เกม…ชีวิต
นั่งดูหลานสาวสามใบเถา (12 ปี 10 ปี และ 6 ปี) ที่ต้องทนแกร่วอยู่บ้านต่อไป เนื่องจากกระทรวงศึกษาเลื่อนการเปิดภาคเรียนของเด็ก ๆ ออกไปอีก จนถึงต้นเดือนหน้า สังเกตเห็นว่าแย่งกันเล่นเกมคอมพิวเตอร์ทั้งวัน เล่นอย่างมุ่งมั่น สนุกสนาน และเอาจริงเอาจัง ไม่พูดไม่คุย และเกือบไม่ยอมหยุดทานข้าว คุยกับเด็ก ๆ ก็ได้ข้อคิดดี ๆ เหมือนกัน ฟังไปยิ้มไป
ถาม เล่นเกมทั้งวัน รู้สึกเป็นไงบ้าง ไม่เบื่อเหรอ
สาว 1 ม่ายเบื่อ ชอบ หนุกดี… สีหน้าค่าตาสนุกเมามันจริงตามที่ตอบ
สาว 2 ก็ดีกว่าอยู่ป่าว ๆ อ่ะ… คนนี้หน้าตาไร้อารมณ์แต่มือก็ยังกด ๆ
สาว 3 หนูเล่นตามเจ้… เจ้าคนเล็กสุด 6 ขวบตอบอย่างจริงจังที่สุด
ถาม สมมุตินะ ว่าไม่มีเกมให้เล่น จะทำไง
สาว 1 เป็นไปไม่ได้หรอกที่จะไม่มีเกม หันมามองคนถามแปลก ๆ พูดอะไร เป็นไปไม่ได้
สาว 2 ไม่มีก็ไม่ต้องเล่น ไปทำอย่างอื่นก็ได้ สีหน้าเซ็งโลก เจ้าคนนี้เป็นสาวเครียดประจำบ้าน
สาว 3 บอกป่าป๊าให้ทำให้ใหม่สิค้า ง่าย ๆ เอง ตัวเล็กอารมณ์ดีไม่มีปัญหา
ถาม เกม คืออะไร ให้คำจำกัดความหน่อย
สาว 1 เกมคือการเล่นที่สนุก สร้างสรรค์ ตื่นเต้นเร้าใจที่สุด หากขาด เกม คงขาดใจ คำตอบจากเจ้าแม่เกมพันธุ์แท้
สาว 2 เกมก็เหมือนชีวิตคน ชีวิตคือเกม ไงล่ะ โห โดนใจคำตอบสาวเครียดประจำบ้านคนนี้จัง
สาว 3 เกม ก้อ..คือเกมน่ะสิ โตป่านนี้แล้วยังไม่รู้อีก เมื่อไหร่จะหยุดถามค้า… เจ้าตัวเล็กดุคนถามเสียแล้ว
คุยกับเด็ก ๆ ก็มักได้อะไรดี ๆ อย่างนี้เสมอ…
จะว่าไป เรามีชีวิต ก็เหมือนกำลังเล่นเกม ต่างมีต้นทุนมาไม่เท่ากัน (รูปร่างหน้าตา อาการ 32 ชาติตระกูล ฐานะ ฯลฯ) ต้องปฏิบัติตามกฎกติกาของการเกิดมาเป็นมนุษย์ มีกิจกรรมต่าง ๆ ที่คอยผลักดันให้เราต้องเล่นไปตามเกมกรรม ตอนเป็นเด็กต้องเป็นเด็กดี ตั้งใจเรียน ทำตามคำสั่งสอนของผู้ใหญ่ เรียนให้จบคณะดี ๆ จะได้ทำงานดี ๆ มีเกียรติ เลี้ยงตัวเองได้ แล้วก็ต้องหาคู่ครองสักคนแต่งงาน มีลูกไว้สืบต่อวงศ์ตระกูล เลี้ยงลูกให้ดี … เข้าสู่วัฏจักรเดิม การใช้ชีวิตในแต่ละวันต้องต่อสู้ ตั้งเป้าหมาย ต้องมุ่งมั่น มีสมาธิในการใช้ชีวิต คล้ายการต้องระมัดระวังในการเล่นตามเกมข้างหน้าที่ท้าทายและบังคับเราอยู่
