ไปม.มหิดลรับเจ้าบุญเหลือกลับสู่อ้อมกอดของเจ้าดำ

4 ความคิดเห็น โดย krutoi เมื่อ 24 กรกฏาคม 2009 เวลา 20:09 ในหมวดหมู่ สัตว์โลกผู้น่ารักและ ธรรมชาติ #
อ่าน: 1575

ตื่นเต้นยังกลับได้รางวัลอะไรก็ไม่รู้ ไปถึงโรงพยาบาล แจ้งว่ามาจ่ายค่าใช้จ่ายเพิ่ม

แถมบอกว่ามีลูกเรียนป.โทอยู่ที่นี่ ขอใช้สิทธิ์ เพื่อลดค่าใช้จ่าย 10 %

แต่ตลกมากๆ ที่เจ้าของสุนัข เป็นชื่อจริงของครูต้อย

 และแถมยังแนะนำให้เจ้าหน้าที่ซิกแซกเปลี่ยนชื่อเจ้าของเป็นลูกสาว

เพื่อใช้สิทธิ์ ค่ารักษา

นึกย้อนไปแล้วละลายใจ

คู่ชีวิตของครูต้อยบอกว่ามันจะลดไปซักกี่ตังกัน

ถือว่าทำบุญให้สุนัขไร้ญาติไป สรุปว่าไม่ขอลด

 และหยอดกระปุกรับบริจาคสำหรับสุนัขป่วย อีกเล็กน้อยตามกำลัง

คุณหมอผู้หญิงหน้าตาสวย น่ารักมาก เดินเข้ามา

ทักทายกันและตรวจสอบว่าเป็นเจ้าของบุญเหลือแล้ว

หมอก็พูดขึ้นว่า บุญเหลือยังผ่าตัดไม่ได้ ต้องรอให้โตอีกหน่อย

อีกอย่างเกล็ดเลือดต่ำ หมอให้ยาบำรุง และยารักษาอาการอักเสบ

 คิดว่าไม่นานจะดีขึ้น และกระดูกที่แตกบริเวณขาหลังจะสามารถสมานได้เอง

 ระหว่างอยู่ที่นี่หมอได้เข้าเฝือกให้และเพิ่งถอดออก  และก็เรียกไม่ถูกว่าหมอเรียกวิธีรักษาแบบนี้อย่างไร

ไม่ทันจำ เพราะใจอยากจะพูดกับหมอที่คุยทางโทรศัพท์ซึ่งเป็นหมอผู้หญิง

 จึงบอกหมอว่าอยากเจอหมอที่พูดโทรศัพท์กับครูต้อย หมอบอกว่า หมอเองค่ะ

ฉันถึงกับอึ้ง เพราะวันนั้นกับวันนี้ไม่เหมือนกันเลย พูดจาคนละแบบกับทางโทรศัพท์

แต่ก็ได้บอกหมอไปตรงๆว่าหมอพูดไม่ดีเลยนะคะ ในวันนั้น ทำให้เสียความรู้สึกจริงๆ

เจ้าของสุนัขนะไม่เหมือนกันทุกคนหรอก อีกอย่างฉันก็ไม่ใช่เจ้าของ

แต่เวทนามัน แล้วนี่จะทำอย่างไรดี

หมอบอกว่าเอากลับไปไว้ที่บ้านก่อนนะคะ

 แล้วอีก 7 วันให้พามาให้หมอดู

อีกอย่างจะได้ไม่ต้องเสียค่าที่พักสุนัข วันละ 180 บาท

บางทีมันอาจจะหายโดยไม่ต้องผ่าตัด เพราะยังอ่อนมาก ทุกอย่างอาจดีขึ้น

หมอบอกว่าไม่น่าเป็นห่วงแล้ว เพราะบุณเหลือขับถ่ายได้ดี

ฉันยังขอความเห็นจากหมออีกว่า

หากมันไม่ดีขึ้นแล้วเอามาผ่าตัดมันจะหายดีเป็นปกติสักกี่เปอร์เซ็น

 หมอบอกว่า ประมาณ 80 เปอร์เซ็น ถึงเกือบ100เปอร์เซ็น

ตกลงฉันเอามันกลับมาบ้าน  แวะซื้อกรงให้มันอยู่ ที่บ้านมีผ้าลูกไม้ใช้ทำม่านเหลืออยู่

