ไปม.มหิดลรับเจ้าบุญเหลือกลับสู่อ้อมกอดของเจ้าดำ

โดย krutoi เมื่อ 24 กรกฏาคม 2009 เวลา 20:09 ในหมวดหมู่ สัตว์โลกผู้น่ารักและ ธรรมชาติ #
อ่าน: 1527

ตื่นเต้นยังกลับได้รางวัลอะไรก็ไม่รู้ ไปถึงโรงพยาบาล แจ้งว่ามาจ่ายค่าใช้จ่ายเพิ่ม

แถมบอกว่ามีลูกเรียนป.โทอยู่ที่นี่ ขอใช้สิทธิ์ เพื่อลดค่าใช้จ่าย 10 %

แต่ตลกมากๆ ที่เจ้าของสุนัข เป็นชื่อจริงของครูต้อย

 และแถมยังแนะนำให้เจ้าหน้าที่ซิกแซกเปลี่ยนชื่อเจ้าของเป็นลูกสาว

เพื่อใช้สิทธิ์ ค่ารักษา

นึกย้อนไปแล้วละลายใจ

คู่ชีวิตของครูต้อยบอกว่ามันจะลดไปซักกี่ตังกัน

ถือว่าทำบุญให้สุนัขไร้ญาติไป สรุปว่าไม่ขอลด

 และหยอดกระปุกรับบริจาคสำหรับสุนัขป่วย อีกเล็กน้อยตามกำลัง

คุณหมอผู้หญิงหน้าตาสวย น่ารักมาก เดินเข้ามา

ทักทายกันและตรวจสอบว่าเป็นเจ้าของบุญเหลือแล้ว

หมอก็พูดขึ้นว่า บุญเหลือยังผ่าตัดไม่ได้ ต้องรอให้โตอีกหน่อย

อีกอย่างเกล็ดเลือดต่ำ หมอให้ยาบำรุง และยารักษาอาการอักเสบ

 คิดว่าไม่นานจะดีขึ้น และกระดูกที่แตกบริเวณขาหลังจะสามารถสมานได้เอง

 ระหว่างอยู่ที่นี่หมอได้เข้าเฝือกให้และเพิ่งถอดออก  และก็เรียกไม่ถูกว่าหมอเรียกวิธีรักษาแบบนี้อย่างไร

ไม่ทันจำ เพราะใจอยากจะพูดกับหมอที่คุยทางโทรศัพท์ซึ่งเป็นหมอผู้หญิง

 จึงบอกหมอว่าอยากเจอหมอที่พูดโทรศัพท์กับครูต้อย หมอบอกว่า หมอเองค่ะ

ฉันถึงกับอึ้ง เพราะวันนั้นกับวันนี้ไม่เหมือนกันเลย พูดจาคนละแบบกับทางโทรศัพท์

แต่ก็ได้บอกหมอไปตรงๆว่าหมอพูดไม่ดีเลยนะคะ ในวันนั้น ทำให้เสียความรู้สึกจริงๆ

เจ้าของสุนัขนะไม่เหมือนกันทุกคนหรอก อีกอย่างฉันก็ไม่ใช่เจ้าของ

แต่เวทนามัน แล้วนี่จะทำอย่างไรดี

หมอบอกว่าเอากลับไปไว้ที่บ้านก่อนนะคะ

 แล้วอีก 7 วันให้พามาให้หมอดู

อีกอย่างจะได้ไม่ต้องเสียค่าที่พักสุนัข วันละ 180 บาท

บางทีมันอาจจะหายโดยไม่ต้องผ่าตัด เพราะยังอ่อนมาก ทุกอย่างอาจดีขึ้น

หมอบอกว่าไม่น่าเป็นห่วงแล้ว เพราะบุณเหลือขับถ่ายได้ดี

ฉันยังขอความเห็นจากหมออีกว่า

หากมันไม่ดีขึ้นแล้วเอามาผ่าตัดมันจะหายดีเป็นปกติสักกี่เปอร์เซ็น

 หมอบอกว่า ประมาณ 80 เปอร์เซ็น ถึงเกือบ100เปอร์เซ็น

ตกลงฉันเอามันกลับมาบ้าน  แวะซื้อกรงให้มันอยู่ ที่บ้านมีผ้าลูกไม้ใช้ทำม่านเหลืออยู่