แต่…เกมกรรมก็คงเกรงว่ามนุษย์จะเบื่อการมีชีวิตไปเสียก่อน เลยสร้างสิ่งต่าง ๆ ไว้ล่อใจ ให้เรามีเพื่อน ได้รับความสำเร็จตามขั้นตอนของชีวิต ได้พบเห็น ได้เรียนรู้ มีหนังมีละคร ดนตรีสุนทรีย์ให้เราผ่อนคลายอารมณ์ มีหนังสือดี ๆ ให้อ่าน ได้พักผ่อนท่องเที่ยว คล้ายกับได้โบนัสในเกม คอยล่อใจให้เราสนุก ลิงโลดเมื่อชนะ ได้คะแนนสูงสุดของเกม
อย่าว่าแต่เด็กเลยที่ “ติดเกม” ผู้ใหญ่เองก็ติดเกมกันทั้งบ้านทั้งเมือง ตามสำนักงานเกือบทุกที่ มีเวลาว่างเป็นต้องกดเข้าเกม เช่นที่เห็นบ่อย ๆ ก็ เกมปลูกผักปลูกหญ้ากันเป็นจริงเป็นจังทางเว็บ เพื่อนฝูงนัดไปเที่ยวค้างคืนต่างจังหวัดจะไม่อยากไป อิดออดเพราะจะไม่ได้ปลูกผัก เป็นห่วง… เออนะ เป็นไปได้ขนาดนั้น
คิดไปคิดมาสองสามตลบ … ได้ข้อสรุปว่า มนุษย์ล้วนถูกล่อหลอกให้อยู่ใน “เกมกรรม” วนเวียนอยู่ใน “วัฎสงสาร” เรื่อยไป
ชักจะเห็นจริง อย่างเจ้าตัวน้อยว่า “ชีวิตคนก็เหมือนเกม” นั่นแหละ วนเวียนเล่นไปไม่รู้จบ ความจริงแล้วไม่มีสาระแก่นสารที่แท้เลย
คิดได้แล้ว บอกตัวเองว่า … อย่าไปเอาจริงเอาจังกับชีวิต ทั้งดีใจ เสียใจ โกรธ รัก โลภอะไรนักเลย สู้มาเร่งหาทางออกจาก “เกมกรรม” หรือ “วัฎสงสาร” กันดีกว่าไหม?
« « Prev : ปฏิบัติการค้นหา…ความสุข
Next : คนเดียว ก็เหลือจะพอ » »
2 ความคิดเห็น
เห็นด้วยค่ะว่าควรหาทางออกจากเกมกรรมกันดีกว่าจะหลงติดเกมชีวิตโดยไม่รู้ว่ากำลังหลง…เพราะเกมชีวิตไม่สามารถ restart ได้ซะด้วยสิเนาะคะ จึงผลีผลาม เร่งร้อน สุกเอาเผากินไม่ได้เลย
สวัสดีค่ะคุณน้ำฟ้าและปรายดาว
ชาวพุทธเชื่อว่า เราเกิดมาด้วย “กรรม” นั่นคือ ต้นทุน และเป็นสิ่งกำหนดการดำเนินไปของชีวิต
หากเรายังสนุกและปรารถนาที่จะอยู่ในวัฎสงสาร เวียนเกิด เวียนตาย เราก็คงเล่นไปตามเกมกรรม … แต่ผู้ที่เบื่อหน่าย เพราะเห็นแล้วว่า การเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไปนี้ ไม่มีอะไรที่เป็นสาระเลย ท่านผู้รู้จึงพยายามบอกเราให้รู้จักวิธีออกจากวัฎจักรอันไม่มีที่สิ้นสุด ด้วยการไปสู่ “นิพพาน” ซึ่งเป็นทางเดียวเท่านั้นที่เราจะหลุดออกไปจากเกมกรรมอย่างสมบูรณ์
เพียงแต่ว่า… มีคนจำนวนไม่มากนักที่อยากออกจาก “เกม” อย่างแท้จริง ส่วนใหญ่แล้วก็ยังเล่นเกมนี้อย่างรู้ตัวบ้าง ไม่รู้ตัวบ้าง ล้มลุกคลุกคลานกันไปเป็นที่น่าเวทนา