ทำไมอยากเรียน - หลักสูตร 4ส3

โดย จอมป่วน เมื่อ 26 มิถุนายน 2011 เวลา 21:46 ในหมวดหมู่ จอมป่วน #
อ่าน: 1619

หลักสูตรประกาศนียบัตรชั้นสูงการเสริมสร้างสังคมสันติสุข(สสสส. หรือ 4ส) รุ่นที่ 3 ของสถาบันพระปกเกล้า โดยสำนักสันติวิธีและธรรมาภิบาล  ต้องการให้นักศึกษา
มีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับสภาพความขัดแย้ง สาเหตุและวิธีแก้ไขปัญหา
มีทักษะในการสร้างสันติสุขในสังคม  สามารถป้องกัน จัดการและแก้ไขความขัดแย้ง  รวมทั้งเยียวยาสร้างความสมานฉันท์ให้กลับคืนสู่สังคม
มีเจตคติยอมรับและเห็นคุณค่าของความแตกต่างหลากหลายในสังคม
สามารถวิเคราะห์หาแนวทางแก้ไขความขัดแย้งและสร้างสันติสุขในสังคมอย่างเป็นระบบ

ครูบาสุทธินันท์ ปรัชญพฤทธิ์ และท่านอัยการชาวเกาะ (บัณฑูร ทองตัน)  ก็เป็นตัวแทนชาวเฮฮาศาสตร์เข้าศึกษาในรุ่นที่ 1
หมอเจ๊ (แพทย์หญิงศิริรัตน์ สุวันทโรจน์) ก็เป็นตัวแทนเข้าศึกษาในรุ่นที่ 2

ความจริงก็อยากเข้าเรียนตั้งแต่รุ่นหนึ่งแล้ว  แต่รุ่นที่ 1 และรุ่นที่ 2 ต้องเรียนวันพฤหัสบดีและวันศุกร์นานถึงเก้าเดือน  แถมการดูงานในประเทศ 5 ครั้ง  ต่างประเทศอีกหนึ่งครั้ง  ก็จัดเวลาค่อนข้างลำบาก
ทราบข่าวว่ารุ่นที่ 3 หลักสูตรนี้ได้ปรับเวลาเรียนเป็นวันศุกร์เต็มวัน  และมีการกำหนดช่วงเวลาศึกษาดูงานทั้ง 5 ครั้งล่วงหน้าไว้เลย  ก็คิดว่าคงจัดเวลามาเรียนได้  ก็เลยสมัครเข้าเรียน
ส่วนคำถามที่ว่า ทำไมอยากเรียนก็ตอบง่ายๆนะครับ  เพราะเป็นเรื่องที่ตัวเองสนใจมานานแล้ว   งานที่รับผิดชอบในตำแหน่งรองนายกเทศมนตรีนครพิษณุโลก  ก็ต้องทำงานร่วมกับชุมชนและหน่วยงานอื่นอีกหลายหน่วยงาน  เจอเรื่องความขัดแย้งบ่อยๆ  แก้ปัญหาได้บ้าง  ไม่ได้บ้าง  บางครั้งก็เป็นตัวก่อปัญหาเองบ้าง  เลยอยากเรียนเพื่อจะได้ความรู้มาประยุกต์ใช้กับการทำงาน
นอกเหนือจากงานในตำแหน่งหน้าที่แล้วยังทำงานเป็นวิทยากรด้านการจัดการขยะมูลฝอย  โดยเฉพาะการทำงานแบบมีส่วนร่วมของชาวบ้าน  นอกจากความรู้ด้านการจัดการความขัดแย้งแล้วยังมีโอกาสเรียนรู้เรื่องรูปแบบการจัดการฝึกอบรม  มีโอกาสเรียนรู้จากวิทยากรที่เก่งๆระดับชาติอีกหลายๆท่านในหลักสูตรนี้  โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลักสูตรนี้การบรรยายจะน้อย  เป็นการจัดการเรียนการสอนแบบมีส่วนร่วม  และให้ลงพื้นที่ต่างๆเพื่อให้เห็นสถานการณ์จริง  เรียนรู้ด้วยตัวเองจากของจริงและจากการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับเพื่อนๆนักศึกษา  อาจารย์ที่ปรึกษา

สรุป
การเข้าเรียนในหลักสูตรนี้คาดหวังว่าจะได้ความรู้ความเข้าใจเรื่องความขัดแย้ง  สามารถวิเคราะห์ปัญหา สาเหตุ  และสามารถนำไปประยุกต์ใช้จัดการความขัดแย้งได้
นอกจากนี้ยังคาดหวังที่จะได้เรียนรู้การจัดหลักสูตรการเรียนการสอน  การเรียนการสอนแบบลงพื้นที่จริง  เรียนรู้จากอาจารย์ที่ปรึกษา  เพื่อนๆร่วมรุ่น  ทั้งยังมีโอกาสเรียนรู้จากวิทยากรเก่งๆอีกหลายท่าน

