Facilitation Lab - สถาบันพระปกเกล้า – 8 พี่จิ - วิทยากรกระบวนการ
อ่าน: 4356พี่จิ หรือ พี่จิราพร เอี่ยมสมบูรณ์ จากสำนักงานเลขานุการกรม กรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม คนนี้ไม่พูดถึงไม่ได้เลย
เนื่องจากทีมพิษณุโลกอยู่ไกล ต้องเดินทางมาพักก่อน 1 คืน ก็วางแผนกันว่าจะออกเดินทางเช้าหน่อย จะได้มีโอกาสเที่ยวอัมพวา หาข้าวกินแล้วนั่งเรือดูหิ่งห้อย ก่อนจะรับการอบรมแบบหฤโหด มีกิจกรรมทุกคืน
มาถึงกนกรัตน์รีสอร์ทประมาณบ่ายสามโมง นัดเรือไว้สี่โมงเย็นไปเที่ยวอัมพวากันก่อน ตอนนั่งรอเวลาเรือออกก็เห็นคนเก้ๆกังๆอยู่คนนึง สงสัยไว้ก่อนว่าคงมาโครงการ “Facilitation Lab: ฝึกทักษะวิทยากรกระบวนการ” ของสถาบันพระปกเกล้าเหมือนเรา เจ๊หนิงก็ไปประกบ สัมภาษณ์เรียบร้อยตามประสาทีมงานนักสร้างเครือข่าย
พี่จิบอกว่า มาจากราชทัณฑ์ มาคนเดียว นั่งรถจากนนท์มาอนุสาวรีย์ชัยฯ นั่งรถตู้มาอัมพวา แล้วต่อตุ๊กๆมาที่กนกรัตน์รีสอร์ท เจ๊หนิงเลยชวนนั่งเรือเที่ยว ก็ใจง่ายครับ เรียบร้อยโรงเรียนจีน
พี่จิเป็นคนง่ายๆ แป๊บเดียวชนะใจทีมพิดโลกได้แล้ว วันนั้นเดินเที่ยว นั่งกินข้าวฟังเพลงตามประสา แต่ฝนตกเลยไม่ค่อยเห็นหิ่งห้อย
ช่วงอบรมวันแรกๆ พี่จิจะค่อนข้างเงียบ พูดน้อย แต่พอวันที่ 3 เป็นเรื่อง “กระบวนการยุติธรรมเชิงสมานฉันท์ Restorative Justice ” และ “รูปแบบการประชุมกลุ่มเยียวยา – Healing Conference” ของอาจารย์ประกายรัตน์ ต้นธีรวงศ์ มีโอกาสอยู่กลุ่มเดียวกับพี่จิ โดยพี่จิรับบทบาทเป็นผู้ประสานการประชุม ซึ่งต้องเล่นบทวิทยากรกระบวนการ หรือ Facilitator
มีอาจารย์หนึ่งรับบทนายเอ อายุ 14 ปีเศษ ผู้ร้ายปากแข็ง
พี่หนิงรับบทเด็กหญิงดาวผู้เสียหาย อายุ 13 ปี ถูกนายเอทำอนาจาร
อาจารย์อิ๋วรับบทแม่เดือน แม่ของเด็กหญิงดาว
พี่อึ่งรับบทแม่นายเอ
พระอาจารย์ประสิทธิ์ รับบทเป็นพระและนักจิตวิทยา
พี่ตึ๋งก็จำเป็นต้องรับบทเป็นครูใหญ่โรงเรียนที่เด็กทั้งสองเรียนอยู่
เรื่องมีอยู่ว่านายเอไปทำอนาจาร ดญ.ดาว แฟน ดญ.ดาวเลยมาทำร้ายนายเอ ครูใหญ่เลยไล่ ดญ.ดาว ออกจากโรงเรียนและไม่พอใจทางโรงเรียน มาต่อว่าครูใหญ่และอยากให้ไล่นายเอออกจากโรงเรียนและชดใช้ค่าเสียหายด้วย แต่ตกลงกันไม่ได้ จึงเป็นคดีมาสู่ศาล นายเอรับสารภาพ ศาลเห็นว่าเป็นการกระทำผิดครั้งแรกจึงสมควรให้ใช้กระบวนการยุติธรรมเชิงสมานฉันท์ (Restorative Justice) ในรูปของการประชุมกลุ่มเยียวยา (Healing Conference)
