เรื่องหมาๆ

โดย จอมป่วน เมื่อ 2 ธันวาคม 2008 เวลา 15:08 ในหมวดหมู่ จอมป่วน, เฮฮาศาสตร์, แลกเปลี่ยนเรียนรู้ #
อ่าน: 2437

 

 

 

        อย่าตำหนินะครับ  ว่าสถานการณ์บ้านเมืองแบบนี้ยังมาเขียนเรื่องหมาๆ  (ไม่เขียนก็ใช่ว่าจะทำอะไรได้)  บังเอิญว่านั่งดูรายการโทรทัศน์เจอเรื่องนี้เข้า  มันโดนมากๆ  ไม่เขียนเดี๋ยวก็ลืมไปแน่ๆ

 

        เป็นคนที่ไม่ชอบแนวปฏิบัติธรรม  แต่ก็ศึกษาธรรมะบ้าง(นิดหน่อย) ประเภทที่เขียนง่ายๆ  อ่านง่ายๆสบายอารมณ์(ของหลวงพ่ออำนาจ ผาซ่อนแก้ว)  แต่ก็สนใจการพัฒนาตนเอง  ด้านจิตใจ  ชอบไปนั่งคุยกับ อ. วรภัทร์  ภู่เจริญ,  อ. วิศิษฐ์  วังวิญญู  ลองฝึกปฏิบัติตามแนวทางที่(พระ)อาจารย์ทั้งหลายชี้แนะแนวทางมา  รู้สึกว่าเริ่มดีขึ้นบ้าง(นิดหน่อย)

 

        อ้าว  ลืมไปว่าจะเขียนเรื่องหมาๆ   ขอเริ่มเลยนะครับ…..

 

        ต้องขออภัยด้วยนะครับ  ไม่ได้ดูตั้งแต่ต้น  ก็เลยปะติดปะต่อเอา  เล่าแบบอุ๊ยจั๋นตา  ใครดูแล้วมีรายละเอียดเพิ่มเติมก็ช่วยเพิ่มเติมแก้ไขให้ด้วยนะครับ อิอิ

 

เรื่องนี้  เกวิน  สุนัขตำรวจพันธุ์ลาบาดอร์เป็นพระเอก  เกวินคงผ่านการฝึกเป็นสุนัขตำรวจ  ตรวจวัตถุระเบิด  จบโรงเรียนแล้วก็มาทำงานกับคู่หู  แล้วเกิดปัญหา  กลัวเสียงจนเสียหมา  วิ่งหาที่หลบ  เลยปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อบำบัด(คิดถึงหมอเบิร์ดเลย)

 

ผู้เชี่ยวชาญก็วิเคราะห์ว่า  เกวินเป็นสุนัขที่ผ่านการฝึกมาอย่างเข้มข้น  ผ่านการฝึกมาด้วยดี  เทียบกับคนก็เป็นบัณฑิตที่เรียนเก่งด้วย  แต่ขาดความเป็นหมา  การฝึกของโรงเรียนทำให้เกวินเก่งด้าน Hard Side  (วิชาการเพื่อทำงาน)  แต่ขาดด้าน Soft Side  คือขาดทักษะชีวิต  ง่ายๆคือขาดจิตวิญญาณของความเป็นหมา

 

ในการบำบัดเกวินซึ่งใช้เวลานานเกือบสามเดือน  เริ่มตั้งแต่คืนความเป็นหมาให้เกวิน  คือเกวินต้องนั่งเครื่องบินไปบำบัด(มีสิทธิพิเศษไม่ต้องใส่กรงไป  แต่ได้นั่งไปกับผู้โดยสารเลย)  เกวินต้องจากคู่หูไปอยู่กับฝูงหมาๆด้วยกัน  เรียกว่าอยู่กันแบบหมาๆ

 

ในการบำบัด  มีการลงทุนนำหมาที่ท้องมาคลอดลูก  แล้วให้เกวินสัมผัสถึงหน้าที่แม่  การคลอด  ลูกหมาตัวน้อยๆ

 

ตอนหลังก็เริ่มฟื้นฟู  ด้วยการฝึกเกวินใหม่ภายใต้ความกดดัน  ปรากฏว่าเกวินทำได้ดี  หลังจากค้นพบความเป็นหมาของตัวเอง  หรือค้นพบตัวตนของเกวินเอง  เกวินก็นิ่งมากไม่ว่าจะเจอเสียงพายุ  ฟ้าร้อง  ฟ้าผ่า  เสียงปืน 

 

สุดท้าย  เกวินก็สามารถกลับไปทำงานตามหน้าที่ของตัวเองร่วมกับคู่หูได้เป็นอย่างดี

 

