Archive for กันยายน, 2009

กันยายน 11th 2009

เหตุที่ต้องกลับ กทม.

เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (6/9/52)  ประมาณตี2  เสียงโทรศัพท์มือถือมีเสียงดังขึ้นมา  ไม่ทันได้นึกอะไรเพราะยังงัวเงียอยู่มาก  แต่ก็รีบรับเพราะเวลานี้ไม่ควรมีใครโทรมาถ้าไม่จำเป็น

เป็นเสียงพี่สะใภ้คนที่4 บอกว่าพี่ชายคนที่3 กำลังเดินทางโดยรถทัวร์กลับจากเชียงใหม่เข้ากทม.  มีอาการชักและเข้าโรงพยาบาลระหว่างทางคือที่จ.กำแพงเพชร (หมายเหตุ:ที่บ้านนักการเมี่ยงเปิดร้านขายของส่งตจว.ลักษณะเป็นแบบ กงสี“(ไว้จะเล่าในคราวถัดไป ว่าคืออะไร จ้า) แล้วพี่ชาย3และ4 ก็จะออกไปเป็นเซลแมนออกขายและเก็บเงิน) 

ก็บอกพี่สะใภ้4ไปว่า  ขอให้สว่างอีกหน่อย  แล้วจะรีบขับรถออกไปดู (ตอนนั้นและตอนนี้ที่เขียนก็อยู่ที่ จ.พิษณุโลก)  แต่นอนก็นอนไม่หลับ  เอาไงดีหละนี่  ค่อย ๆ ขับรถไปละกัน(นึกในใจ)

พอขับเข้าเขตจ.กำแพงเพชร พี่สะใภ้4(ขอย่อหน่อยละกัน เพราะมีพี่สะใภ้ 1,2,3และ4 อ่ะ แหะ ๆ) โทรมาอีกบอกว่าเค้าย้ายด่วนมาที่รพ.ในนครสวรรค์แล้ว  ส่วนกระเป๋า ซึ่งมีเอกสารสำคัญต่าง ๆ ยังอยู่ที่ โรงพยาบาลแห่งแรกที่เข้า คือที่รพ.คลองขลุง (คือไปรพ.คลองขลุงก่อน แล้วย้ายไปที่รพ.ตัวเมืองกำแพงเพชร จากนั้นก็ไปนครสวรรค์)

ก็เลยว่าไม่เข้าแล้วกำแพงเพชร  แต่โทรไปที่รพ.คลองขลุงว่ากระเป๋ายังอยู่ที่โน่นใช่ไหม  ซึ่งทางรพ.คลองขลุงก็แจ้งว่า”ใช่”  และจะดูแลให้ (ต้องขอขอบคุณมาณ.ที่นี้ด้วยค่ะ)  ขับต่อไปจนถึงรพ.สวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์ ซึ่งเป็นรพ.ของรัฐ เพราะคิดว่าต้องส่งต่อมาที่นี่แน่ ๆ

เห็นรถพยาบาลป้ายทะเบียนกำแพงเพชร    อ้า!  ใช่แน่ ๆ    เข้าไปถามพนักงานขับรถ  เค้าบอกว่า  เค้ามารับคนกลับ ไม่ได้ส่งคน  ส่วนรถที่มาส่งคนรู้สึกว่าจะไปที่ รพ.รัตนเวช  ซึ่งอยู่เยื้อง ๆ กับ รพ.นี้

อ้าววววววว  ส่งไปรพ.นั้นได้ไงหว่า  จากรัฐ ไปเอกชนได้หรือ  หรือว่าพี่ชาย3(ย่ออีกเช่นเดียวกันเพราะมีพี่ชายคนที่ 1,2,3และ4 อ่ะค่ะ) จะรู้สึกตัวแล้ว  แล้วบอกให้ไป รพ.เอกชน (ที่บ้านจะทำประกันชีวิตกันทุกคนจ้า)

