รักชาติอย่างแท้จริง “

                จับมือซิพี่น้อง  …กอดกันซิพี่น้อง….เปิดใจซิพี่น้อง…ยอมรับกันได้ไหมพี่น้อง….พี่น้องเอ๊ยลืมตาซักที…ลืมตามาดูธงชาติของเรามีทั้งหมด 3 สีนะพี่น้อง….แดงคือชาติ  ขาวคือศาสนา น้ำเงินคือพระมหากษัตริย์…..สามสิ่งนี้รวมกันเป็นชาติไทยนะพี่น้องทั้งหลาย

                ข้าวปลาอาหารเมืองไทยก็อุดมสมบูรณ์….จะไปกินกันทำไม หิน ดิน ทราย ถนน ….หันมากินข้าวกินปลากันเถอะ

                 อ้าว!!! แล้วๆๆๆ พูดเล่าเรื่องมีคนหน้าตาดีมาเยี่ยมบ้าน เข้าไปเรื่องการเมืองได้จังได๋…สงสัยเข้าถึงอารมณ์มากไปหน่อย เป็นเสียงเด็กพลังเด็ก ถึงจะเป็นเสียงเล็กๆแต่แหลมนะจะบอกให้ 55555++

                 รักและคิดถึงทุกๆท่านนะเจ้าค่ะ เป็นกำลังใจให้เจ้าค่ะ ——> น้องจิ ^_^


คิดถึงเพื่อนรัก…อยากเจออีกจัง…อิอิ

ไม่มีความคิดเห็น โดย น้องจิ เมื่อ 15 ตุลาคม 2008 เวลา 16:25 ในหมวดหมู่ Uncategorized #
อ่าน: 1786

คิดถึงเพื่อนรัก…อยากเจออีกจัง…อิอิ

                สวัสดีเจ้าค่ะ….วันนี้น้องจิไปทำบุญมาด้วยเจ้าค่ะ…เผื่ออะไรๆจะได้ดีขึ้น…ตื่นมาแต่เช้า…พี่นาปลุก..รอบแรกพี่นาสะกิดน้องจิก็ตื่น…แล้วบอกให้พี่นาไปอาบน้ำก่อน..(ความจริงน้องจิอยากนอนต่ออีกหน่อย 555++)…พอพี่นาอาบน้ำเสร็จก็มาปลุกน้องจิอีกรอบเพื่อไปทำบุญกัน

                น้องจิ พี่นา น้องโย่ กับคุณป้าก็ไปทำบุญกันในตอนเช้า…ดวงน้องจิเริ่มมาแล้วเจ้าค่ะ….พี่นากับเจ้าโย่ชวนน้องจิไปซื้อไอติมกินกัน…ไปซื้อคนละแท่ง…ปรากฏว่า น้องจิได้ไม้ฟรี 55++…น้องจิเลยได้กินไอติม 2 แท่งเลยแต่กินไม่หมดให้เจ้าโย่ช่วยกิน ดวงดีอันแรก มาแว้วววววววว…..

                 พอน้องจิมาเปิดคอม…ความจริงเน็ตน้องจิยังใช้ไม่ค่อยได้…วันนี้เปิดอ้าวเน็ตเล่นได้ อ้าวดวงเริ่มดี…พอเปิดงานดู..ป๊าดดดดดดดดดดด เจองานซี 8 ที่มันหายไป 555++ เริ่มดวงดี….วันนี้ดีจริงๆ…พอมาเปิดไฟล์อัลบั้มดูก็ปรากฏว่าเจอภาพเพื่อนรักของน้องจิ…คิดถึงอย่างแรง

                อ้าย  ออย  ฝ้าย  น้องนีน่า น้องไผ่ …..เมื่อไหร่จะได้เจอกันอีกน๊า…อยากให้ถึงเฮฮาศาสตร์ 6 ไวๆจังเลย น้องจิจะได้เจอเพื่อนๆ อิอิ คิดถึงๆๆๆ อ้ายโทรมาหาน้องจิบ่อยอยู่เหมือนกัน แต่ออยน้องจิไม่ค่อยได้คุยเลย ส่วนฝ้ายก็เงียบไปเลย ลุงสิงห์จ๋า น้องจิฝากความคิดถึง ถึงฝ้ายด้วยนะค่ะ…..อิอิ 

