Facilitation Lab -สถาบันพระปกเกล้า- 2
อ่าน: 3304หลังจากที่ปรับแนวคิด ปรับทัศนคติ ได้แล้ว ถ้าสนใจที่จะเป็นวิทยากรกระบวนการก็ต้องหาความรู้และฝึกฝนต่อไปอีก คงแบ่งออกเป็น 2 แนวทาง
1. Hard Side - เสื้อผ้าหน้าผม เครื่องมือต่างๆที่ใช้ (องค์ความรู้หรือชุดความรู้ที่วิทยากรกระบวนการพึงรู้) รวมทั้งการพัฒนาหลักสูตร ออกแบบการฝึกอบรมหรือกิจกรรมที่ต้องการ (Ice Breaking, ความคาดหวัง, กฎกติกา ฯ) การหาสถานที่ การคัดเลือกหรือสุ่มกลุ่มที่เข้าร่วมกิจกรรม การเตรียมกลุ่มก่อนการอบรม ฯลฯ
ชุดความรู้ที่วิทยากรกระบวนการพึงรู้ เช่น Dialogue (สานเสวนา หรือ สุนทรียสนทนา), Knowledge Management (การจัดการความรู้), World Café, Speed Dating, Open Space, Caravan ………
2. Soft Side - การพัฒนาด้านในหรือจิตใจของวิทยากรกระบวนการ รวมถึงการฝึกปฏิบัติและฝึกทักษะด้วย เพราะบางเรื่องเป็นเรื่องของปัญญาปฏิบัติ ไม่ทำเองไม่รู้ ไม่เข้าใจ มโนเอาเองก็ไม่ได้ เช่น
สติ หรือ Mindfullness บางคนก็ฟังบรรยาย อ่านตำรา จนจำได้หมด แต่ก็ไม่ค่อยขมีสติ เพราะขาดการฝึกปฏิบัติ
ฉันทามติ หรือ Consensus คืออะไรก็พูดๆกันไป อาจารย์ให้ทำประชาเสวนาหาทางออก (Public Deliberation) บอกว่าให้หลีกเลี่ยงการโหวตหรือลงคะแนนเสียง อาจใช้ sticker dot เพื่อจัดลำดับความสำคัญ…….เผลอแป๊บเดียว คุยกันว่าลงคะแนนลับดีหรือเปิดเผยดี
Dialogue (สานเสวนาหรือสุนทรียสนทนา) ก็เป็นเรื่องที่เข้าใจยากและต้องฝึกฝน ขนาด Guru บอกว่าถ้าได้มีโอกาสร่วมสนทนาในวงสนทนาที่ดีๆสัก 40 ครั้งก็จะเริ่มเข้าใจว่ามันคืออะไร? (ตอนนี้ก็ได้แค่ 39 ครั้งก็เลยยังไม่เข้าใจ อิอิ)
คนที่ ขาดการพัฒนา Soft Side เอาชุดวิชาและเครื่องมือต่างๆไปใช้ก็เหมือนคนที่ไม่มีกำลังภายใน ใช้วิชาหมัดมวยหรือวิชากระบี่ร่ายรำแต่ก็ขาดพลัง ย่อมทำงานไม่สำเร็จ
« « Prev : Facilitation Lab –สถาบันพระปกเกล้า - 1
Next : Facilitator Lab - สถาบันพระปกเกล้า–3 World Cafe » »
ความคิดเห็นสำหรับ "Facilitation Lab -สถาบันพระปกเกล้า- 2"