เกม…ชีวิต

โดย freemind เมื่อ 22 พฤษภาคม 2010 เวลา 9:53 (เย็น) ในหมวดหมู่ ปรัชญา แนวคิด ชีวิต #
อ่าน: 2790

 

     นั่งดูหลานสาวสามใบเถา (12 ปี 10 ปี และ 6 ปี) ที่ต้องทนแกร่วอยู่บ้านต่อไป เนื่องจากกระทรวงศึกษาเลื่อนการเปิดภาคเรียนของเด็ก ๆ ออกไปอีก จนถึงต้นเดือนหน้า สังเกตเห็นว่าแย่งกันเล่นเกมคอมพิวเตอร์ทั้งวัน เล่นอย่างมุ่งมั่น สนุกสนาน และเอาจริงเอาจัง ไม่พูดไม่คุย และเกือบไม่ยอมหยุดทานข้าว คุยกับเด็ก ๆ ก็ได้ข้อคิดดี ๆ เหมือนกัน ฟังไปยิ้มไป

 

ถาม          เล่นเกมทั้งวัน รู้สึกเป็นไงบ้าง ไม่เบื่อเหรอ

สาว 1        ม่ายเบื่อ ชอบ หนุกดี…  สีหน้าค่าตาสนุกเมามันจริงตามที่ตอบ

สาว 2        ก็ดีกว่าอยู่ป่าว ๆ อ่ะ… คนนี้หน้าตาไร้อารมณ์แต่มือก็ยังกด ๆ

สาว 3        หนูเล่นตามเจ้… เจ้าคนเล็กสุด 6 ขวบตอบอย่างจริงจังที่สุด

 

ถาม          สมมุตินะ ว่าไม่มีเกมให้เล่น จะทำไง

สาว 1        เป็นไปไม่ได้หรอกที่จะไม่มีเกม หันมามองคนถามแปลก ๆ พูดอะไร เป็นไปไม่ได้

สาว 2        ไม่มีก็ไม่ต้องเล่น ไปทำอย่างอื่นก็ได้  สีหน้าเซ็งโลก เจ้าคนนี้เป็นสาวเครียดประจำบ้าน

สาว 3        บอกป่าป๊าให้ทำให้ใหม่สิค้า ง่าย ๆ เอง  ตัวเล็กอารมณ์ดีไม่มีปัญหา

  

ถาม          เกม คืออะไร ให้คำจำกัดความหน่อย

สาว 1        เกมคือการเล่นที่สนุก สร้างสรรค์ ตื่นเต้นเร้าใจที่สุด  หากขาด เกม คงขาดใจ  คำตอบจากเจ้าแม่เกมพันธุ์แท้

สาว 2        เกมก็เหมือนชีวิตคน ชีวิตคือเกม ไงล่ะ   โห โดนใจคำตอบสาวเครียดประจำบ้านคนนี้จัง

สาว 3        เกม ก้อ..คือเกมน่ะสิ โตป่านนี้แล้วยังไม่รู้อีก เมื่อไหร่จะหยุดถามค้า… เจ้าตัวเล็กดุคนถามเสียแล้ว

                 

        คุยกับเด็ก ๆ ก็มักได้อะไรดี ๆ อย่างนี้เสมอ…

        จะว่าไป เรามีชีวิต ก็เหมือนกำลังเล่นเกม ต่างมีต้นทุนมาไม่เท่ากัน (รูปร่างหน้าตา อาการ 32 ชาติตระกูล ฐานะ ฯลฯ) ต้องปฏิบัติตามกฎกติกาของการเกิดมาเป็นมนุษย์  มีกิจกรรมต่าง ๆ ที่คอยผลักดันให้เราต้องเล่นไปตามเกมกรรม ตอนเป็นเด็กต้องเป็นเด็กดี ตั้งใจเรียน ทำตามคำสั่งสอนของผู้ใหญ่ เรียนให้จบคณะดี ๆ  จะได้ทำงานดี ๆ มีเกียรติ เลี้ยงตัวเองได้ แล้วก็ต้องหาคู่ครองสักคนแต่งงาน มีลูกไว้สืบต่อวงศ์ตระกูล เลี้ยงลูกให้ดี … เข้าสู่วัฏจักรเดิม การใช้ชีวิตในแต่ละวันต้องต่อสู้ ตั้งเป้าหมาย ต้องมุ่งมั่น มีสมาธิในการใช้ชีวิต คล้ายการต้องระมัดระวังในการเล่นตามเกมข้างหน้าที่ท้าทายและบังคับเราอยู่

