โลกแคบเข้าจนหายใจรดต้นคอ
เมื่อเช้าหนูกุลนที ร่ายกลอนมาเว้าวอนว่า ถึงมือไม่ยาวแต่ส่งใจยาวๆมาหากันได้ ถ้ า จ ะ จ ริ ง แ ฮ ะ .. หมู่นี้คนที่อยู่ไกลๆเดินทางมาพบปะกันอยู่เนืองๆ ต้นเดือนคณะญาติชาวเฮก็มา เมื่อวานนี้ญาติขอนแก่นพาอาจารย์ชาวต่างประเทศมาเที่ยวที่นี่..อีก 2-3วันจะมีญาติจากบางกอกมาอีก คนญาติเยอะก็ยังงี้ละเธอ..
ฝนตก น อ ก จ า ก ขี้ ห มู ไ ห ล แ ล้ ว ยังทำให้ผู้คนได้มาเจอกัน มาเพื่อจะดูสภาพสวนป่ายามฝนฉ่ำ แน่นอน..มันย่อมเขียวไสวไปทุกตารางเมตร ลุงBruceกับป้าBonnieจึงขอมาเยี่ยมสวนป่าพร้อมกับออต..มาแล้วก็แลกเปลี่ยนเรียนรู้หลายมิติ เมื่อคืนคุยกันพอสมควร กลางดึกฝนตกหนักยังกะฟ้ารั่ว แม่เจ้าประคุณเอ๋ยน้ำขังตามแอ่งเล็กแอ่งน้อย เลยนอนตะบอยเล่นเฟสบุคส์จนฟ้าสาง นึกว่าแขกยังไม่ตื่น ที่ไหนได้..คุณป้าBonnieใส่รองเท้าไปวิ่งกลับมาแล้ว มิน่าละอายุ80ยังดูแข็งแรงเหมือนคนอายุ60ปี ที่สำคัญไฟในตัวยังลุกโชนพร้อมที่จะลุยงาน ส่วนลุงBruceอ่อนระโหยโรยแรงตามวัย แต่จิตใจดีงามมาก สมเป็นจิตรกรอารมณ์ละเอียด
ถือกล้องถ่ายภาพละเมียดละไม ฉับ ฉับ.. ฉับหนึ่งก็ยิ้มทีหนึ่ง
คุณลุงบอกโชคดีมากที่ได้มาที่นี่
เดือนหน้าจะกลับออสเตรเลีย
ผมบอก..เคยไปเที่ยวเมืองจิงโจ้เกือบเดือน
เลยมีเค้าเอามาคุยกันสนุก
มื้อเช้าโฉมยงทำอาหารสมุนไพรผักเลี้ยง แนะให้เอาใบชะพลูห่อเครื่องเคียงกับน้ำยำชิมผักโน่นนี้หนุบหนับๆแซบไปตามกัน มีผักสดประมาณ10ชนิดเก็บเอาจากข้างบ้าน ชิมกับปลาป่น น้ำสลัดมะขาม มีผลไม้ให้เลือกหยิบผสม ระหว่างนั้นก็คุยกันเพลินเจริญอาหารแบบง่ายๆตำหรับสวนป่า อนึ่ง..หน้านี้นะเธอ ผักเจอฝนชุ่มฉ่ำก็งามกรอบๆๆ รสชาติของธรรมชาติล้วนๆ ไม่อร่อยได้ไง โดยเฉพาะคนที่ชอบรับประทานผักจะสะใจมาก คุณป้าBoonieติดใจ อยากจะหาเวลามาอยู่หลายๆวัน
ตอนสายๆผมพาเดินชมการเลี้ยงวัวด้วยใบไม้ ชี้ให้ดูวงจรสัตว์เลี้ยงที่เอื้อต่อธรรมชาติ วัวเป็นโรงงานผลิตปุ๋ยคอกขนไปใส่ผัก มะกรูด กล้วย เผือก สมุนไพร แปลงหญ้ายังเหลือเฟืออีกนะเธอ คำว่าเกษตรอินทรีย์มันมีหลายระดับ ถ้าไม่เตรียมต้นทุนทางธรรมชาติให้ดี เราก็จะควักกระเป๋าจนแฟบ!
ปีนี้มะกรูดหล่นวันละเข่ง
พี่แต๋วบอกว่าเอาที่ปั่นให้ไปถูตัว
ลองเอามาล้างจานสะอาดหมดจดมาก
เดือนหน้าจะมามาปั่นมะกรูดเอาไปไว้ใช้หลายๆถ้ง
ออกจากคอกวัว พาไปชมโรงเลื่อย โรงอัดอิฐดินซีเมนต์ ทั้ง2ท่านชอบมากที่เห็นแนวทางพึ่งตนเองแบบบูรณาการ ขี้เลื่อยยังเอาไปเผาถ่านไบโอชา หรือไม่ก็ขนใส่คอกวัวผสมเป็นปุ๋ยได้ดีของเหลือในธรรมชาติไม่มีตกค้างเป็นมลภาวะหรอกนะครับ แม้แต่วัชพืชที่คนงานไปตัดทำความสะอาดในแปลง ก็ขนมาใส่เครื่องสับเลี้ยงวัวให้อ้วนได้
พาไปชมต้นไม้สายพันธุ์ต่างๆ
ไปเจอเห็ดหูหนูขาวที่เกิดในธรรมชาติ
ช่วยกันเก็บ แ ล้ ว เ ดิ น ต่ อ
พ บ ว่ า ห น่ อ ไ ม้ ห ว า น ทุ ก ส า ย พั น ธุ์ กำ ลั ง ง า ม
พรุ่งนี้จะลองตัดหน่อไผ่หม่าจูมาต้มชวนคุณตวงชิมสักหม้อใหญ่
ออกจากเข้าป่าไผ่ พาออตไปดูแปลงวิจัยปลูกไม้เนื้อดีที่แนะให้ไปปลูกที่เมืองพล จะได้อธิบายเรื่องการสางกิ่ง ใส่ปุ๋ย และอาจจะต้องตัดต้นที่ปลูกชิดเกินไปกันออกไปบ้าง แวะชมปราสาทคุณชาย ชมอุโมงค์ นั่งคุยที่ลานร่มใจ หายเหนื่อยบุกสวนผัก ชมน้ำเต้า เผือกยักษ์ แค่นี้ก็สมควรแก่เวลาแล้วนะครับ
โ ฉ ม ย ง เ ต รี ย ม น้ำ ฟั ก ท อ ง ปั่ น ร่ ว ม กั บ ก ล้ ว ย ใ ห้ โ ด็ ป
ถ่ายรูปก่อนอำลา..ล า ที มิ ใ ช่ ล า ก่ อ น
อาคันตุกะคณะนี้จะต้องไปตระเวนโบราณสถานอีกหลายที
ก่อนที่จะเองวังในวันนี้ขออนุญาตชวนฉุกคิดว่า
เรื่องสุขภาพควรเรียงลำดับความสำคัญให้ในตอนต้นๆ ..
- การรับประทานอาหาร
- การออกกำลังกาย
- การพักผ่อน
- การฝึกสมาธิ
- การงาน/การกุศล
- การยิ้ม และ การคอมเมนท์
« « Prev : ตบ ใครอย่าคิดว่าไม่สำคัญ
Next : 2 พฤศจิกาฯไปช่วยจุฬาฯโย้นๆที่น่าน » »
ความคิดเห็นสำหรับ "โลกแคบเข้าจนหายใจรดต้นคอ"