ตอนนี้ผมกำลังเรียนรู้เรื่องการตลาดข้าวอินทรีย์ โดยการซื้อเครื่องสีข้าวกล้องมาไว้ที่บ้าน เพื่อสีข้าวที่ปลูกเอง ไว้ทานเอง และแจกพรรคพวก
เครื่องสีข้าว ที่ช่วยแก้ปัญหาการทำนาของผมได้อย่างน้อย ๑๐ ประการ
ที่ผ่านมา ๒ ปีกว่าผมมีปัญหากับการหาที่สีข้าวกล้อง ที่
๑. หายาก
๒. แม้จะมีเขาก็ไม่ยอมสีให้ เพราะเขาซื้อใช้เฉพาะภายในกลุ่ม
๓. เมื่อยอมสีให้แล้ว มักเป็นข้าวซ้อมมือ ไม่เป็นข้าวกล้องจริงๆ
๔. สีแล้วมีกากมาก จะหุงทีไรต้องมานั่งเลือกกากออก
๕. ไม่ได้แกลบ ไม่ได้รำ เสียค่าเดินทาง และบริการที่แพงมาก
๖. ต้องสีครั้งละอย่างน้อยหนึ่งถุงปุ๋ย ที่มีจำนวนมากเกินกว่าจะทานได้ทัน นอกจากควาฃวามหอมจะลดลงตามเวลาหลังการสีแล้ว ยังต้องหาที่เก็บรักษากันมอด เพราะมอดชอบกินข้าวกล้อง
๗. จะต้องเดินทางไปสีข้าวไกล เสียเวลาและค่าใช้จ่าย สีไม่ได้ทันเวลา และความต้องการ จึงมักมีปัญหาขาดข้าวกล้องทานเอง อยู่บ่อยๆ
๘. จะแจกให้ใครก็ยาก เพราะเวลาพบกันบางทีก็ยังไม่ได้สี หรือเวลามีข้าวก็ไม่ได้พบ เลยเหมือนว่า ผมเป็นคนใจดำ มีของดีก็ไม่เคยแจกใคร
๙. ไม่ได้ข้าวหักที่ใช้หุงเลี้ยงสุนัขที่บ้าน ทำให้ต้องเสียเงินซื้อข้าวหักปีละหลายพันบาท และต้องไปซื้อถึงโคราช เพราะขอนแก่นไม่มีขาย
๑๐. ผิดหลักการทำนาอินทรีย์ที่นำวัสดุที่ควรปล่อยไว้ในนาออกไปจากระบบ โดยเฉพาะ แกลบ รำ และข้าวหัก
อ่านต่อ »