       แต่…เกมกรรมก็คงเกรงว่ามนุษย์จะเบื่อการมีชีวิตไปเสียก่อน เลยสร้างสิ่งต่าง ๆ ไว้ล่อใจ ให้เรามีเพื่อน ได้รับความสำเร็จตามขั้นตอนของชีวิต ได้พบเห็น ได้เรียนรู้  มีหนังมีละคร ดนตรีสุนทรีย์ให้เราผ่อนคลายอารมณ์  มีหนังสือดี ๆ ให้อ่าน  ได้พักผ่อนท่องเที่ยว คล้ายกับได้โบนัสในเกม คอยล่อใจให้เราสนุก ลิงโลดเมื่อชนะ ได้คะแนนสูงสุดของเกม

        อย่าว่าแต่เด็กเลยที่ “ติดเกม” ผู้ใหญ่เองก็ติดเกมกันทั้งบ้านทั้งเมือง ตามสำนักงานเกือบทุกที่ มีเวลาว่างเป็นต้องกดเข้าเกม เช่นที่เห็นบ่อย ๆ ก็ เกมปลูกผักปลูกหญ้ากันเป็นจริงเป็นจังทางเว็บ เพื่อนฝูงนัดไปเที่ยวค้างคืนต่างจังหวัดจะไม่อยากไป อิดออดเพราะจะไม่ได้ปลูกผัก เป็นห่วง… เออนะ เป็นไปได้ขนาดนั้น

 

        คิดไปคิดมาสองสามตลบ … ได้ข้อสรุปว่า มนุษย์ล้วนถูกล่อหลอกให้อยู่ใน “เกมกรรม” วนเวียนอยู่ใน “วัฎสงสาร” เรื่อยไป

 

        ชักจะเห็นจริง อย่างเจ้าตัวน้อยว่า “ชีวิตคนก็เหมือนเกม” นั่นแหละ วนเวียนเล่นไปไม่รู้จบ ความจริงแล้วไม่มีสาระแก่นสารที่แท้เลย

 

        คิดได้แล้ว บอกตัวเองว่า … อย่าไปเอาจริงเอาจังกับชีวิต ทั้งดีใจ เสียใจ โกรธ รัก โลภอะไรนักเลย สู้มาเร่งหาทางออกจาก “เกมกรรม” หรือ “วัฎสงสาร” กันดีกว่าไหม?

 

« « Prev : ปฏิบัติการค้นหา…ความสุข

Next : คนเดียว ก็เหลือจะพอ » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

2 ความคิดเห็น

  • #1 น้ำฟ้าและปรายดาว ให้ความคิดเห็นเมื่อ 23 พฤษภาคม 2010 เวลา 3:01 (เย็น)

    เห็นด้วยค่ะว่าควรหาทางออกจากเกมกรรมกันดีกว่าจะหลงติดเกมชีวิตโดยไม่รู้ว่ากำลังหลง…เพราะเกมชีวิตไม่สามารถ restart ได้ซะด้วยสิเนาะคะ จึงผลีผลาม เร่งร้อน สุกเอาเผากินไม่ได้เลย

  • #2 freemind ให้ความคิดเห็นเมื่อ 23 พฤษภาคม 2010 เวลา 9:14 (เย็น)

    สวัสดีค่ะคุณน้ำฟ้าและปรายดาว

    ชาวพุทธเชื่อว่า เราเกิดมาด้วย “กรรม” นั่นคือ ต้นทุน และเป็นสิ่งกำหนดการดำเนินไปของชีวิต
    หากเรายังสนุกและปรารถนาที่จะอยู่ในวัฎสงสาร เวียนเกิด เวียนตาย เราก็คงเล่นไปตามเกมกรรม … แต่ผู้ที่เบื่อหน่าย เพราะเห็นแล้วว่า การเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไปนี้ ไม่มีอะไรที่เป็นสาระเลย ท่านผู้รู้จึงพยายามบอกเราให้รู้จักวิธีออกจากวัฎจักรอันไม่มีที่สิ้นสุด ด้วยการไปสู่ “นิพพาน” ซึ่งเป็นทางเดียวเท่านั้นที่เราจะหลุดออกไปจากเกมกรรมอย่างสมบูรณ์

    เพียงแต่ว่า… มีคนจำนวนไม่มากนักที่อยากออกจาก “เกม” อย่างแท้จริง ส่วนใหญ่แล้วก็ยังเล่นเกมนี้อย่างรู้ตัวบ้าง ไม่รู้ตัวบ้าง ล้มลุกคลุกคลานกันไปเป็นที่น่าเวทนา


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่
You must be logged in to post a comment.

Main: 0.74023509025574 sec
Sidebar: 0.029295921325684 sec