เพื่อให้มีส่วนร่วม  ก็จะไม่วิเคราะห์หรือสรุป  แต่จะรอมิตรรักแฟนๆทั้งหลายมาช่วยกันครับ  เดาไว้ในใจแล้วนะครับว่าจะมีใครมาบ้าง  เตรียมน้ำชา  น้ำผลไม้  ขนมไว้รอแล้ว  สั่งได้เลยนะครับ

 

 

 

Post to Facebook Facebook

« « Prev : ของฝากจากฟิลิปปินส์

Next : น้ำจิ้ม อิอิ » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

11 ความคิดเห็น

  • #1 Sakura ให้ความคิดเห็นเมื่อ 2 ธันวาคม 2008 เวลา 15:21

    เอ แล้วมันจะโยงกับข่าวบ้านการเมืองของเราได้ยังไงคะนี่ อิอิ ขอกล้วยทอดกะขนมไข่นกกระทา หน้าองค์การโทรศัพท์ เมืองพิดโลกนะคะ  อิอิ (เห็นแก่กินเลยแวะมาอ่าน)

  • #2 rani ให้ความคิดเห็นเมื่อ 2 ธันวาคม 2008 เวลา 17:08

    หมาเอ๊ย สุนัขน่ารักมาก มีผ้าพันคอด้วย แต่เสื้อสีลายทางงี้ไม่น่าจะเป็นสุนัขตำรวจ ถ้าเป็นสุนัขถูกจองจำว่าไปอย่าง อิอิ (แซวเล่นอะ )

  • #3 rattiya ให้ความคิดเห็นเมื่อ 2 ธันวาคม 2008 เวลา 18:07

    ตกลงหมาตัวนี้ ชื่ออะไรค่ะ
    อ่านไม่ถนัด
    อิอิ

  • #4 น้ำฟ้าและปรายดาว ให้ความคิดเห็นเมื่อ 2 ธันวาคม 2008 เวลา 20:23

    เกวินคืนจิตวิญญาณจากการสัมผัสกับ”ชีวิต” ที่แรกเริ่มลืมตา..เดินเคียงคู่ไปกับการเรียนรู้และเติบโตทีละก้าวๆๆๆ ซึ่งเป็นการเติบโตอย่างเป็นธรรมชาติของลูกหมา ไม่ใช่ตามความคิดของเกวิน (ซึ่งโตและเก่งตามความคิดคนอื่นอีกที อิอิอิ)..การเจอเจ้าตัวเล็ก จึงเป็นกุญแจไขห้องแห่งความลับ และความเปราะบาง อ่อนแอเป็นความสวยงามของธรรมชาตินะคะ

    เมื่อค้นพบตัวเองเกวินจึงเติบโตจากภายใน กล้าและแกร่งเมื่อต้องเจอกับสิ่งต่างๆที่เข้ามาในชีวิต ดังนั้นจะเป็นอะไรไม่สำคัญเท่าเป็นตัวเองอย่างมีชีวิตจิตใจนะคะ หมาก็คือหมาจะให้หมาเป็นคนได้ยังไง (แต่ในทางกลับกัน..ทำไมถึงเห็นเยอะจริงๆก๊ากๆๆๆๆ)

  • #5 nning ให้ความคิดเห็นเมื่อ 3 ธันวาคม 2008 เวลา 16:08

    บางครั้งรู้สึกเป็นเหมือนเกวินที่ยังไม่ได้รับการบำบัดค่ะ มีด้าน Hard side แต่บกพร่องด้าน Solf side  ค่ะ จะเอาไปบำบัดที่ไหนดีคะ แล้วจะได้นั่งเครื่องบินไปหรือปล่า

