โอะ..โอ๊ย..บอกใครไม่ได้

11 ความคิดเห็น โดย ป้าหวาน เมื่อ 14 พฤษภาคม 2009 เวลา 6:47 (เย็น) ในหมวดหมู่ เล่าสู่กันฟัง #
อ่าน: 1953

ต่อจากตอนที่แล้ว

นอกจากนั้นยังมีการเล่นตี่จับ ลงทุนทางลูกคอนิดเดียวไม่เสียตังค์ ได้มิตรอีกมากมายเพราะต้องไปช่วยเพื่อนที่ตกเป็นเชลยของอีกฝ่าย  เล่น กระต่ายขาเดียว  กระโดดจนเก่งกาจ ขาเดียวเลี้ยวไปมาได้ ไม่ใช่การฝึกร่างกายหรอกหรือ เด็กได้ฝึกทักษะการใช้ สายตา ใช้ส่วนต่างๆของร่างกายให้ประสานสัมพันธ์กัน  ได้ออกกำลังกายแบบประหยัด และ ได้พัฒนาทางด้านสังคมด้วย เพราะไม่ได้เล่นคนเดียวเหมือนเล่นคอม  เราเรียนรู้ที่จะมีเพื่อน  เรียนรู้ที่จะตกลงกันเมื่อคิดไม่เหมือนกัน  เรียนรู้ที่จะเสียสละ อดทน รอคอย ทุกอย่างสะสมมาแต่เรื่องเล็กๆ ทำให้มีทักษะในการอยู่ร่วมกัน  น่าเสียดายที่เดี๋ยวนี้เปลี่ยนไป เด็กในเมืองใหญ่ๆ  ไม่ได้เล่นกับเพื่อนบ้าน ต่างคน ต่างอยู่ เรียนหนังสือ เรียนพิเศษ กลับบ้าน เล่นคอม คุยกันทางคอม  ไปเจอกันเพื่อไปศูนย์การค้า ตกเป็นเหยื่อสิ่งยั่วยุต่างๆ

โอะ..โอ๊ย บอกใครไม่ได้…

เรื่องโอะ..โอ๊ย..เป็นเรื่องประจำตัว ที่พี่น้องล้อกันมาอีกนานแสนนาน  เรื่องมีอยู่ว่า ปิดเทอม พี่ๆอยู่บ้าน  น้องคนนี้ก็เลยสนุกเป็นพิเศษ เพราะมีเพื่อนเล่น พี่ไม่ต้องไป โรงเรียน น้องยังไม่เข้า โรงเรียน  เราเล่นกันอยู่ที่บ้าน แน่ใจว่า แม่ไม่ต้องเสียสตางค์สักบาทเดียวจากการเล่นของเรา ยกเว้นเรื่อง โอะ..โอ๊ย

วันนั้น เราหาอะไรใหม่ๆเล่นกัน  พี่ชาย สองคนออกความเห็นว่าเล่นกระดานหกดีกว่า  ตกลงเป็นเอกฉันท์  เราเอากระดานมาวางพาด มีอิฐอยู่ตรงกลางต้องกองให้อิฐสูงหน่อยจะได้มีแรงถีบตัวขึ้น  มีเพียงเท่านั้นก็เล่นได้สนุก  เพราะมันอยู่ที่คนเล่น ไม่ใช่ของเล่น เราผลัดกันขึ้นไปนั่ง ขย่ม ร้องเพลง ดีดกัน สนุกสนาน เท่านั้น น่าจะพอแล้ว

แต่มันยังไม่พอ สำหรับ 3 พี่น้องวันนั้น  พี่ชายบอกให้ป้าหวานซึ่งตัวผอมๆ แขนเล็กๆ ขึ้นไปยืนบนกระดาน ผลก็คือ ป้าหวานตกลงมาค่ะ  แล้วไม้กระดานก็ตีแขน  พี่ชายก็รีบมาอุ้ม  น้ำตาหยด แต่ไม่กล้าร้องเสียงดัง เดี๋ยววันหลังเขาไม่ให้เล่นด้วย  จากการตรวจของพี่ชาย บอกว่า ไม่เป็นไร  ไม่มีแผล ไม่มีเลือดออก แต่อย่างใด  เราเล่นกันตั้งแต่กลางวันแล้ว  จนตกเย็น ป้าหวานยังกุมแขนร้อง โอะ..โอ๊ย..เบาๆ  พี่มาถามก็  โอะ..โอ๊ย..เท่านั้น  จนค่ำ ทานข้าวแล้ว ก็ยังโอะ…โอ๊ย..แม่ถามว่าเป็นอะไร   ก็โอะ..โอ้ย..แต่ไม่บอกอะไร เพราะกลัวถูกทำโทษยกแก๊งค์ คืนนั้นทั้งคืนก็ โอะ ..โอ๊ย  เช้ามา แม่จึงต้องเรียกมาซักไซ้ไล่เลียงว่าเกิดอะไร ปรากฎว่า แม่ต้องพาไปหาหมอ  อิอิอิ  …แขนหัก… ต้องเข้าเฝือกเลย

