เทควันโด – ความประทับใจ
อ่าน: 19205
วันที่ 6 สิงหาคม 2551 ท่านนายกเทศมนตรีนครพิษณุโลกได้มอบหมายให้ไปเป็นประธานงานเสริมสร้างสายใยรัก ครอบครัวอบอุ่น ครอบครัวแข็งแรง แต่ที่จะเล่าให้ฟังเป็นเรื่องความประทับใจการแสดงของเด็กจากโรงเรียนอนุบาล เทศบาลนครพิษณุโลก เป็นการแสดงการฝึกเทควันโด
ไม่ค่อยอยากจะเขียนเรื่องความประทับใจเลย อิอิ เขียนแล้วมีเรื่องทุกที 55555 แต่มันประทับใจจริงๆ เป็นเหตุผลส่วนตัวน่ะครับ แต่ก็อยากเอามาเล่าให้ฟัง
ตอนเป็นวัยรุ่นเรียนหนังสืออยู่ อยากเล่นยูโดมาก เป็นเด็กต่างจังหวัดด้วย เพื่อนก็พาระเหเร่ร่อนไปฝึกตามที่ต่างๆ ทั้งสำเพ็งบ้าง ที่สมาคมยูโด ใต้ถุนสนามศุภชลาศัยบ้าง เพราะที่โรงเรียนไม่มีให้เรียน
ตอนเรียนมหาวิทยาลัยก็ค่อยยังชัวหน่อย เป็นประธานชมรมต่อสู้ป้องกันตัวของคณะแพทยศาสตร์ศิริราช มีจริงๆนะครับ ไม่รู้ตอนนี้ยังมีอยู่รึเปล่า กิจกรรมที่รับผิดชอบก็มีทั้งมวยสากล มวยไทย กระบี่กระบอง ฟันดาบ ยูโด ไอคิโด คาราเต้ เทควันโด ยิงปืน และเป็นนักกีฬายูโดและประธานชมรมยูโดของมหาวิทยาลัยด้วย เลยเล่นหมดซะทุกอย่างเลย อิอิ
พอมาเห็นเด็กๆ ได้มีโอกาสฝึกเทควันโดตั้งแต่ชั้นอนุบาลก็เลยเกิดความประทับใจ ว่าเด็กๆสมัยนี้ มีโอกาสมากกว่าแต่ก่อน ไม่ใช่เฉพาะแต่ด้านนี้ แต่ทุกๆด้านเลย อาจจะยกเว้นด้านจริยธรรมรึเปล่า ?
บางคนอาจถามว่า ทำไมต้องเทควันโด ทำไมไม่สนับสนุน รำไทย มวยไทย ก็คิดในใจนะว่า อะไรก็ได้ ไทยก็ยิ่งดี แต่ขอให้ทำจริงๆเหอะ ให้โอกาสเด็กได้มีทางเลือก ได้ทำในสิ่งที่เด็กชอบ ไม่ใช่ไอ้นั่นก็ไม่ดี ไอ้นี่ก็ไม่ดี สรุป ไม่ทำอะไรสักอย่าง เอาแต่บ่น เอาแต่ติ อิอิ
การให้เด็กได้ฝึกเทควันโดตั้งแต่อนุบาล ไปนั่งสังเกตตั้งแต่เด็กเตรียมตัวแสดง ช่วงอบอุ่นร่างกาย นั่งสมาธิ ซ้อมกันอีกครั้งก่อนขึ้นไปแสดงจริง คุณครูที่ฝึกสอนเข้าใจทั้งเรื่องของเทควันโดเพราะเป็นนักเทควันโดสายดำ เข้าใจจิตวิทยาในการสอนเด็ก รักและเข้าใจเด็ก ที่สำคัญคือเข้าใจว่าให้เด็กฝึกเทควันโดไปทำไม ในวัยขนาดเด็กอนุบาลนี่ควรจะฝึกอะไร มากน้อยแค่ไหน
คุยกับคุณครูได้ความว่า ในเด็กระดับนี้ ต้องการแค่เตรียมความพร้อมของเด็กในการที่จะพัฒนาต่อไปตามวัยของเด็ก เด็กช่วงวัยอนุบาลก็คงได้แค่ทักษะการเคลื่อนไหวร่างกาย การฝึกให้เด็กมีสมาธิ รู้จักระเบียบ วินัย ถ้าอายุมากขึ้นก็จะสอดแทรกเรื่องราวต่างๆ รวมทั้งจริยธรรมเข้าไปด้วยทีละน้อยๆ