พี่จิทำหน้าที่ได้ดีมากๆ มีสติและนุ่มนวล ทั้งๆที่แต่ละคนในบทบาทสมมติจะเล่นได้สมหรืออาจเกินบทบาทบ้างก็ตาม พี่จิก็เอาอยู่สบายๆ จนนายเอ ผู้ร้ายปากแข็งยอมรับผิด ยกมือไหว้ขอโทษน้องดาวและคุณแม่เดือน
คุณแม่ของนายเอก็ยินยอมชดใช้ค่าเสียหายแต่บอกว่ายากจนจะหาเงินมาผ่อนให้ คุณแม่เดือนซึ่งโกรธครูใหญ่จะฟ้องครูใหญ่ด้วยอีกคน เพราะครูใหญ่ก็กวนได้ใจจริงๆ ลูกสาวเค้าถูกทำอนาจารยังไปไล่ลูกสาวเขาออกจากโรงเรียน ปล่อยนายเอคนทำอนาจารลอยนวล ถามเหตุผลก็อ้างระเบียบ อ้างมติคณะกรรมการสอบสวนไปโน่น ตามลักษณะข้าราชการที่ดี ยังยอมยกให้บอกว่าไม่ต้องชดใช้ก็ได้เพราะความนิ่มนวลใจเย็นของพี่จิ ทำให้เกิดบรรยากาศที่ดีในการพูดคุย
แผนที่จะกล่อมเกลาจิตใจให้มั่นใจว่าจะไม่กระทำผิดอีก นายเอสัญญาว่าจะไม่กระทำอีก หลวงพี่เสนอให้ไปช่วยงานที่วัด เดินตามหลวงพี่ตอนบิณฑบาต เพื่อจะได้กล่อมเกลาจิตใจ คุยไปคุยมานายเอก็ยอมบวชเณรเป็นเวลา 1 ปี และครูใหญ่ก็รับ ดญ.ดาว เข้าเรียนตามเดิม
พี่จิเป็นคนที่ดำรงตนเรียบง่าย จิตใจดีงามสัมผัสได้ ใจเย็น มีความนุ่มนวลทั้งกริยาท่าทางและน้ำเสียง มาอบรมช่วงสั้นๆก็เป็นที่รักของทุกๆคน แบบว่าตัวบุคคลพร้อมที่จะเป็นวิทยากรกระบวนการ ถ้ามาได้รับเครื่องมือ เรียนรู้กิจกรรมต่างๆเพิ่มเติมก็คงจะเป็นสุดยอดวิทยากรกระบวนการคนหนึ่ง ขอฝากเนื้อฝากตัวครับ อิอิ
( *** ใจมาก่อนกระบวนการ และ หมามันยังรู้ ใครรักมัน ? *** )
แน่ไม่แน่ พระอาจารย์ไกรวัลย์ถามคำถามไม่มีใครตอบได้ แต่พี่จิตอบได้ เช่น
พระอะไรข้ามสะพานไม่ได้…….ตอบ พระร่วง
พระอะไรตกตึก 10 ชั้นไม่ตาย ตอบ พะงาบๆ
คำถาม พระอะไรสาธุ พี่จิตอบว่า ภวันตุเต
เลยได้รางวัลเป็นหนังสือกาลานุกรม (ความจริงน่าจะให้พี่ตึ๋งเอาไปอ่านเพื่อให้จิตใจดีขึ้นกว่าเดิมนะ)
« « Prev : Facilitation Lab - สถาบันพระปกเกล้า – 7 การเลือกและเตรียมผู้เข้าร่วมกิจกรรม
Next : Facilitation Lab - สถาบันพระปกเกล้า – 9 เกมทายใจ » »
ความคิดเห็นสำหรับ "Facilitation Lab - สถาบันพระปกเกล้า – 8 พี่จิ - วิทยากรกระบวนการ"