 

 

          วันเวลาเนิ่นนานเท่าไหร่….ความผูกพันในหมู่มิตรก็ยิ่งล้นเหลือ….เมื่อไหร่จะได้เจอกันจ๊ะเพื่อนจ๋า…(อันนี้คงต้องขึ้นอยู่กับผู้ใหญ่ซะแล้วววว อิอิ)…แต่เดี๋ยวก็คงจะได้เล่นด้วยกันอีก…..อิอิ

            ทุกท่านเจ้าขา…ตอนนี้บ้านน้องจิมีผลไม้เยอะเลยเจ้าค่ะ….เอามาให้ดูเรียกน้ำย่อยกันไปก่อน อิอิ

                                  

 

                  อิอิ…น้องจิกำลังสนุกกับการตกแต่งบันทึกเจ้าค่ะ อย่าพึ่งตาลายกันนะเจ้าค่ะ …อิอิ รักและคิดถึงทุกๆท่านเจ้าค่ะ รักษาสุขภาพด้วยนะเจ้าค่ะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ—–>น้องจิ


เรียนรู้จากคนรอบข้าง..ด้วยมิตรภาพที่ซึ้งใจ

ไม่มีความคิดเห็น โดย น้องจิ เมื่อ 15 ตุลาคม 2008 เวลา 16:24 ในหมวดหมู่ Uncategorized #
อ่าน: 2043

เรียนรู้จากคนรอบข้าง..ด้วยมิตรภาพที่ซึ้งใจ

                 รากฐานของตึกคืออิฐ  รากฐานของชีวิตคือการศึกษา…อนาคตของเด็กไทยทุกวันนี้ทุกท่านอาจจะคิดว่าเป็นเพราะว่า…เด็กจะต้องเรียนหนังสือมีการศึกษา…แต่สำหรับน้องจิเอง…อนาคตของน้องจิไม่ได้อยู่ที่การศึกษาเพียงอย่างเดียว…แต่น้องจิจะต้องลงมือปฏิบัติจริงได้ด้วย….

                 สมมติว่าเราขับรถไปแรงเร็ว…เกิดเหตุกระทันหันที่จะต้องเบรคเพื่อไม่ให้รถไปชนกับคันข้างหน้า…เราคำนวณได้ว่าจะต้องเหยียบเบรคด้วยความเร็ว 10 m/s แต่เราไม่รู้ว่าเบรคมันเหยียบตรงไหน….ก็คงช่วยอะไรไม่ได้……

                  การเรียนรู้ของเรา..เราก็ต้องเรียนรู้ให้เป็นธรรมชาติ…เป็นตัวของเราเอง…จำเป็นไหมที่จะต้องเปิดหนังสืออยู่ตลอดเวลา…คำตอบของหนูคือ ไม่จำเป็นค่ะ…เพียงแค่เปิดใจ เราก็สามารถเรียนรู้ได้แล้ว…ถ้าเราเปิดใจที่จะเรียนรู้ เพียงก้าวออกจากประตูบ้านก็มีหลายสิ่งหลายอย่างที่ให้เราเรียนรู้มากมาย

                 นอกจากเราจะเรียนรู้ในสิ่งที่เป็นวิชาความรู้เพื่อการพัฒนาตนเองแล้ว…เราจะต้องเรียนรู้วิชาดุ๊กดิ๊กศาสตร์ด้วยเจ้าค่ะ….ดุ๊กดิ๊กศาสตร์คืออะไร..ดุ๊กดิ๊กศาสตร์ก็คือวิชาที่สร้างกำลังให้หัวใจของเราไงเจ้าค่ะ…อิอิ