เรื่องนี้  ทำให้รู้จักพอ รู้จักประมาณ อย่าประมาท และ รู้ว่า ไม่ควรปิดบังผู้ใหญ่เมื่อมีอะไรผิดพลาด ซนจนได้เรื่อง


เด็กเมื่อวันก่อนนั้น..นานมาแล้ว

9 ความคิดเห็น โดย ป้าหวาน เมื่อ 12 พฤษภาคม 2009 เวลา 6:38 (เช้า) ในหมวดหมู่ เล่าสู่กันฟัง #
อ่าน: 1330

 

ตอนเป็นเด็กๆ  เริ่มจำความได้บ้านอยู่ฝั่งธนค่ะ  ตอนนั้น ยังไม่เข้า โรงเรียนเลย รู้จักคำว่า วงเวียนใหญ่  แต่ไม่รู้หรอกว่า  ไม่ใช่ วงเวียนที่เป็นวงกลมอยู่หน้าหมู่บ้าน  รู้จักคำว่า ดอนเมือง แต่สับสนกับคำว่า ลอนดอน  เอ..มันเหมือนกันไหม  ไม่กล้าถามใครเลย…นั่นคือ ความรู้รอบตัวก่อนไป ร.ร.ของเด็กหญิงคนหนึ่ง ตอนนั้น

หน้าที่ประจำ  คอยจัดรองเท้าให้เป็นระเบียบ    รู้สึกเป็นหน้าที่ ที่น่าภาคภูมิใจ  หน้าคงจะเพิ่มขนาดเมื่อมีแขกมาแล้ว เห็นว่า รองเท้าได้จัดเรียงเป็นระเบียบ  เข้าแถวตรงเรียบ  ไม่มีล้ำเส้นแม้แต่น้อย  มาคิดทีหลังว่า นั่นคือการฝึกนิสัยให้มีระเบียบเรียบร้อย

นอกเหนือจากนั้น คือ เล่น 

เล่นปากระป๋อง  ก็คือ การเอากระป๋องทุกชนิดที่หาได้  มาวางเรียงกัน  มีการเปลี่ยนวิธีวางบ้าง เช่น วางบนที่สูง วางสับหว่างเยื้องๆกัน บังกันบ้าง  สลับขนาดสูงต่ำบ้าง วางตะแคง วางซ้อนกัน เทคนิดเยอะทีเดียว  แล้วก็เก็บกระสุน ก็คือ ก้อนหิน แถวๆนั้นจากนั้นไปยังที่ตั้งฐาน ซึ่งคือ โรงเก็บของ มีเสา และมีหลังคาแต่ไม่มีข้างฝา  แล้วแสดงความสามารถเฉพาะตัว  ผลัดกันปากระป๋อง ด้วยลีลาต่างๆนาๆ ที่ประดิษฐ์ คิดค้นกันสุดฤทธิ์  พร้อมกับ จินตนาการอันล้ำเลิศว่า  นั่นคือ เรือรบบ้าง ข้าศึกบ้าง  แล้วแต่วันนั้นจะเล่นเรื่องอะไร

เล่นปล่อยต๊อก  เราผลิตและออกแบบเครื่องเล่นเอง  ใช้แผ่นไม้ วางพาดบนก้อนอิฐ  แล้วใช้เหรียญปล่อยให้กลิ้งไป  เราก็จะมีเส้นขีดไว้  ห่างจากที่ปล่อยสัก 1 เมตร  วัดว่าใครจะปล่อยได้ใกล้แต่เหนือเส้นมากกว่ากัน  ใครปล่อยได้ต่ำกว่าเส้น ไม่ถึงเส้น เรียกว่าตกน้ำ  แปลว่า ตกรอบ ส่วนคนที่ใกล้เส้นที่สุดชนะ  เลยออกไปเหนือเส้นก็วัดตามระยะใกล้กว่า ชนะ

ยังมีการเล่นอีกหลายอย่าง แล้ววันหลังมาเล่าให้ฟังอีกค่ะ



Main: 0.40138602256775 sec
Sidebar: 0.84986996650696 sec