แห่งการงานอันเบิกบาน

โดย จอมป่วน เมื่อ 10 กุมภาพันธ 2009 เวลา 21:36 ในหมวดหมู่ จอมป่วน, เฮฮาศาสตร์, แลกเปลี่ยนเรียนรู้ #
อ่าน: 2278

แห่งการงานอันเบิกบาน – Skillful Means

หนังสือเล่มนี้เขียนโดย ตาร์ถัง ตุลกู รินโปเช แปลโดย อาจารย์โสรีช์ โพธิแก้ว คณะจิตวิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ครูใหญ่ให้ไว้ตอนไปช่วยเป็นวิทยากรให้กับทีมพยาบาลของโรงพยาบาลสวนดอก วันนี้นั่งรถทัวร์เข้ากรุงเทพฯ เลยอ่านจนจบ

 


 

หนังสือเล่มนี้เขียนในแนววิทยาศาสตร์กระบวนทัศน์ใหม่ ทั้งๆที่ผู้เขียนมีความรู้ด้านธรรมะเป็นอย่างดี คงเป็นเพราะต้องการให้ชาวตะวันตกที่มีการศึกษาเข้าใจเรื่องเหล่านี้ได้ง่ายขึ้น

ท่านต้องการให้เข้าใจถึงจิตใจอันแจ่มใส (ทำให้นึกถึงมณฑลแห่งพลัง ของคุณหมอวิธาน Wholeness ฯ) แล้วโยงไปถึงเรื่องการงาน การเรียนรู้ ชีวิตที่ต้องกลมกลืนกัน ไม่แยกส่วน

ท่านชี้ให้เห็นถึงการที่ส่วนใหญ่เราใช้พลังมุ่งไปภายนอก ทำให้ห่างจากธรรมชาติ ทำให้กลัว หวั่นไหว หยาบ ร้อนลน ไม่รู้จักตัวเองอย่างแท้จริง ทำให้เราหมุนวนในการแสวงหาทางออก (นึกถึง แผ่นเสียงตกร่องของ อ. วิศิษฐ์ วังวิญญู) ที่แท้คำตอบอยู่ในตัวเอง ไม่ต้องไปแสวงหาที่ไหนหรอก

มีการพูดถึงตอนเด็กๆ เราถูกครอบครัว สังคม สถานศึกษาครอบงำ ชี้นำ คาดหวัง ยับยั้งความคิด ความรู้สึกที่เป็นธรรมชาติไป ( นึกถึงกิจกรรมทิ้งไพ่ที่อุ๊ยจั๋นตาและน้าอึ่งอ๊อบชอบ)

ทำอย่างไรที่จะได้ความคิด ความรู้สึกที่เป็นธรรมชาติกลับคืนมา ก็เก็บไพ่ที่ทิ้งไปกลับคืนมา ด้วยการมีสมาธิ มีสติ ดูจิต ฝึกฝน ปฏิบัติ

ท่านชี้ให้เห็นว่าการฝึกสมาธิไม่ใช่การฝึกวินัยอย่างเข้มงวดกวดขัน แต่เป็นการผ่อนคลาย อ่อนโยน สงบอย่างธรรมชาติ สามารถพัฒนาได้แม้ขณะทำงาน (คิดถึง หินทับหญ้า ของ อาจารย์วรภัทร์ ภู่เจริญ)

ความแจ่มใส สมาธิ สติจะนำไปสู่ปัญญา เป็นการเรียนที่ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ในห้องเรียน การเรียนแบบท่องจำ เพราะเป็นการศึกษาธรรมชาติของมนุษย์ เป็นเรื่องนามธรรม ต้องเกิดจากการปฏิบัติ

ที่สำคัญต้องมีสติ ไตร่ตรอง พิจารณาเรื่องต่างๆให้เกิดปัญญา เช่นถ้ามีสติ ทำงานด้วยใจรัก มีการทบทวน ไตร่ตรอง – reflection การทำงานก็จะมีคุณภาพ มีความสุขกับการทำงาน ถ้านำไปใช้กับการเรียน ที่ต้องเรียนรู้ไปตลอดชีวิต ก็จะมีความสุขกับการเรียนรู้ และถ้านำไปใช้กับชีวิต (รวมครอบครัว สังคม) ชีวิตก็จะมีความสุข

ถ้าเราทำให้ การเรียนรู้ การทำงานและการใช้ชีวิตเป็นเรื่องเดียวกัน กลมกลืนกันก็จะทำให้มีความสุขครบถ้วน และมีความสุขตลอดเวลา

เวลาเราเจอไฟ เราจะเอามือจับไฟไหม? คงไม่ เพราะเราเรียนรู้ว่าไฟมันร้อน (ท่านพุทธทาสภิกขุ)

แต่เวลาเราโกรธแล้วแสดงอาการต่างๆออกมา มันดีไหม? แล้วควรทำอย่างไร? แผ่นเสียงถึงจะไม่ตกร่อง

เวลาเราอยากได้อะไร (โลภ) ? เราเป็นสุขไหม? เคยทบทวนไหมว่าควรทำอย่างไร?

ที่เล่ามาก็แค่เริ่มต้น (ผสมปนเปกับที่ว่าเองมั่ง) อย่างน้อยก็เป็นแนวทางให้เริ่มเอะใจ เอ๊ะๆๆๆๆๆๆ ให้เริ่มสนใจเรียนรู้ภายในตัวเอง ไม่ต้องเที่ยวเสาะแสวงหาคำตอบที่ไหนให้วุ่นวาย คำตอบอยู่ที่ตัวเองนี่แหละ แค่มีสมาธิ มีสติ รู้จักตัวเอง ยอมรับคนอื่นที่มีความคิดเห็นแตกต่างจากเรา ไตร่ตรองเรื่องต่างๆให้เกิดปัญญา ใช้กับการทำงาน การเรียนรู้ ชีวิต อย่างน้อยก็จะทำให้ชีวิตมีความสุขมากขึ้นหน่อยนึง

ถ้าฝึกไปๆ ก็จะเริ่มเข้าใจในธรรม(ชาติ) เรียนรู้ที่จะรักสรรพสิ่ง ฯ จะฝึกต่อจนดับทุกข์ นิพพาน ก็ไม่ว่ากัน

อิอิ พอก่อน เดี๋ยวตกเครื่องเพราะขาดสติ


 

Post to Facebook Facebook

« « Prev : วงส้มตำ

Next : หินทับหญ้า » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

9 ความคิดเห็น


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.061066865921021 sec
Sidebar: 0.058588027954102 sec