                  เมื่อวานนี้มีรุ่นน้องจากโรงเรียนบางลี่วิทยา…มาให้น้องจิช่วยพาไปสอบวิชาเฉพาะที่โรงเรียนฤทธิยะวรรณาลัย…ถามว่าน้องจิเคยไปไหน ก็ตอบได้อย่างมั่นใจว่า เคยแน่นอนเพราะน้องจิก็ไปสอบที่โรงเรียนนี้เหมือนกัน..แต่ถ้าถามว่าจำทางได้ไหม..ก็ตอบอย่างมั่นใจเลยว่า หลับตลอดทางไม่ได้มองทางอะไรเลย 555++…แต่จะให้น้องจิไปเป็นเพื่อนอ่ะไปได้แน่นอน จะพยายามศึกษาเส้นทางให้ เพื่อเป็นกำลังใจให้น้องๆที่น่ารักในการสอบ

                    มีพ่อของน้องคนหนึ่งขับรถไป….น้องจิแทบนั่งไม่ติดรถเลยเจ้าค่ะ เหยียบทีหนึ่ง 130 km/h…หายใจไม่ทั่วปอดเลยค่ะ ต้องเกร็งอยู่ตลอด..แผนตอนแรกที่น้องจิจะบอกก็คือให้เลี้ยวทางช่องนพวงศ์เพื่อเข้าปทุมธานี…แต่พ่อน้องเขาขับไวจนน้องจิบอกทางไม่ทันเลยไปเลย…ที่นี้ก็ต้องหาทางกันใหม่ซิเจ้าค่ะ แล้วไม่มีใครรู้ทางด้วย..นั่นๆๆ งานเข้าแล้ว..น้องจิก็บอกทางไปตุ้มๆต่อมๆ..จนไปถึงสนามบินดอนเมือง เลี้ยวเข้าไปในสนามบินเลยเจ้าค่ะ ป๊าดดดดดดดดดดดดด…เจอทหารขวักมือเรียก ถือปีนยาวเหยียดเลย ถามว่า จะไปไหนน้องจิก็เลยบอกว่า จะไปสอบวิชาเฉพาะค่ะ เขาก็ถามว่า ที่ไหน น้องจิก็บอกโรงเรียนฤทธิยะวรรณาลัย..เขาเห็นน้องจิกับน้องๆใส่ชุดนักเรียนไปก็เลยให้ผ่านได้…และแล้วก็เจอโรงเรียนฤทธิยะวรรณาลัยจนได้…งานนี้พาน้องๆไปถึงยังจุดหมายสำเร็จ ….น้องๆก็ให้น้องจิติวให้นิดหนึ่ง แล้วน้องจิก็พาน้องๆไปกินข้าว

                               

                               

                     และแล้ว ” วิชาหัวใจศาสตร์ ” ก็เกิดขึ้นเจ้าค่ะ….น้องจิโทรหาครูโย่ง…ครูโย่งก็มาหา…สักพักพี่นาก็ตามมา….ถามว่า ครูโย่ง กับ พี่นา มาทำไม…คำตอบง่ายๆก็คือมาเพราะ วิชาหัวใจศาสตร์นี่แหละเจ้าค่ะ….มิตรภาพที่หาไม่ได้อีกแล้ว….น้องจิยังเชื่อกับคำที่กล่าวว่า ” ก่อนที่เราจะได้ความรักจากคนอื่น เราจะต้องมอบความรักให้คนอื่นก่อน “….

                                

                               

                     ถามว่า ..ทำไมญาติๆใน gotoknow ถึงรักกัน…แถมบ้าหรือเปล่า เจอกันต้องกอด…คำตอบก็คือ…” ถึงเค้าจะบ้า ก็บ้าเพราะรักนะจ๊ะ “…..พวกเรามีความผูกพันกันเหมือนว่า ” ชาติที่แล้วสร้างเวรสร้างกรรม ” เอ๊ย ” ทำบุญมาด้วยกัน ” ชาตินี้ก็เลยได้เกิดมาพบเจอกันอีกครั้ง สวรรค์บันดาลเจ้าค่ะ….

