ท่องบ่น พิธีกรรม - แลกเปลี่ยนเรียนรู้ ( ต่อ )
อ่าน: 1744คุยเรื่องแลกเปลี่ยนเรียนรู้ต่อครับ ต่อจากคราวก่อนครับ ทดสอบลิงก์
ปัญหาการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ที่สำคัญอีกอย่างนึงก็คือ ทั้งสมาชิกวงสนทนาและกระบวนกรไม่เข้าใจความหมายจริงๆของการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ แยกระหว่างความรู้ทางทฤษฎีกับประสบการณ์ไม่ออก
ความรู้ทางทฤษฎีสมัยนี้สดวกครับ ฟังบรรยายจากครู อาจารย์ หนังสือ ตำราก็มีให้ศึกษามาก ค้นเอาตามเวบไซต์ต่างๆก็ง่าย ( แต่ต้องระวังนะครับ อาจเจอพวกท่องบ่น ไม่เข้าใจแก่น ขยายความไปเรื่อยก็มี )
แต่ที่พูดถึงนี่เป็นความรู้ประเภทประสบการณ์ การนำเอาความรู้ที่ได้มา ไม่ว่าจะศึกษาเอง ฟังเขามา อ่านมา ฯ นำมาปฏิบัติใช้ในชีวิต ครับชีวิตครับ ไม่ใช่แค่การเรียนการสอน การทำงาน แล้วนำเอาเรื่องราวเหล่านี้มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้กัน
ตรงนี้แหละครับที่มีความเท่าเทียมกันในการพูดคุยแลกเปลี่ยนเรียนรู้กัน คนเรียนหนังสือมามาก ไม่แน่ว่าประสบการณ์ชีวิตจะดี คนเรียนมาน้อย แต่สนใจศึกษา โดยเฉพาะเรื่องธรรม ( ธรรมชาติ : เรื่องของชีวิต สังคม สิ่งแวดล้อมก็เป็นธรรมชาติ ) อาจเข้าใจชีวิตดีกว่าคนเรียนมาสูงๆ หรืออาจเรียกว่ามีทักษะชีวิต และที่สำคัญคือบรรยากาศต้องดี รู้สึกปลอดภัย รู้สึกอยากพูด ทำอะไรผิดก็มีการแนะนำกัน ลองคิดดูนะครับ ถ้าเราเริ่มหัดพูดคุยแลกเปลี่ยนกัน มีคนพูดมาก พูดนอกเรื่อง จำขี้ปากเขามาพูด เราด่าว่าเลย ห้ามเขาพูด หรือบีบออกจากวงสนทนาเลย ที่เหลือ ใครจะกล้าพูด อิอิ
การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประเภทนี้เขาเน้นการปฏิบัติ แล้วเอาประสบการณ์มาแลกเปลี่ยนกัน ต้องเปิดใจ ยอมรับความแตกต่างทั้งบุคคลิก ท่าทาง ความคิดเห็น ฟังก่อน ไม่ด่วนตัดสิน แล้วไตร่ตรองให้ดีก่อนจะเชื่อหรือไม่เชื่อ ไม่เชื่อเพราะอายุมาก เรียนมามาก เป็นครูบาอาจารย์ ตำแหน่งทางสังคมสูง หรือไม่เชื่อเพราะเห็นว่าเด็ก เรียนมาน้อย ไม่มีตำแหน่งทางสังคม เรื่องการเปิดใจนี่ก็ต้องฝึกกันนะครับ ให้ยอมรับความแตกต่าง หัดฟัง ลดอัตตาลงแล้วจะได้ยิน แต่ที่เจอส่วนใหญ่คิดว่าตัวเองพร้อมแล้ว พูดใหญ่เลย ฟังไม่เป็น แล้วจะแลกเปลี่ยนอะไรกัน
เชื่อไหมครับ ฝึกชาวบ้านมาสนทนาแลกเปลี่ยนเรียนรู้กัน ใช้เวลาน้อยครับ แป๊บเดียวคุยกันสนิทใจ เพราะอัตตาน้อย เหล่านักการของเทศบาลนครพิษณุโลกเอาทีมงานเก็บขยะ ( คนขับรถขยะ ท้ายรถขยะ หัวหน่าสาย ) มานั่งคุยกัน ใช้เวลาไม่นานครับ สุนทรีย์ครับ
ในมหาวิทยาลัย สายสนับสนุนคุยกันง่ายครับ สายวิชาการ แหะๆ ขอไม่พูดถึงครับ เดี๋ยวโดนรุม……… ล้อเล่นน่ะครับ อิอิ
เกือบหลงประเด็นครับ เรื่องท่องบ่น พิธีกรรมนี่ เอามาฝากกระบวนกร หรือที่จะเรียกกันว่าคุณอำนวยครับ
ปัญหาก็คือกระบวนกรไม่เข้าใจแก่น หลักการ ไม่ทราบว่าคนเราจะแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันได้ดีต้องอยู่ในสภาวะไหน…..
