“สู้ไปก็แพ้” ควรจะทำอย่างไรดี?????

โดย แสวง เมื่อ 21 August 2008 เวลา 3:32 am ในหมวดหมู่ การศึกษา, การเรียนกรสอน, ปรัชญาชีวิต, เศรษฐกิจพอเพียง
อ่าน: 1273

ผมสรุปคำนี้มาจากหนังสือ

 ”ทัศนะว่าด้วยการเมืองและจริยธรรม” ของอาจารย์ป๋วย อึ๊งภากรณ์

ที่เป็นของขวัญ “เชิงปัญญา” จากท่านคอนดักเตอร์ “กุนซือ” ของเรานี่เอง

ท่านคอนดักเตอร์คงเกรงว่าผมจะฆ่าตัวตาย เพราะผมทำอะไรก็ไม่สำเร็จสักที

ปัญหานี้เป็นแบบที่อาจารย์ป๋วยประสพมาในช่วงปี ๒๕๑๖ และได้เขียนสรุปไว้ในประสบการณ์ของท่าน ในหนังสือเล่มนี้

พออ่านจบปุ๊บ ก็รีบรายงานให้นายทุน เอ้ย  เจ้าของหนังสือทราบผลว่า

ผมยังไม่คิดที่จะฆ่าตัวตายตอนนี้หรอก เพราะเคยคิดแล้ว ตั้งแต่สมัย ตุลาคม ๒๕๑๖

แต่ทำไม่สำเร็จ เพราะปัจจัยแวดล้อมไม่อำนวย

หาระเบิดไม่ได้

ตอนนั้นคิดเรื่องระเบิดพลีชีพครับ ไม่ทราบคิดได้ไง อาจจะสถานการณ์บังคับ และคิดอะไรไม่ออกมั้ง เลยคิดไปเรื่อยเปื่อย

แต่ก็มาติดที่ผมและเพื่อนๆหาระเบิดไม่ได้ เลยไม่ได้คิดต่อว่าถ้ามีระเบิดแล้วจะบุกฝ่าด่านหนวยรักษาความปลอยภัยของ “ทรราช” ไปถึงตัวได้อย่างไร

และครั้งนั้นเป็นครั้งเดียวที่ผมยอมตาย แบบคิดฆ่าตัวตาย ไม่รู้สึกเสียดายชีวิตเลยแม้แต่น้อย เมื่อคิดย้อนหลังก็แปลกใจตัวเองเหมือนกัน ว่าคิดได้ยังไง

การต่อสู้ที่รู้ทั้งรู้ว่า “มีโอกาสแพ้มากกว่าชนะ” นั้น อาจารย์ที่ปรึกษาตอนที่ผม”ศึกษา”ระดับปริญญาเอก ที่ออสเตรเลียบอกว่า ให้หยุดทำ

เพราะทั้ง ๕ ปีที่ผมไปอยู่ประเทศออสเตรเลีย ท่านสอนผมด้วย ๒ ประโยค

๑. ดีแล้ว ทำต่อไป (Well done, go ahead!) และ

๒. หยุดเถอะ ไปไม่รอดหรอก (You are fighting the losing battle!)

เท่านั้นจริงๆ

อุตส่่าห์ไปเรียนตั้ง ๕ ปี ได้จากอาจารย์มาแค่ ๒ ประโยค นอกนั้นหาเอาเอง

ไม่ทราบว่าคุ้มหรือเปล่า ทุกวันนี้ก็กำลังประเมินอยู่เลย

พอกลับมาเมืองไทย ก็มีโอกาสได้รับรู้ และเรียนรู้จาก นิทานชาดก “พระมหาชนก” ว่าชีวิตเราต้องสู้ ตามหน้าที่ โดยไม่จำเป็นต้องหวังว่าจะชนะ จึงจะสู้

ดังเช่น พระมหาชนกว่ายน้ำอยู่กลางทะเล ถึง ๗ วัน แบบไม่มีทีท่าว่าจะเห็นฝั่ง ก็ยังว่ายต่อไป จนต้องเป็นหน้าที่ของนางมณีเมขลา มาช่วยให้ขึ้นฝั่งได้

ทำให้ผมมีกำลังใจที่จะสู้ต่อไป แม้จะเป็นไม่มีแววว่าจะชนะ  (losing battle) ก็ตาม 

แต่…..ก็แปลกแต่จริง คือ

ทุกครั้ง เมื่อถึงยามคับขัน จะมีคนยื่นมือมาช่วยไว้ แบบ “เชิงประจักษ์ และ ปัจจัตตัง” คล้ายๆกับผมมี “นางฟ้า” คอยคุ้มครองดูแลอยู่ห่างๆ อย่างนั้นแหละ

และ “นางฟ้า” ก็ช่วยผมหลายเรื่องมาก เหลือคณานับ

เป็นแบบ “สิ่งที่รู้ได้ด้วยตนเอง” ปัจจัตตัง จริงๆ

ผมจึงใช้หลักแนวคิดตามรอยพระมหาชนก

ทำไปเรื่อยๆด้วยการคิดตรองดีที่สุดเท่าที่ทำได้ จะแพ้ชนะ ไว้ว่ากันทีหลัง

และ(แอบ)หวังว่า “นางฟ้า” จะแอบมาดูผม และมองเห็นผมว่ามีปัญหาอะไรอยู่บ่อยๆ

และคอยช่วยผมยามคับขัน ไม่ใช่แต่ไปเที่ยวเพลิน (แบบนางมณีเมฆขลา) จนผมเกือบจมน้ำตาย (แบบ “พระมหาชนก”)

ก็ได้แต่ภาวนา และทำดีที่สุดเท่าที่คิดออก ทำได้

แค่นั้นจริงๆ

ขอขอบพระคุณท่านคอนดักเตอร์ที่มาย้ำให้กำลังใจอยู่เรื่อยๆ

และ “นางฟ้า” ที่ไม่เคยทอดทิ้งผม

ผมจะทำแต่ความดี เพื่อตอบแทนพระคุณของท่าน ตามที่ท่านตั้งใจช่วยผม

สาธุฯ

 

 


1 ความคิดเห็น

  • #1 Sasinand ให้ความคิดเห็นเมื่อ 9 September 2008 เวลา 9:15 am

    ส่วนตัวดิฉัน มี 2 แบบค่ะ สำหรับเรื่องปัญหาทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับตัวเอง..
    1. สู้ๆๆๆ หากลยุทธ์ใหม่ไปเรื่อยๆ แต่ไม่ยอมแพ้ บางทีสู้แบบบู๊ หลายที สู้แบบอหิงสา บางทีสู้แบบเอาน้ำเย็นเข้าลูบ บางทีแกล้งโง่แกล้งเซ่อให้ตายใจ
    2.ถ้าดูแล้ว ไม่มีทางสู้ ก็เลิกสู้ หาทางออกแบบใหม่
    ทำให้แน่ใจกับตัวเองว่า ไม่มีทางตันจริงๆ ในชีวิตหรอกค่ะ


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.031906843185425 sec
Sidebar: 0.068928003311157 sec