Post to Facebook Facebook

« « Prev : ออกแขก

Next : ปฐมนิเทศน์ -วันแรก » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

4 ความคิดเห็น

  • #1 sutthinun ให้ความคิดเห็นเมื่อ 27 มิถุนายน 2011 เวลา 0:56

    ท่านที่สนใจเรื่องความขัดแย้งในหัวใจ ไม่ผิดหวัง โปรดติดตามอ่านจากรายงานชั้นเทพในบล็อกนี้ต่อไป อิ อิ

  • #2 น้ำฟ้าและปรายดาว ให้ความคิดเห็นเมื่อ 27 มิถุนายน 2011 เวลา 10:08

    งั้นไว้ให้เรียนจบก่อน จะถามว่าได้ใช้สิ่งที่เรียนมาไปทำอะไรบ้าง กั่กๆๆๆ

  • #3 bangsai ให้ความคิดเห็นเมื่อ 27 มิถุนายน 2011 เวลา 18:34

    ผมเป็นคนมีชีวิตแต่ไม่มีวาสนา อิอิ เลยพลาดการเรียนไปทั้งที่ผ่านเจ้านายมาสามคน คนที่ 4 ตกกระป๋องเลย
    ความขัดแย้งเป็นเรื่องปกติ ตั้งแต่เกิดกลุ่มมนุษย์ ก็เริ่มขัดแย้ง จนมาถึงยุคสมัยนี้ความขัดแย้งพัฒนารูปแบบ สาระไปมากมายจนซับซ้อนมากกว่าสิ่งที่เห็นภายนอก

    โดยเฉพาะความขัดแย้งทางอุดมการณ์

    ความขัดแย้งมีหลายระดับ ทุกท่านทราบดี จากเรื่องเล็กๆไปจนถึงเรื่องคอขาดบาดตาย เรื่องผลประโยชน์เล็กๆไปจนถึงผลประโยชน์มหาศาลบานตะไท จาำเรื่องความขัดแย้งส่วนตัวเป็นความขัดแย้งหมู่ พวก กลุ่ม สี ฯลฯ

    เราจะรู้ได้อย่างไรว่า “ผลึกความคิด” ของคู่ขัดแย้งนั้นคืออะไร อันนี้สุดฝีมือเลย เพราะความขัดแย้งมากมายเราเพียงสัมผัสภายนอกเท่านั้น มิเคย ไม่สามารถ และมิอาจเข้าประชิด “ผลึกของความคิด” ที่ส่งผลต่อความขัดแย้งได้ ผมว่านี่คือสุดยอดวิชา สุดยอดปัยหาความขัดแย้ง

    หากวิเคราะห์ลึกๆถึงรากเหง้าของความขัดแย้ง แม้ว่าสาเหตุมีมากมาย แต่ “แก่นแกน” ของมันก็เป็นความผิดเพี้ยนของมนุษย์ที่ออกนอกลู่นอกทางจากหลักธรรมของศาสนาทุกศาสนานั่น

    “ความขัดแย้งทางอุดมการณ์” หรือ “ความขัดแย้งจากเหตุของ ผลึกความคิด ที่แตกต่างกัน” นั้นยากมากๆ เพราะเขาสามารถแลกด้วยชีวิต และทุกอย่าง ลูก เมีย สมบัติ ของรักของหวง ไม่สามารถมาทดแทน ผลึกความคิดที่ ขัดแย้งได้

    แต่มิใช่ว่า อุดมการณ์เปลี่ยนแปลงไม่ได้ ดูองค์คุลีมาน ซิ ดูลุงประเสริฐ และอีกมากมาย ดูแก่นแกนของเหลืองกับแดง เดิมคือเพื่อนร่วมอุดมการณ์ เข้าป่ารบมาด้วยมาวันนี้อุดมการเปลี่ยนแปลงกลายเป็นคู่ปรับกัน…

    อ้าวผมเอามะพร้าวห้าวมาขายหมอ เอ้ยมาขายสวนซะแล้ว อิอิ มาตามติดบทเรียนหมอเด้อครับ

  • #4 จอมป่วน ให้ความคิดเห็นเมื่อ 27 มิถุนายน 2011 เวลา 21:34
    คนเรารบกัน ฆ่ากันมานานมากๆแล้ว คงไม่เลิกง่ายๆหรอก

    เพียงแต่คนที่มีสติ คงไม่ไปร่วมวงกับเขา ถ้ามีโอกาสก็อาจทำอะไรเท่าที่ทำได้เพื่อช่วยคนใกล้ตัว องค์กรของเรา ให้มีสติ แบบว่าทำสิ่งเล็กๆที่ยิ่งใหญ่

    แต่สุดท้ายก็คงเป็นไปตามเหตุ………อิอิ


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.081795930862427 sec
Sidebar: 0.055860042572021 sec