จะวิ่งซะอย่าง
อ่าน: 2004ทริปนี้ออกจากบ้านมานานมาก เริ่มตั้งแต่ไปท่าบ่อ(รายการป้าแดง) หนองคาย เรื่องการจัดการความรู้
ไปเชียงเครือ สกลนคร เรื่องการจัดการขยะมูลฝอยโดยชุมชน ร่วมกับ สถาบันฝึกอบรมและถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านสิ่งแวดล้อม สำนักการมีส่วนร่วมของประชาชน กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม ต้องผ่านอำเภอสว่างแดนดินเลยแวะกินข้าวกับแมวเหมียวก่อน
ตามมาด้วยนครพนม (รายการของกาเหว่าสวย) ไปโม้เรื่องการจัดการขยะให้มหาวิทยาลัยนครพนมกับสถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยนครพนม เลยตามมาด้วยการนัดหมายไปดูงานที่เทศบาลนครพิษณุโลกเดือนหน้า
จากนครพนมก็มาร่วมการพัฒนาบุคคลกรของเทศบาลนครพิษณุโลก ผ่านโคราชก็ต้องแวะคารวะ อ. แพนด้ากับ อ. หลินฮุ่ย(แล้วขอกินข้าวฟรีตามระเบียบ) เลยมีรายการแวะดูงานดอกเบญจมาศบานในม่านหมอกกับงาน Wangnamkeaw Flora Fantasia ที่ วังน้ำเขียว ตามคำแนะนำของผู้อาวุโส
ตอนนี้มาอัมพวา เรื่องการจัดการขยะมูลฝอยของกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อมอีก วันที่ 28 ก็ไปรายการการ การสัมมนาทิศทางการพัฒนาสุขภาพเขตเมือง ที่โรงแรมอมารี ดอนเมือง จัดโดยกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ก็จะได้กลับบ้านไปกอดแม่นุแล้ว
ที่เล่ามาซะยืดยาวเลยก็เพื่อจะบอกว่า เดินทางแบบนี้จะวิ่งซะอย่างก็ไม่มีปัญหาอะไร
ที่หนองคาย ไปถึงก็บ่ายแก่ๆแล้ว ป้าแดงไปธุระที่หนองคาย จะมารับไปเลาะลำโขงแล้วกินข้าวตอนห้าโมงครึ่ง สี่โมงก็ต้องวิ่งก่อน แดดก็ยังแรงอยู่ แต่พอมีที่ร่มเล็กน้อยด้านหลังบ้านพัก พออาศัยวิ่งได้ รอดตัวไปวันนึง
งานที่เชียงเครือ นอนในตัวเมืองสกลนครแถวๆโรงพยาบาล ใกล้วัดพระธาตุเชิงชุม มีสวนสาธารณะอยู่ใกล้ๆเลยได้วิ่งทุกเย็น
ที่นครพนมไปถึงก็เย็นแล้ว กาเหว่าสวยมารับไปลงเรือล่องน้ำโขงแล้วไปกินข้าว เลยตื่นมาวิ่งตอนเช้า ที่พักอยู่ริมโขง บรรยากาศดี น่าวิ่งมาก
จากนครพนมจะไปเขาใหญ่ เลยแวะมานอนมหาสารคาม วันรุ่งขึ้นจะได้ไม่ต้องขับรถไกลมาก (จริงๆ จะแวะทักทาย อ. น้อย กินแจ่วฮ้อน ฟังเพลงซะหน่อย…อิอิ) มาถึงก็ค่ำแล้ว ออกเดินทางแต่เช้า เลยรวบยอดไปวิ่งที่เขาใหญ่