ก็ขับรถไป  ไม่ห่างกันนัก  ถามพยาบาลก็บอกว่ามีคนไข้มา  แต่ไม่รู้จักชื่อ    อ้าวววว เค้ายังพูดไม่ได้  แล้วมานี่ได้ไงหว่า (นึกในใจ)  ก็ได้แจ้งชื่อที่อยู่ให้ทาง รพ.ทราบ  จากนั้นถามอาการ  ซึ่งทางพยาบาลบอกว่า คงต้องผ่าตัดแน่ ๆ เพราะมีเลือดคั่งในสมองค่อนข้างโต

ผ่าก็ผ่า ฟร่ะ (นึกในใจ)  ค่าใช้จ่ายคงเป็นแสน  มา รพ.เอกชนซะด้วย  เพราะจะย้ายไปที่กทม.ก็เกรงไม่ทัน (โทรฯไปแจ้งพี่สะใภ้1 ซึ่งเป็นพยาบาลที่รพ.จุฬาเตรียมห้องไว้ให้เรียบร้อย)  ขณะนั้นพี่ชาย4 กำลังขับรถพาพี่สะใภ้3 มาที่จ.นครสวรรค์

ตัดสินใจผ่าตัดที่รพ.รัตนเวช จ.นครสวรรค์  ซึ่งก็ได้ถามไถ่ เรื่องค่าใช้จ่าย   ปรากฎว่า  เป็นการใช้สิทธ์ 30 บาทรักษา และที่ไม่ได้ไปรพ.ของรัฐในจ.นครสวรรค์เพราะว่าเป็นวันอาทิตย์  ซึ่งจะมีการติดต่อประสานงานกันระหว่าง2 รพ.นี้กรณีเป็นคนไข้ที่มีอาการทางสมอง     (โชคดีของพี่ชายเราไป  แหะ ๆ )  แต่อยู่ที่รพ.นี้ได้ไม่เกิน 3 วัน …..            เอ้า!  ไม่เป็นไร  แค่นี้ก็ดีจะแย่แล้ว  ………  

ห่วงความรู้สึกของอาป๊า(พ่อ) กะอาม้า(แม่)  ถ้ารู้ข่าวนี้กลัวว่าเค้าทั้ง2 จะตกใจ   ก็เลยโทรฯคุยกะพี่สะใภ้4 ว่าให้ค่อย ๆ บอกว่าพี่ชาย3 ไอและชัก หมอเลยให้ดูอาการ     ตอนแรกป่ะป๊า(พ่อ)เค้าก็คิดว่าพี่ชาย3 เป็น ไข้หวัด2009   ก็เลยปล่อยให้เค้าคิดอย่างนั้นไปก่อน  แต่เห็นพี่สะใภ้4บอกว่า อาป๊ากะอาม้า ทะเลาะกันใหญ่(ทะเลาะหรือเถียงกันถือเป็นเรื่องปกติเพราะที่บ้านจะค่อนข้างเสียงดังอยู่แล้ว แหะ ๆ  ) เรื่องเลี้ยงดูลูก   คือพี่ชายคนนี้เค้าทั้งดื่มเหล้าและสูบบุหรี่  ห้ามยังไงก็ไม่ฟัง (ตอนหมอผ่าตัดพบเม็ดเลือดในเส้นแอลกอฮอล์ล เอ๊ย! พบแอลกอฮอล์ลในเส้นเลือดอ่ะ แหะ ๆ )

เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา  ก็ย้ายไปที่รพ.จุฬาแล้ว  ก่อนหน้านั้นจะบอกป่ะป๊ายังไงดี  แต่เค้าก็ค่อย ๆ รู้แล้วหละว่าผ่าตัด  แต่นิดหน่อย    เอาหละหว่า  วันพุธป่ะป๊าเค้าจะไปเยี่ยม  ก็เลยบอกพี่สะใภ้4 ว่า ให้บอกป่ะป๊าด้วยว่า ตัวพี่ชาย3 จะมีสายระโยงระยางเล็กน้อยไม่ต้องตกใจนะ 