                                 

                                 

                                 

                                 

                                      พาลิงทัวร์……จนแทบจะหมดแรง ….อิอิ

                     ครูโย่งงานเข้าอยู่เป็นเพื่อนน้องจิได้แปปหนึ่ง…พี่นาอาสารับเลี้ยงเด็กคนนี้ต่อไป..น้องจิไม่ค่อยได้เข้ากรุงเทพฯมากนัก..พี่นาเลยพาน้องจิไปเที่ยวตามสถานที่ต่างๆที่พอจะไปได้ภายในวันเดียว….พี่นาพาน้องจิไปเที่ยวสวนจตุจัก บรรยากาศดีมากเจ้าค่ะ ได้พายเรือเล่นด้วย แต่ว่าเจ้าเรือน้อยเนี่ย พายเท่าไหร่ ก็วนอยู่ที่เดิม แถมอยู่กลางคลองอีกต่างหาก คนข้างคลองช่วยลุ้นใหญ่เลยว่าจะพายเข้าฝั่งได้หรือเปล่า ในที่สุดก็ถึงฝั่ง 55555++…แล้วพี่นาก็พานั่งรถไฟใต้ดินด้วยค่ะ น้องจิไม่เคยนั่งเลย ครั้งนี้ครั้งแรก ตื่นเต้นๆๆ อิอิ

                                   

                                   

                                   

                                   

                      พอเที่ยวสวนจตุจักรให้อาหารนก  อาหารปลาเสร็จแล้ว พี่นาก็พาน้องจิไปมหาวิทยาลัยรัตนบัณฑิต…หรือที่เรียกกันว่า RBAC นั่นแหละเจ้าค่ะ….ได้ถ่ายภาพเป็นที่ระทึก เอ๊ย ระลึกด้วยเจ้าค่ะ แล้วพวกเราก็ไปร้องเพลงกัน…..ร้องเพลงจบประมาณ 4 โมงกว่าๆ ป๊าดดดดดดดด ต้องรีบกลับบ้านเดี๋ยวรถหมด…

                       ขากลับนี่ไม่เหมือนขาไป…ขาไปชุดนักศึกษาเรียบร้อย ขากลับพี่นาให้เปลี่ยนชุดเป็นชุดธรรมดา 5555+++….พี่นาไม่ปล่อยให้น้องจิกลับคนเดียวค่ะ พี่นาเก็บเสื้อผ้ามากับน้องจิด้วย อิอิ วันนี้น้องจิเลยเป็นไกท์พาพี่นาทัวร์สุพรรณบ้าง อิอิ

                       สายใยที่ผูกพันกันเป็นสายโซ่ในโกทูโนว์นี้…ยากที่จะหาได้อีกแล้วเจ้าค่ะ….ตอนนี้ภูมิอากาศแปรปรวนขอให้ทุกท่านรักษาสุขภาพด้วยนะเจ้าค่ะ…รักและเป็นห่วงทุกๆท่านเจ้าค่ะ…..

                        ใครเป็นคนสอน ” วิชาหัวใจศาสตร์ “……มันขึ้นอยู่ความหัวใจของแต่ละคนเจ้าค่ะ พี่น้อง อิอิ

                       เป็นกำลังใจให้เจ้าค่ะ……——> น้องจิ ^_^


เด็กคนนี้มีดนตรีในหัวใจ….อิอิ

ไม่มีความคิดเห็น โดย น้องจิ เมื่อ 15 ตุลาคม 2008 เวลา 16:22 ในหมวดหมู่ Uncategorized #
อ่าน: 2198
เด็กคนนี้มีดนตรีในหัวใจ….อิอิ

                คุณหมอก็ต้องมีเข็มฉีดยาเป็นอาวุธ……คุณครูก็ต้องมีไม้เรียวเป็นอาวุธ…..พันธมิตรก็ต้องมีมือตบเป็นอาวุธ…..รัฐบาลก็ต้องมีคุณธรรมเป็นอาวุธ……..นักเรียนก็ต้องมีปากกาเป็นอาวุธ…..น้องจิเองก็มีขลุ่ยเป็นอาวุธเช่นกันเจ้าค่ะ

                เวลาน้องจิไปไหนมาไหนน้องจิจะต้องพกอาวุธไปด้วยตลอด ไม่ใช่มีด ไม่ใช่ไม้ แต่เป็นขลุ่ยคู่ใจที่ครูพินิจ เมฆฉา ครูที่สอนดนตรีไทยน้องจิตั้งแต่ม.1  เป็นผู้ให้น้องจิมา…..