เด็กที่เป็นนักกีฬา ถ้าได้รับการฝึกที่ถูกวิธี ก็จะเป็นเด็กที่มีความคล่องตัวในการเคลื่อนไหวร่างกาย มีท่าทาง ท่วงทีที่น่าดู ภาษาอังกฤษ ใช้คำว่า smart อีกทั้งมีจิตใจที่รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย
แต่สำหรับกีฬาที่จัดเป็นการต่อสู้ป้องกันตัว ( Martial Art ) จะมีอะไรๆที่เหนือกว่ากีฬาประเภทอื่นๆ เพราะจะมีการสอนด้านจิตใจที่ลึกซึ้งกว่ามาก เรื่องของสมาธิ ความสงบของจิตใจ ความมุ่งมั่นในการฝึกซ้อม ซึ่งจะส่งผลให้เป็นคนที่ไม่ท้อถอย อดทน ไม่ย่อท้อต่อความลำบาก การนอบน้อมถ่อมตน การใช้ความรู้ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ รักสงบ แต่ก็เฉียบขาด ดุดันยามต่อสู้
การสอนการต่อสู้ป้องกันตัวก็จะมีพิธีกรรมรับศิษย์ การสอนด้านจิตใจ ร่างกายและเทคนิค เพราะวิชาเหล่านี้ถ้านำไปใช้ไม่ถูกทาง ก็จะเป็นอันตรายอย่างมาก ผู้ที่เรียนต่อสู้ป้องกันตัวแล้วมักจะเรียบง่าย ไม่โอ้อวด วางก้าม
ให้ทันสมัยหน่อยก็ต้องบอกว่า ไม่เกรียน อิอิ
« « Prev : การจัดการศึกษาขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
Next : แนะนำหนังสือ - สรรนิพนธ์ พุทธทาส ว่าด้วยเต๋า » »
9 ความคิดเห็น
มารับรู้ศัพท์วัยรุ่น โอ้โห เพิ่งเคยรู้จักคำนี้นะ “ไม่เกรียน”
เด็กๆ ได้ฝึกกีฬา รู้จักระเบียบ วินัย สมาธิ อันนี้น่าจะเป็นพื้นฐานของคุณธรรมจริยธรรมได้ดีนะคะ รู้จักแพ้ รู้จักชนะ ได้ออกแรง สร้าง mobility ที่ดีด้วย สนับสนุนมากๆ ค่ะ ตัวเองไม่ค่อยได้เล่นกีฬาเป็นเรื่องเป็นราวตอนเด็กๆ จำได้ก็มีกระต่ายขาเดียว วิ่งเปี้ยว (เอ..หรือเรียกวิ่งเปรี้ยว) ทอยเส้น อิอิ มอญซ่อนผ้า ตี่จับ ตั้งเต ตอนมหาวิทยาลัยก็ไม่เล่นอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน มารู้คุณค่าของกีฬาก็ตอนอายุเยอะแล้ว ^ ^
ลานนี้เปลี่ยนชื่อเป็นลานอืดได้ไหมครับ หรือก็ลานกระตุกก็ได้
ไม่เกรียน แปลว่าอะไรค่ะหมอ…ไม่เคยเล่นยูโด หรือ เทควันโด้เลยค่ะ…
วิธีโพสรูปทำไงค่ะ … ขีเกียจคลำเองแล้วค่ะ…ชักง่วงๆๆๆ…ขอบคุณค่ะ
เจ้าของบ้านหายไปไหน ไม่มารับแขกเลย
#7 สิทธิรักษ์ ให้ความคิดเห็นเมื่อ 14 สิงหาคม 2008 เวลา 23:03
ลืมบอกที่มา
http://www.kapook.com
http://glitter.kapook.com/content.php?id=6826&category_id=9
เรื่องออกกำลังกาย มารู้เอาตอนไหนก็ไม่สำคัญ สำคัญขณะนี้ ดูแลสุขภาพตัวเองไหม ? ระวังอาหารการกิน ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และออกกำลังกายเป็นประจำก็พอ อิอิ
ขอบคุณที่มาเยี่ยมครับ อิอิ ใช้ศัพท์เป็นวัยรุ่นกันเลยนะครับ