เนื่องจากที่บ้าน  พี่ชาย3 จะเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในการสั่งของส่งของในร้าน  เวลาออเดอร์(คำสั่งซื้อสินค้า)มา  ก็จะเป็นคนนี้แหละที่จัดการเป็นส่วนใหญ่   ป่ะป๊าก็เลยอยากให้นักการเมี่ยงกลับไปช่วยที่บ้าน(กทม.)  ซึ่งก็ได้บอกไปแล้วว่า เดี๋ยววันอังคารหรือพุธนี้(15หรือ16/9/52)จะรีบไป  ขอเคลียร์งานเพชรบูรณ์เล็กน้อย   แล้วจะไปอยู่ยาว (กะกลับมาเคลียร์งานที่เพชรบูรณ์กลางเดือน กะต้นเดือนครั้ง)

ห่วงป่ะป๊า  ว่าถ้าเห็นพี่ชาย3 จะตกใจมากไหม  แต่ก็โชคดีที่ค่อย ๆ บอกป่ะป๊าว่ามีการผ่าตัดนา มีสายหายใจนา(เครื่องช่วยหายใจ)  พอป่ะป๊าไปเยี่ยม เสร็จ   ก็โทรฯถามพี่สะใภ้4 ว่า  ป่ะป๊าเป็นไง   พี่สะใภ้4 บอกว่า  “อาป๊า บอกว่า ลื้อดูซิ อี(คำเรียกสรรพนามที่3ในที่นี้หมายถึงพี่ชาย3)ยังพยักหน้า อือ ๆ ออ ๆ อยู่ได้  อั๊วบอกลื้อแล้วว่า ไม่เข้าใจออเดอร์ตัวไหนก็ให้มาถามอี  อียังคุยได้นะ” 

555555555(เสียงหัวเราะของนักการเมี่ยง)   อืมมม  ป่ะป๊าจะให้ทำงานจนหยดสุดท้ายจริง ๆ  แต่เค้าคิดอย่างนี้ก็ดีแล้ว  จะได้รู้สึกว่าพี่ชาย3ไม่เป็นอะไรมาก  เดี๋ยวก็หายแล้วเนอะ     :)    

10 Comments »

กันยายน 10th 2009

แนะนำ ลานละเลง

  สวัสดี  ( ตามมารยาทไทย  “ไปลา มาไหว้” จ้า )

นักการเมี่ยง  มาขอร่วม(ไม้ร่วมมือ)เป็นชาวบล็อกด้วยสักคน

แนะนำตัวนะจ๊ะ

ชื่อ  ..  นักการเมี่ยง

เป็นชาว กทม.  ย้ายมาทำงานเป็นลูกน้องจอมป่วนที่พิษณุโลก เมื่อปลายปี 50  จากนั้นลาออกมาทำธุรกิจส่วนตัว (รับจ้างเก็บขยะ) ที่เพชรบูรณ์ เมื่อปลายปี 51

ปัจจุบัน  คาดว่าคงได้ป้วนไปเปี้ยนมา ระหว่าง กทม.-พิษณุโลก-เพชรบูรณ์ 

สำหรับ”ลานละเลง”แห่งนี้  ขอเป็นสถานที่ ที่ละเลงหลาย ๆ สิ่ง หลาย ๆ อย่าง ในชีวิตที่ประสบพบเห็น  ………………..    ด้วยคนนะค่ะ

ฝากเนื้อฝากตัว (((ทำท่าโค้ง ก้มหัวลง)))

นักการเมี่ยง

10 Comments »

กันยายน 10th 2009

บันทึกแรกของฉัน!

ยินดีต้อนรับสู่ลานปัญญา

  • ท่านได้สร้างบล็อกของท่านเองแล้วที่นี่
  • บันทึกนี้เป็นข้อความทดสอบ
  • ท่านสามารถเข้า Dashboard หรือ Site Admin เพื่อลบบันทึกนี้ออกได้
  • ขอแนะนำให้ท่านเขียนบันทึกแนะนำตัวเอง เพื่อทำความรู้จักกับสมาชิกอื่นๆ
  • คำแนะนำภาษาไทยอยู่ในบล็อกลานคู่มือบ้านลานปัญญา

ยินดีต้อนรับสู่ลานปัญญา

3 Comments »