ถึงเขาใหญ่เย็นๆ วิ่งตามถนนธนะรัชต์ สบายมากเลยวิ่งเช้า แถมเย็นๆด้วย อิอิ
วันนี้มาถึงอัมพวาเที่ยง ทำงาน พักผ่อน เย็นๆก็ออกวิ่ง ถามเด็กโรงแรมว่าวิ่งไปทางไหนดี เด็กบอกว่าออกซ้ายดีกว่า ออกทางขวาวัยรุ่นเยอะ พี่ใส่สร้อยทองแบบนี้ อิอิ เสียว……
ปกติการวิ่งต่างถิ่นจะกลัวหมา รองลงมาก็จะเป็นรถ เรื่องจี้ปล้นไม่ค่อยกลัวเท่าไหร่เพราะไม่ค่อยมีอะไรติดตัว แถมไม่ค่อยวิ่งยามวิกาล
วันนี้เลยออกเดินอบอุ่นร่างกาย สังเกตภูมิประเทศไปด้วย เคยวิ่งตามสวนแถวๆนี้ ต้องคอยระวัง เพราะหมาจะค่อนข้างดุ แต่ก็ไม่เคยโดนกัดสักครั้ง
เดินพอเหงื่อซึมก็เจอทางออกไปทะลุริมน้ำแม่กลอง สบายมากเลย เจอเขื่อนริมน้ำแม่กลองยาวเกือบกิโลไปสิ้นสุดที่ตลาดน้ำอัมพวา วิ่งไปกลับๆ แล้วแวะไปชมที่ตลาดน้ำแป๊บนึงก็วิ่งกลับที่พัก
การเดินทางไปต่างจังหวัดก็ไม่เป็นอุปสรรคต่อการวิ่ง สวนป่า วิ่งตามตลาดในเมือง วิ่งรอบโรงแรมที่พัก
วิ่งจากตัวตลาดปายไป Coffe in Love นัดเพื่อนมารับกลับ เลยล่อเค๊กกับกาแฟเต็มที่ แต่โดนเบี้ยว ต้องวิ่งกลับแบบจุกๆก็เคยมาแล้ว
ที่ไม่ได้วิ่งก็ตอนเดินทางไปต่างประเทศ เพราะมักต้องตื่นแล้วออกเดินทางแต่เช้า และไม่อยากแบกรองเท้าวิ่งไปด้วย แต่มีหลายๆคนที่วิ่งทุกวัน แม้จะเดินทางไปต่างประเทศก็ติดรองเท้าวิ่งไปด้วย
……
สรุปว่า คนที่อยู่บ้าน สถานที่ออกกำลังกาย ไม่ว่าจะเป็นเดิน ว่ายน้ำ แอโรบิก โยคะ วิ่ง ฯลฯ ก็สะดวกและคุ้นเคย แต่ก็จะมีข้ออ้างสารพัด เลยไม่ได้ออกกำลังกาย
…….อิอิอิอิอิ
« « Prev : แต่งภาพ
Next : ความเป็นมาของลานปัญญา (ตอนที่ 1) » »
6 ความคิดเห็น
จะรออ่าน ตอนวิ่งหนีหมาไล่งับ
นานแค่ไหนก็จะรอ จะมีสักวันไหม
จะวิ่งหน้าตั้ง หรือจะวิ่งลักษณะไหน อิอิ
ที่สรุปนั้นรู้สึกว่าเฉี่ยวหัวไปนิดส์หนึ่ง
อิอิ
ตั้งใจให้โดนเลย แค่เฉี่ยวเองเหรอ อิอิ
ก็แค่เฉี่ยวเลยจำใจลุกจากที่นอนมา ชี่กงตอนตีห้า
ถ้าโดนคง….สลบลุกไม่ขึ้น
555
วันนี้อยู่โรงแรมอมารี แอร์พอร์ท เลยต้องวิ่งที่ Fitness Center ของโรงแรมเลย เพราะกลัวมันกลับมาโดนหัวตัวเอง อิอิ
วิ่งตามภาพสนุกดีค่ะ บรรยากาศน่าเดินเล่นทุกที่เลยนะคะ
ส่วนตัวชอบเดินมากกว่าค่ะโดยเฉพาะเดินขึ้นดอยจะชอบมาก(ไขมันละลายเร็วดี ฮ่าฮ่า)