                ตอนนี้หนังทางช่อง7 มีหนังชื่อว่า ” ธิดาวานร “…….แม่ก็บอกว่า เหมือนน้องจิเลย….เพื่อนก็บอกว่าเหมือนน้องจิเลย….ไม่เหมือนสักหน่อย น้องจิไม่ใช่ลิงนะ ออกจะเรียบร้อย….เหมือนผ้า(ยับ)ที่พับไว้ หลักฐานก็มีนี่ไง

                              

 

                        บอกแล้วว่าไม่ใช่ลิงก็ไม่เชื่อ……..น้องจิรักธรรมชาติมากๆ….ถ้าให้น้องจิเลือกระหว่างไปเดินตากแอร์เย็นๆในป่าคอนกรีต กับ เดินตากแดดอ่อนๆในป่าที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยต้นไม้นานาพรรณ น้องจิเลือกไปเดินป่ามากกว่า เพราะว่ามีต้นไม้ให้ปีนเยอะแยะเลย

                         น้องจิยังจำได้ดี…ที่น้องจิไปเฮฮาศาสตร์ครั้งที่ ๕ ที่สวนป่า…น้องจิได้เรียนรู้สิ่งต่างๆมากมาย….โดยเฉพาะด้านเสียงดนตรี ซึ่งเป็นสิ่งที่น้องจิชอบอยู่แล้ว……น้องจินำขลุ่ยไปด้วย แต่ไม่ได้นึกว่าจะเอาไปเป่าอย่างเป็นทางการ กะว่าเป่าเล่นๆสนุกๆ…..แต่การที่น้องจิติดขลุ่ย ขาดขลุ่ยไม่ได้นั้น ทำให้น้องจิได้เรียนรู้สิ่งที่น้องจิไม่เคยคิดว่าน้องจิจะทำได้มาก่อน

 

                               

                          ลุงประสาทนำกีต้าร์มา….ลุงบางทรายมอบฉายาให้ลุงประสาทว่า กีต้าร์เทพ…และมอบฉายาให้น้องจิว่า ขลุ่ยนางฟ้า….ลุงประสาทสอนให้น้องจิเล่นขลุ่ยแบบไม่ยึดติดกับตัวโน้ต…เป่าตามจินตนาการของเราเหมือนเราอยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่เราชอบ….เสียงขลุ่ยออกมาเป็นอย่างไรไม่รู้ต้องถาม ลุง ป้า น้า อา ที่ไปฟังน้องจิที่สวนป่าในวันนั้น

 

                          ผลที่น้องจิเป่าขลุ่ยอย่างไร้ตัวโน้ตในวันนั้น…ทำให้น้องจิเรียนดนตรีอย่างลึกซึ้งมากยิ่งขึ้นในวันนี้…..เมื่อน้องจิเรียนเอกสังคีตศิลป์ไทย คณะอักษรศาสตร์…..การคิดค้นบทเพลงใหม่ๆ การแต่งพลงนั้นเป็นคุณสมบัติที่นักเรียนทุกคนต้องทำได้…และน้องจิก็ได้เรียนรู้มัน…

 

 

                          น้องจิอยู่กับเสียงดนตรี ไม่ว่าจะสุข หรือ ทุกข์…ทุกท่านเป็นเหมือนน้องจิหรือเปล่าค่ะ…เวลามีความสุขเราก็ร้องเพลง…..เวลามีความทุกข์ เราก็ใช้เสียงเพลงบรรเทารักษาจิตใจของเรา…..เสียงเพลงนั้นมันเกิดมาพร้อมๆกับตัวเรานี่แหละค่ะ มันเกิดมาตั้งแต่หมอตบก้นเราให้ร้องแล้วล่ะค่ะ….