  • #6 อุ้ยจั๋นตา ให้ความคิดเห็นเมื่อ 3 ธันวาคม 2008 เวลา 21:42

    โฮ่งๆๆ ..อ้าวลืมตัวค่า นึกว่าเป็น(เพื่อน)เกวิน..แฮ่ม

    รอกินน้ำชากับขนม..แฮ่ๆ

    เอ้ามาสาระมั่ง

    จริงๆแล้วการถูกฝึกให้เก่ง Hard science หรือ soft science มันต้องดูที่ปรัชญาความเชื่อของคนเหมือนกันค่ะ
    อย่างคนที่เชื่อหรือฝึกสร้างตัวเองมาแบบ Hard science พอไปเจอ soft science ระยะแรกจะพยายามหาเกณฑ์มาตัดสิน(ด้วยฐานความเชื่อเดิม) …จะเกิดความตะหงิดๆ บอกไม่ถูกและพยายามหาคำตอบด้วยกรอบแนวคิดต่างๆ
    แต่พอศึกษาต่อ จะพบว่า soft science คือสิ่งที่อยู่ในตัวเอง เรียนรู้ผ่านความตระหนักรู้ รู้ว่ากำลังทำอะไร และสิ่งที่ศึกษาและคิดว่าค้นพบนั้นมีความคิด ความเชื่อของตัวเราเองไปปนด้วยไหม ผลที่ได้นั้น ปฏิเสธไม่ได้ว่า ทุกสิ่งที่เป็นอยู่ มีความหมายของมันเองเพราะว่าบริบทที่มันอยู่มันเป็น เป็นความเฉพาะตัว ณ เวลาหนึ่ง…
    ความเข้าใจแบบนี้จะทำให้เกิดความเข้าใจทั้งตัวเอง และความสัมพันธ์ของสรรพสิ่งและคนและระหว่างคนกับคน ต่อเนื่องเป็นเหมือนภพชาติที่เกิดดับตลอดเวลา ไม่มี Hard science ที่บริสุทธิ์อย่างแท้จริง และไม่มี soft science ที่อธิบายไม่ได้
    ดังนั้น ไม่ว่าจะเรียกตัวเองว่าอย่างไร ถูกเรียกว่าอย่างไร ในสภาพหนึ่งๆ บุคคลก็เป็นได้อธิบายเหตุและผลได้ และไม่อาจจะเป็นเช่นนั้นเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงบริบททั้งจากภายในและภายนอกของเขา

    โฮ่งๆๆๆ  5555

  • #7 จอมป่วน ให้ความคิดเห็นเมื่อ 3 ธันวาคม 2008 เวลา 22:07

    ขอบคุณพี่น้องที่แวะมาเยี่ยมและร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้

    ยังเหลืออีกหลายคนที่คิดว่าจะมา  แต่ยังไม่มา  รออยู่ๆๆๆๆๆๆ

     

  • #8 อัยการชาวเกาะ ให้ความคิดเห็นเมื่อ 5 ธันวาคม 2008 เวลา 10:27

    ผมยังไม่หมา…(แบบสุพรรณ อิอิ)ยังเฝ้าลูกสาวอยู่โรงบาล ความจริงวันที่ ๒ ธันวา เป็นวันเกิดน้องนิว วันที่ ๓ เข้าผ่าตัดเลย น้องนิวมันเกิดปีหมาด้วย อิอิ
    ยังไม่ได้ดูหนังเรื่องนี้ แต่อ่านๆดูรู้สึกมันจะสอนเรื่องการศึกษาของไทยซะมากกว่า ฮ่าๆๆ
    มาสั่งโรตี กับชาร้อน อิอิ

  • #9 จอมป่วน ให้ความคิดเห็นเมื่อ 9 ธันวาคม 2008 เวลา 22:54

    หมากันโม๊ดเลย  ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ

    ขอให้น้องนิวหายเร็วๆนะครับ

  • #10 กานดา ให้ความคิดเห็นเมื่อ 12 เมษายน 2009 เวลา 9:59

    หมาเหมือนกันค่ะ  โชคดี หรือ โชคร้ายของเกวินนะคะ  หรือ ธรรมชาติของชีวิตมันมีผสมกันอยู่แล้ว อยู่ที่ว่าจะหยิบยกเอาอะไรมาพิจารณา   ป้าหวานคงเหมือนคุณหนิง  เอ้ยคล้ายๆ..อิอิ เหมือนได้ไงเน้อะ …       ถ้าจะมีการพาไปบำบัดก็ชวนด้วยนะคะ  ฮ่าๆๆ                                                                           
    ขอบคุณอุ้ยค่ะ  ป้าหวานอ่านแล้วเหมือนจะเข้าใจเลย อิอิ  โถ..เห็นใจป้าหวานเถอะ สิงห์ปืนฝืดค่ะ รักอุ้ยจัง
    ขอใช้เวลาอ่าน 2รอบ คิดอีก 2รอบ..นะคะ.ป้าหวานตามทันค่ะ

  • #11 จอมป่วน ให้ความคิดเห็นเมื่อ 14 เมษายน 2009 เวลา 21:06

    #10  ป้าหวาน
    แปลกแฮะ  คุยเรื่องหมาๆนี่  เข้าใจกันดี  ฮ่าๆๆๆ   เอ๊ย  โฮ่งๆๆๆๆๆๆๆๆ


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.055516958236694 sec
Sidebar: 0.037818908691406 sec