ไม่ต้องไปซื้อมุ้งมาครอบกันยุง

 ก็เอามาคลุมกรงเพื่อไม่ให้ยุงกัด

เวลาผ่านไป ไม่เกิน 2 ชั่วโมง

เจ้าดำแม่ของลูกสุนัขก็มาแหงนหน้ามองลูกของมันไม่ส่งเสียงร้อง แต่แสดงอาการขอลูกคืน

ฉันเห็นแล้วตื้นตันใจที่แม่ลูกจะได้พบกัน นึกว่ามันจะลืมลูกของมันแล้ว

มันคงได้ยินเจ้าบุญเหลือร้องนั่นเอง

ฉันตัดสินใจร่วมกับพ่อบ้านว่าให้ลูกได้เจอแม่มันก่อน

เพื่อให้ความรักมันเป็นแรงขับให้บุญเหลือหายป่วย หายเจ็บ

ปรากฏว่าเมื่อเจ้าดำได้ลูกคืนมันกลับนำเจ้าบุญเหลือเข้าป่าไปเลย

 ไม่ออกมาให้เห็น ฉันนั่งน้ำตาไหล และคอยมันออกมา ประมาณ 1 ชั่วโมง

เห็นท่าว่ามันไม่คืนลูกให้แน่จึงกลับเข้าบ้าน ด้วยหัวใจที่เจ็บปวด สงสารทั้งแม่และลูก

 แต่สงสารเจ้าบุญเหลือมากกว่าเพราะมันจะต้องเจ็บปวดขณะเดินทางเข้าไปในป่าที่รกและไม่เรียบ

นึกหวั่นใจว่าว่ามันจะเจ็บหนัก แล้วคืนนั้นทั้งคืน ฉันก็นอนไม่หลับ

ได้ยินเสียงเจ้าบุญเหลือร้องเป็นระยะด้วยความเจ็บปวด

อาจถูกพี่ๆทับขา หรืออาจหิวนม และเจ้าดำคงไม่ให้ดูดนม มันจากแม่มันไป 6 วันเต็ม

คืนนั้นฉันนอนไม่หลับ จนถึงตี 4 ก็ออกไปดูมันใหม่ ปรากฏว่าเจ้าดำเอาบุญเหลือมาส่งให้

 เจ้าบุญเหลือเองก็ดีใจวิ่งมุดๆลากขามาหา ฉันป้อนยาแก้อักเสบ และย่าบำรุง

เอานมกับอาหารเม็ดให้มันกิน แล้วเอามันไปนอนในกรง

โดยเอากรงไปไว้ตรงเพิงร้าง ทางเข้าออกของเจ้าดำ เพื่อมันจะได้เห็นลูกมัน

แล้วก็ไปโรงเรียน แปลกที่ฉันไม่ง่วงเลย ไม่เพลีย และยังไปวิ่งออกกำลังกายตอนเย็นทุกวัน

ฉันต้องตื่นนอนแต่ตี 4 และนอนประมาณ ตี 2 เป็นอย่างนี้มา

ตั้งแต่รับบุญเหลือกลับมาจากโรงพยาบาลเมื่อวันอาทิตย์ที่แล้ว จนถึงวันนี้

บุญเหลือเริ่มจำได้ว่ามันจะต้องนอนในกรง และตี 4 จะต้องปล่อยให่มันอยู่กับแม่จนถึงสว่าง

ให้กินข้าว กินยา และให้เล่นกับพี่ๆประมาณ 30 นาที จึงจับเข้ากรง

และปล่อยออกมาวิ่งเล่นพูดคุยกับพี่ๆและแม่อีกครั้งในตอนเย็น และกลับเข้ากรงเป็นอย่างนี้ เพื่อมันจะได้พักผ่อนขา

ไม่ต้องวิ่งตามแม่ของมันตะลอนๆไป รอให้ขาหายดีแล้ว ฉันก็จะปล่อยให้มันเป็นอิสระเต็มร้อยเปอร์เซ็น

เสาร์อาทิตย์นี้ ฉันต้องพาบุเหลือไปพบหมออีกครั้งเมื่อตรวจเช็คร่างกาย

แต่พ่อบ้านต้องไปประชุมอบรมที่นครปฐม

จึงต้องเลื่อนวันไปในวันราชการหลังเลิกงานแล้วซึ่งยังไม่ได้กำหนดวัน

แต่ฉันแจ้งให้หมอทราบแล้วว่าอาจพามาล่าช้ากว่ากำหนดเล็กน้อย

อาการของบุญเหลือที่ฉันสังเกตพบคือ ขาข้างขวาบริเวณต้นขาเหมือกล้ามเนื้อมันห้อยมาแบบถ่วงๆ

สามารถเดินได้คล่องขึ้นแต่ยังต้องใช้ขาหน้าทั้งสองขายกลำตัวเกือบตลอดเวลาที่มันต้องเดิน

เย็นวันหนึ่งฝนตกลงมาหนัก ลูกๆอีกสองตัวของเจ้าดำ สามารถวิ่งหลบฝนทัน

แต่เจ้าบุญเหลือวิ่งไม่ทัน แม่ของมันจึงคาบบริเวณหลังคอ พาหลบฝน เป็นภาพที่น่ารักมาก