 

 

                           น้องจิเองถ้าขาดเจ้าขลุ่ยเพื่อนยากของน้องจิไปน้องจิคงจะแย่….ตอนอยู่หอคงมีเพียงเสียงขลุ่ยที่คุยกับน้องจิได้ตลอดเวลา……ดังนั้น ดนตรีคือเพื่อนแท้ของน้องจิเลยค่ะ

 

 

                            น้องจิเคยเป่าขลุ่ยให้หมาฟังด้วยนะค่ะ …..หมาหลับเลยแหละค่ะ  …..นี่ไงหลักฐาน อิอิ…น้องหมานอนหลับเฉยเลย คงจะชอบฟังเสียงขลุ่ยน้องจิแน่ๆเลย อิอิ…เอ๊ะๆๆ ดูไปดูมา น้องหมาหลับหรือแกล้งตายน้องจิจะได้หยุดเป่า อิอิ 5555++

 

                              

                       

 

                 เสียงขลุ่ยครวญหวนมากับลม….พี่สะอื้นฝืนระทมกล้ำกลืนขืนข่มใจเหงา…ขลุ่ยครางครวญพี่หวนคะนึงถึงเจ้า…ฟังเสียงหริ่งหริ่งเร้า พี่ยิ่งเศร้าไม่วาย…..อิอิ

 

                 ดนตรีนั้นคือชีวิต..จังหวะคอยลิขิตให้ชีวิตก้าวไป…แสงสีที่สวยสดใสนั้นเป็นจิตใจที่สดใสเสรี…..

 

                 เครื่องดนตรีแต่ละชนิดที่น้องจิเล่นนั้นล้วนแล้วแต่มีความแตกต่างให้อารมณ์ที่แตกต่างกันออกไปเจ้าค่ะ ไม่ว่าจะเป็น

 

 

                                 Img0867a  

 

                                     ซอสามสายช่วยทำให้เราเรียบร้อยขึ้น 55555++

 

                                  Img0865a

 

                                         ขิมก็ทำให้น้องจิหวานขึ้นอีกหน่อย…(หรือเปล่า)

 

                            Img0915a

 

                                        ซออู้ก็สื่ออารมณ์เย็นๆๆๆๆ……..นิ่มๆๆๆ…เพราะว่า อู้ๆค่ะ

 

                             483551861f1e0

                

                          จะเข้เวลาดีดจะออกแนวแมนๆนิดหนึ่ง อิอิ..เพราะต้องใช้พลังนิ้วมากๆค่ะ

 

                                      483557167f87c

 

                                       ซอด้วงก็แหลมได้ใจ…สีมากๆแก้วอาจแตกได้ อิอิ

 

                           เครื่องดนตรีแต่ละชนิดล้วนแล้วทำให้เรามีอารมณ์ที่แตกต่างกันออกไป…..ถ้าทุกคนติดใจในเสียงดนตรีโดยเฉพาะดนตรีไทยแล้วนั้น…จะรู้ว่าเสียงดนตรีไทยมีเสน่ห์ที่ควรจดจำเลยล่ะค่ะ…อิอิ

 

                           บันทึกนี้ก็เลยว่าด้วยดนตรีล้วนๆ……..ดังคำที่ว่า ” ชนใดไม่มีดนตรีกาล  ในสันดานเป็นคนชอบกลนัก “  จริงไหมค่ะ

 

                           รักและคิดถึงทุกๆท่านนะเจ้าค่ะ เป็นกำลังใจให้เจ้าค่ะ—–>น้องจิ ^_^

 

 


น้องเอ๊ย..หลงทางอย่าโทษกันนะ อิอิ

ไม่มีความคิดเห็น โดย น้องจิ เมื่อ 15 ตุลาคม 2008 เวลา 16:21 ในหมวดหมู่ Uncategorized #
อ่าน: 1789

น้องเอ๊ย…หลงทางอย่าโทษกันนะ อิอิ

                          ฉันโทรมาเพื่อจะบอกว่ารัก…ถึงเวลาที่ต้องบอกสักที…..(ไม่ใช่น้องจิจะไปบอกรักใครหรอกเจ้าค่ะ)…ก็เจ้าน้องในโรงเรียนบางลี่วิทยานะซิเจ้าค่ะ…โทรเข้ามาหาน้องจิ….เสียงท่าทางกังวลใจ…น้องจิก็เลยถามไปถามมา…ก็จับคำพูดได้ว่า

                         พี่จิ…วันที่ 12 พี่จิว่างเปล่า…พาหนูไปสอบวิชาเฉพาะที่โรงเรียนฤทธิยะวรรณาลัยหน่อยได้เปล่า…..หนูไปไม่ถูก….

