วาดฟ้า วาดฝัน
อ่าน: 3171
“อยากจะวาดท้องฟ้า ก็วาดเถอะ
ถ้าทำเลอะก็จงลบและวาดใหม่
วาดอาทิตย์ส่องสว่าง ณ กลางใจ
ไล่ความมืดออกไปจากใจเธอ”
ชีวิตที่ปราศจากความฝัน ไม่กล้าคิด กล้าทำ กล้าหวัง คงหดหู่ ไร้สีสัน และไร้สุข ต้องฝันให้ไกล ฝันให้ใหญ่ อย่าหยุดฝัน คนที่ไม่มีความฝันก็คือ คนที่ “ตายแล้ว”
อ๊ะ ๆ งั้นต้องฝันทุกวันล่ะสินะ ไม่งั้นกลัวตกกระแส (โลกาภิวัตน์) ฝันวันละหลายอย่าง ฝันระยะสั้น ระยะกลาง ระยะยาว (เหมือนแผนงาน โครงการที่หน่วยงานทำเลยนะ)
อ้อ…ฝันแล้ว ก็ “ทำ” ด้วยล่ะ เอาแต่ฝัน ไม่ทำเลย เหมือนโครงการระดับชาติ (หน้า) หลายโครงการ
เอาล่ะสิ … ฝันแล้วทำแล้วประเมินผล ฝัน-ทำ-ประเมินผล ฝันใหม่-ทำอีก-ประเมินผล…เหมือนหนูถีบจักร เมื่อไหร่จะหยุดนะ (หยุดไม่ได้หรอก หยุดก็คือถอยหลังแล้ว)
เหนื่อยจัง…
พอตื่นขึ้นมาวันหนึ่ง ทำไมฟ้าก็เป็นสีเทาหม่น ๆ หมอง ๆ มัว ๆ ซึม ๆ โดยไม่รู้สาเหตุ ไม่อยากฝัน ไม่อยากทำ ไม่อยาก ๆ ๆ ๆ
ตำราทางจิตวิทยา/จิตเวช เรียกว่าอาการซึมเศร้า (Depressive episode) อย่างเบา ๆ ซึ่งทุกคนมีโอกาสที่จะพบเจอกับอาการนี้ได้ บอกว่าต้องหากิจกรรมดี ๆ ทำ พบปะผู้คน ออกไปนอกบ้าน คุยกับเพื่อน คิดบวก ๆ ๆ อย่าหมกมุ่นกับความคิดและสิ่งแวดล้อมเดิม… และอื่น ๆ อีกมากมายนับไม่ถ้วนวิธี (นอกจากการใช้ยา)
คุยกับหลวงพี่ (ที่เรียนด้วยกัน) ท่านบอกว่า เป็นอาการ “จิตตก” และสาเหตุที่แท้ของอาการนี้ก็คือ “การขาดสมาธิ” นั่นเอง
อ้อ… ที่ฟ้าเทา ๆ อารมณ์มัว ๆ ไม่รู้ต้นสายปลายเหตุก็เพราะเราขาดสมาธิหรือนี่?
หลวงพี่สอนต่อว่า จิตมันดิ้นรน ซัดซ่ายเพราะคิดหลายเรื่องมากเกินไป คิดมาก ๆ เข้า จิตก็เหนื่อย หมดกำลัง เลยจิตตก ให้พยายามตั้งมั่นกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งอย่างมุ่งมั่น จะเกิดสมาธิ จิตก็มีกำลังตั้งมั่นขึ้น เป็นการยกจิตไม่ให้ตกลงไป
อ้อ…เราต้องจิตตกแน่แล้ว ก็ยุงมันตีกันในหัวเราทุกวัน ๆ ๆ
พอได้คำตอบ… ก็ยิ้มได้ หาย “จิตตก” ในทันทีทันใดที่รู้สาเหตุ…อา…ได้รู้อีกอย่างว่า การได้ “คำตอบ” ก็ช่วยให้เรามุ่งมั่น มีสมาธิ หายจิตตกได้ด้วยนะ
ตั้งใจใหม่อีกที…
คราวนี้จะ “วาดฟ้าวาดฝัน” ก็วาดทีละหน้า ทีละตอน
ทีละเฟรมก็แล้วกันนะ