ต้องเปิดใจ เปิดใจแปลว่าอะไร ? กระบวนกรเปิดใจหรือยัง ?
ต้องยอมรับความแตกต่าง ? ความแตกต่างของอะไร ? กระบวนกรเองยอมรับความแตกต่างหรือไม่ ?
ต้องมีสมาธิ ต้องฟังเป็น ต้องคิดเชิงบวก กระบวนกรเข้าใจและมีคุณสมบัติเหล่านี้หรือไม่ ?
กระบวนกรเคยร่วมสนทนาแบบสุนทรียสนทนา หรือร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันจริงๆหรือไม่ ?
ที่พูดถึงบรรยากาศดีๆ มีความปลอดภัย มันเป็นยังไงหนอ ? …..
…………
ถ้าไม่ ….. แล้ววงสนทนาจะเป็นยังไง ? เพราะกระบวนกรเป็นพวกท่องบ่น จำได้แต่พิธีกรรม
ถ้าใช่…. ก็ดีแล้วครับ ขอให้เจริญๆๆ
ไม่ได้ว่าใครนะครับ คนชอบวิ่งก็เป็นพวกพร่ำบ่น อิอิ
« « Prev : แลกเปลี่ยนเรียนรู้ อิอิ
Next : ผมไม่ใช่คนดื้อครับ อิอิ » »
6 ความคิดเห็น
สาธุ ได้ฟัง ได้อ่าน ได้เห็น แล้วได้ทำไปโดยไม่รู้ตัว มีความสุขที่พูดกับเด็กตัวเล็กๆแค่เพิ่งพูดเป็น แต่เราคุยกันรู้เรื่องเป็นเพื่อนต่างวัย(ย่าทวดกัยหลาน) พอสนทนากับคนที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ผ่านระบบโลกออนไน์ โลกไซเบอร์ ก็เจอผู้คนมากมาย จากฟ้าสู่ดิน เข้ามาแลกเปลี่ยนประสบการณ์ บ้างขอคำแนะนำ บ้างขอความรู้(สงสัยว่าเขารู้ได้ไงว่าเรารู้จริงหรือเปล่า)บ้างขอความช่วยเหลือ บ้างขอเงินฯลฯ. ทำให้ไดเรียนรู้มากกว่าที่คิด สิ่งเดีนวที่ Lin Hui ให้ไม่อั้น ให้ใจค่ะ ให้อภัยค่ะ ใส่ใจค่ะ เข้าใจ และเต็มใจทำในสิ่งที่ทำได้ค่ะ ถ้าประสบการณ์อันน้อยนิดนี้สามารถ ให้สติรู้ สติคิด สติทำ ได้ Lin Hui ใหทันที่ค่ะ้
มาเรียนรู้เพิ่มเติมครับ
ขอบคุณมากๆครับ
มาร้องเรียนค่ะ
บันทึกนี้สสันสดใส สวย จ๊าบ แต่ สว.อ่านยากจริงๆ ตัวหนังสือเล็ก และสีตัดกับพื้น ดูสะท้อนแสง เมื่อยตาไปหน่อยค่ะ
ขออนุญาตร้องเรียน เพราะอยากอ่านบ่อยๆ ค่ะ
อิ..อิ..จอมป่วนโดนป่วนซะแล้ว..
แหมๆๆๆๆ มาทั้งทีก็ช่วยชี้แนะ ช่วยต่อยอดให้ด้วยสิครับ
แก้ไขให้แล้ว ถูกใจรึยังครับ อิอิ