                          น้องจิก็เลยตอบด้วยความมั่นใจว่า ….พี่อ่ะว่างวันที่ 12 ไปเป็นเพื่อนได้….แต่เรื่องทางนี้คิดหนักเลยน้องเอ๊ย…..เดี๋ยวพี่จะลองศึกษาเส้นทางให้แล้วกัน….

                         อันที่จริงตอนน้องจิสอบวิชาเฉพาะน้องจิก็สอบที่โรงเรียนฤทธิยะวรรณาลัยเหมือนกันเจ้าค่ะ…แต่ตอนนั้น คุณพ่อน้องจิพาไปสอบ…น้องจิก็นั่งหลับไปตลอดทางเลย รถจอดอีกทีก็ถึงโรงเรียนฤทธิยะวรรณาลัยแล้ว ไม่ได้มองทางเลย…..ดูได้จาก ที่นี่  เจ้าค่ะ……อิอิ

                                 Sa400049

                                        แก๊งน้องจิ ตอนม.6 อิอิ

                            สงสารน้องก็สงสาร …จะพาไปก็ยังไง ยังไงอยู่…ตัวเองก็ยังเอาตัวไม่รอด จะพาน้องๆไปรอดหรือเปล่าก็ไม่รู้…..ปรึกษากับคุณแม่…คุณแม่บอกว่า ก็ไปให้ถึงสะพานใหม่ก็คือถึงแน่ๆ….ดังนั้น พรุ่งนี้ น้องจิกับน้องๆจะออกเดินทางตั้งแต่ ตี 5..เพื่อเดินทางไปโรงเรียนฤทธิยะวรรณาลัย…เชื่อได้ว่า บุคคลที่จะพาไปได้ก็น่าจะเป็นครูโย่ง 5555++

                               

                                      เดี๋ยวพาน้องๆ ขี่ควายไปก็ได้ อิอิ

                            แต่ก่อนจะไปถึงจุดที่ครูโย่งจะพาไปนี่สิค่ะ น้องจิจะไปตรงไหน น้องจิคิดว่า น้องจิจะต้องไปทาง ลาดบัวหลวง…แล้วไปที่นพวงศ์…เลี้ยวไปทางปทุมธานี..ไปรังสิต…เลี้ยวไปสี่มุมเมือง….แล้วตรงไปที่ท่าอากาศยานอะไรสักอย่าง…จำได้ว่าโรงเรียนฤทธิยะวรรณาลัยต้องไปเลี้ยวตรงสะพานลอยอ่ะเจ้าค่ะ 5555++…

                           ท่านใดรู้เส้นทาง ช่วยบอกน้องจิหน่อยนะค่ะ พรุ่งนี้น้องจิต้องพาน้องๆไปเจ้าค่ะ ซึ่งน้องจิก็ไม่เคยเหมือนกัน …ให้เด็กที่ไม่เคยจำทาง พาเด็กที่มีภารกิจสำคัญของชีวิตการศึกษาไปซะด้วย เดี๋ยวก็เป็นเรื่อง….

                            น้องๆเขาจะต้องสอบวิชาเฉพาะกันประมาณ 8 โมงครึ่งค่ะ แต่อยากให้น้องๆถึงเร็วๆหน่อย เพื่อที่จะปรับสภาพ เปลี่ยนสี อิอิ กับบรรยากาศ สถานที่ชอบ สักหน่อย ……

                            พรุ่งนี้ต้องสนุกแน่ๆเลย ไม่รู้น้องจิจะพาหลงทางหรือเปล่า อ้าว!! สู้ๆๆ…..ขอบใจน้องๆที่ไว้วางใจพี่ให้พี่นำทาง…อยากจะบอกว่า ” ไม่รู้อะไรซะแล้ว ถามใครไม่ถาม มาถามพี่ “….อิอิ



Main: 0.044780969619751 sec
Sidebar: 0.019896984100342 sec