อีกวันหนึ่งฉันกลับจากโรงเรียนไม่พบบุญเหลือ

 คงมีใครเปิดกรงฉันจึงส่งเสียงร้องเรียกบุญเหลือๆๆๆ ปรากฏบุญเหลือมากันสองตัว

เป็นลูกตัวที่แข็งแรงของเจ้าดำทั้งสองตัวกระดิกหางเข้ามา ตัวหนึ่งสีดำมีสี่ตา

อีกตัวก็สีดำ แต่มีขนให้คางเหมือนแม่มัน สุนัขพันทางนี่หน้าตาตลกดี

 ชวนมองต่างจากพันธุ์แท้ๆที่ออกมาบล๊อกเดียวกัน

เมื่อห็นบุญเหลือ จึงเจ้าลูกสุนัขสองตัวนี้ว่า น้องเจ้าไปไหน

ประมาณ 5 นาทีฉันก็เห็นบุญเหลือมานั่งแหงนหน้ามองฉัน อยู่ด้านข้าง

และสังเกตเห็นเจ้าดำแม่ของมันยื่นอยู่ใกล้ๆ ฉันบอกเจ้าดำว่าต้องให้บุญเหลือกินยาตรงเวลานะ

ลูกของแกจะได้หายเร็วๆ อีกอย่างอย่าพาลูกเข้าไปในป่า เดี๋ยวเจ้ามังกรจะจับกิน

ฉันเดินไปอุ้มบุญเหลือมาป้อนยาใกล้ๆกรง และสังเกตเห็นบริเวณคอของมันมีรอยน้ำลายเป็นรูปปาก

 แสดงว่าเจ้าดำช่วยคาบพาบุญเหลือมาให้ฉันป้อนยาให้ อัศจรรย์จริงๆ

สุนัขสามารถรับรู้ภาษาคนได้จริงๆ แต่เสียดายที่คนไม่อาจเข้าใจภาษาของมัน เสียงร้องของมัน ก็เดาๆกันไป

ฉันรับรู้ว่าจิตคนสามารถถ่ายทอดความรู้สึกไปยังสุนัขได้ และฉันมักจะสื่อสารกับสุนัขด้วยสายตา และส่งจิตพูดกับมัน

 

« « Prev : วันหยุดที่ไม่เคยหยุดนิ่ง


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

4 ความคิดเห็น

  • #1 น้ำฟ้าและปรายดาว ให้ความคิดเห็นเมื่อ 24 กรกฏาคม 2009 เวลา 20:57

    เห็นด้วยว่าหมารับรู้และเข้าใจเราได้จริงๆค่ะ บางครั้งยังเคยนึกว่าใครบอกว่าคนฉลาด เรายังไม่รู้จักภาษาของสัตว์ตั้งหลายชนิด แต่สัตว์เหล่านั้นเข้าใจเราได้เสมอ

    บางทีภาษาต่างๆที่คนให้ความสำคัญมากมายนั้น คงลืมว่าในอดีตก่อนที่มนุษย์จะพูดได้ตามสำเนียงปัจจุบัน เราใช้ภาษาใจเป็นหลักนะคะ

    ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆ และดีใจที่บุญเหลือแข็งแรงขึ้นกว่าเดิมค่ะ …ขอบุญรักษาผู้ใจบุญนะคะ 

  • #2 bangsai ให้ความคิดเห็นเมื่อ 24 กรกฏาคม 2009 เวลา 23:38

    เขาอ่านเราออก จำ และรู้ว่านานจะทำอะไร
    เราซิไม่ค่อยเข้าใจเขาหากไม่สนใจจริงๆนะ
    แต่สันชาติญาณบอกเราเยอะจริงๆ

    อยากดูรูปเขาครับ

  • #3 krutoi ให้ความคิดเห็นเมื่อ 26 กรกฏาคม 2009 เวลา 9:37

    เรียนท่านbangsai ครูต้อยยังเอารูปบุญเหลือขึ้นโชว์ในลานนี้ไม่เป็นค่ะ
    แต่ดูได้จากบันทึกของkrutoiting ที่G2Kนะคะ

    http://gotoknow.org/blog/krutoiting/272391

    http://gotoknow.org/blog/krutoiting/275995
    บุณเหลือตัวสีน้ำตาลที่นอนตัวเดียวน้ำลายยืดนะค่ะ
    อีกอย่างที่เป็นปัญหาของครูต้อยคือการพิมพ์คำผิดมากมาย
    แต่เมื่ออ่านทบทวนแล้วอยากแก้ไข
    ก็ยังไปหาทางเข้าไปแก้ไม่ถูกค่ะ
    ขออภัยจริงๆ จะพยายามคลำหาทางดูนะคะ
    ขอบคุณค่ะ

  • #4 น้ำฟ้าและปรายดาว ให้ความคิดเห็นเมื่อ 27 กรกฏาคม 2009 เวลา 5:41

    เบิร์ดตอบเกี่ยวกับการนำรูปขึ้นลานฯอยู่ที่นี่ค่ะพี่ครูต้อย
    http://lanpanya.com/seasonschange/archives/231#comment-673


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.11181092262268 sec
Sidebar: 0.0094869136810303 sec