Pavilion ของชิลี (เซี่ยงไฮ้ ตอนที่ 3)
อ่าน: 1732อาศัยที่แบกกล้องถ่ายรูปไปด้วย ก็เลยใช้กล้องให้เป็นประโยชน์ เพราะบางครั้งจะจดอะไรก็ไม่ค่อยจะทัน
ตลอดทางที่เข้าชม Pavilion ของชิลี จะมีป้ายเล็กๆตามทาง ไม่สังเกตก็อาจจะไม่สนใจ แต่ก็แฝงอะไรๆไว้มากมาย เช่น
What is a city ?
Why do we rebuild cities over and over ?
If no one knows anyone… then why live in the same city?
Welcome to the city of relationships.
I live in a city to build a relationship with you.
เซี่ยงไฮ้ ตอนที่ 2
อ่าน: 2462ต่อจากบันทึกแรกครับ……
บันทึกที่เขียนอ่านคงไม่ค่อยสนุกเพราะไปประชุมตามคำเชิญของ UN-HABITAT ไม่ค่อยได้เที่ยวสักเท่าไหร่ การดู Pavilion ต่างๆก็ไปดูตามที่ผู้จัดกำหนดไว้ แบบมีวัตถุประสงค์เพื่อให้สอดคล้องกับการประชุม
เนื่องจากเวลาน้อยก็เลยได้ดูแค่ Pavilion of Future หรือ The Urban Dreams Pavilion แห่งเดียว เพื่อให้เห็นภาพของเมืองในอนาคตที่มนุษยชาติฝันเอาไว้ ซึ่งก็สอดแทรกความสัมพันธ์ของผู้คนในเมืองและในชนบท ผู้คนกับเมืองและธรรมชาติหรือโลก
เสร็จแล้วก็ต้องนั่งรถไฟฟ้า แล้วเดินไปนั่งรถไฟใต้ดิน ต่อรถประจำทางภายในงาน Expo อีกทอดนึงเพื่อไปดู Chile’s Pavilion หรือ Pavilion ของประเทศชิลี
(ภาพจาก website ของ ชิลี Pavilion )
Expo 2010 Shanghai China (1)
อ่าน: 12537งานนี้ได้รับเชิญจาก UN-HABITAT ไปร่วมประชุมภายใต้หัวข้อ “Linking Asian Cities to the UN” การประชุมจัดขึ้นที่ UN Paviloin ภายในงาน Expo
คำว่า Expo ย่อมาจาก Exposition แปลว่า การแสดงสินค้า นิทรรศการ คำอธิบาย คำชี้แจงอย่างละเอียด
โลโก้ของ Expo ครั้งนี้มาจากคำว่า Shi แปลว่าโลก เลยเอามาทำเป็นรูปคนสามคน (ฉัน เธอ และเขา ไม่ใช่ ก..ม..และ ม..) และปี คศ. 2010
พื้นที่จัดงานอยู่สองฝั่งแม่น้ำ Huangpo รวมพื้นที่จัดงานทั้งสิ้น 5.28 ตารางกิโลเมตร
มีประเทศเข้าร่วมในงานนี้ 192 ประเทศ และอีก 50 องค์กรระหว่างประเทศ
การจัดงานครั้งนี้ยิ่งใหญ่ในหลายๆแง่มุม เช่นใช้เงินลงทุนในการจัดงานนี้มากที่สุด มีการอพยพผู้คน 18,000 ครอบครัว โรงงาน 270 โรงงาน และท่าเรือ Jiang Nan ซึ่งมีคนงานราว 10,000 คนออกจากพื้นที่ มีการสร้างเส้นทางรถไฟใต้ดินใหม่อีก 6 สาย เพื่องานนี้ ฯลฯ
Theme ของการจัด Expo ครั้งนี้คือ Better City, Better Life
ยังมี Sub-Themes ดังนี้
- Blending of diverse cultures in the city
- Economic prosperity in the city
- Innovations of science and technology in the city
- Remodeling of communities in the city
- Interactions between urban and rural areas
ทั้งหมดก็อยู่ภายใต้ Core Concepts ของ Harmony in Urban Life
ซึ่งมุงหวังจะเชื่อมผู้คน เมืองและโลกเข้าหากัน
คณะผู้จัดได้ระดมสมอง ถกอภิปรายกันจนได้ข้อสรุปออกมาเป็น 5 แนวคิด ได้แก่ “Urban Dwellers”, “Urban Beings”, “Urban Planets”, “Urban Footprints” and “Urban Dreams” ซึ่งผู้จัดงานก็ได้เปิด Theme Pavilion ขึ้น 5 Pavilion ดังนี้
● The Urban Dwellers Pavilion
นำเสนอความสัมพันธ์ของผู้คนที่อาศัยอยู่ในเมืองและชนบท ผู้คนอพยพเข้ามาอาศัยอยู่ในเมืองมากขึ้นเรื่อยๆ
● The Urban Beings Pavilion
นำเสนอเรื่องราวของเมืองที่มีโครงสร้างซับซ้อนคล้ายสิ่งที่มีชีวิต
● The Urban Planets Pavilion
นำเสนอ สัดส่วนของประชากรที่อพยพเข้ามาอาศัยอยู่ในเมืองมากขึ้นๆ ผลกระทบระหว่างเมืองต่างๆกับสิ่งแวดล้อม และให้เห็นความสัมพันธ์ของผู้คน เมืองและโลก
● The Urban Footprints Pavilion
นำเสนอประสบการณ์และความเฉลียวฉลาดของมนุษยชาติ
● The Urban Dreams Pavilion หรือ Pavilion of Future
นำเสนอภาพอนาคตของเมืองและชีวิตที่ดีขึ้นในอนาคต
วันที่ 7 ตุลาคม ทาง UN ได้พาไปที่งาน Expo โดยรถบัส อันดับแรกก็พาไปที่ Pavilion of Future ซึ่งเป็นหนึ่งใน Theme Pavilion
ใน Pavilion นี้นำเสนอโดย digital book , งานศิลป์อีก 9 ชิ้น และภาพยนต์จอยักษ์ มีการนำเสนอการใช้เทคโนโลยีในอนาคต
(ในภาพเป็นโถส้วมที่สามารถวิเคราะห์ปัสสาวะ อุจจาระของแต่ละคนเพื่อบอกถึงความผิดปกติหรือโรคที่เกิดขึ้นในแต่ละคนได้)
(ในภาพแสดงเทคโนโลยีการวิเคราะห์และจดจำใบหน้าของผู้คน ใช้เบิกเงิน หรือใช้แทนกุญแจรถ)
…………Every World Expo will leave “intellectual and cultural heritages of humanity” for the posterity.
โปรดติดตามตอนต่อไป……..
คนละความหมาย
อ่าน: 13992พูดเรื่องเดียวกัน แต่ละคนอาจเข้าใจแตกต่างกัน เคยเขียนเรื่อง The Ladder of Inferrence ไว้
เช่น ปล่อยวาง ปลง วางเฉย
บางคนก็ตีความว่า ไม่ต้องดิ้นรนอะไร อยู่เฉยๆ อะไรจะเกิดก็เกิด แต่บางคนเห็นว่ามีอะไรควรทำก็ทำ มีอะไรต้องทำก็ทำ แต่ทำแบบใจสบายๆ ไม่ต้องเครียด ไม่ต้องทุกข์
อ่านต่อ »