ไม่ต้องไปซื้อมุ้งมาครอบกันยุง

 ก็เอามาคลุมกรงเพื่อไม่ให้ยุงกัด

เวลาผ่านไป ไม่เกิน 2 ชั่วโมง

เจ้าดำแม่ของลูกสุนัขก็มาแหงนหน้ามองลูกของมันไม่ส่งเสียงร้อง แต่แสดงอาการขอลูกคืน

ฉันเห็นแล้วตื้นตันใจที่แม่ลูกจะได้พบกัน นึกว่ามันจะลืมลูกของมันแล้ว

มันคงได้ยินเจ้าบุญเหลือร้องนั่นเอง

ฉันตัดสินใจร่วมกับพ่อบ้านว่าให้ลูกได้เจอแม่มันก่อน

เพื่อให้ความรักมันเป็นแรงขับให้บุญเหลือหายป่วย หายเจ็บ

ปรากฏว่าเมื่อเจ้าดำได้ลูกคืนมันกลับนำเจ้าบุญเหลือเข้าป่าไปเลย

 ไม่ออกมาให้เห็น ฉันนั่งน้ำตาไหล และคอยมันออกมา ประมาณ 1 ชั่วโมง

เห็นท่าว่ามันไม่คืนลูกให้แน่จึงกลับเข้าบ้าน ด้วยหัวใจที่เจ็บปวด สงสารทั้งแม่และลูก

 แต่สงสารเจ้าบุญเหลือมากกว่าเพราะมันจะต้องเจ็บปวดขณะเดินทางเข้าไปในป่าที่รกและไม่เรียบ

นึกหวั่นใจว่าว่ามันจะเจ็บหนัก แล้วคืนนั้นทั้งคืน ฉันก็นอนไม่หลับ

ได้ยินเสียงเจ้าบุญเหลือร้องเป็นระยะด้วยความเจ็บปวด

อาจถูกพี่ๆทับขา หรืออาจหิวนม และเจ้าดำคงไม่ให้ดูดนม มันจากแม่มันไป 6 วันเต็ม

คืนนั้นฉันนอนไม่หลับ จนถึงตี 4 ก็ออกไปดูมันใหม่ ปรากฏว่าเจ้าดำเอาบุญเหลือมาส่งให้

 เจ้าบุญเหลือเองก็ดีใจวิ่งมุดๆลากขามาหา ฉันป้อนยาแก้อักเสบ และย่าบำรุง

เอานมกับอาหารเม็ดให้มันกิน แล้วเอามันไปนอนในกรง

โดยเอากรงไปไว้ตรงเพิงร้าง ทางเข้าออกของเจ้าดำ เพื่อมันจะได้เห็นลูกมัน

แล้วก็ไปโรงเรียน แปลกที่ฉันไม่ง่วงเลย ไม่เพลีย และยังไปวิ่งออกกำลังกายตอนเย็นทุกวัน

ฉันต้องตื่นนอนแต่ตี 4 และนอนประมาณ ตี 2 เป็นอย่างนี้มา

ตั้งแต่รับบุญเหลือกลับมาจากโรงพยาบาลเมื่อวันอาทิตย์ที่แล้ว จนถึงวันนี้

บุญเหลือเริ่มจำได้ว่ามันจะต้องนอนในกรง และตี 4 จะต้องปล่อยให่มันอยู่กับแม่จนถึงสว่าง

ให้กินข้าว กินยา และให้เล่นกับพี่ๆประมาณ 30 นาที จึงจับเข้ากรง

และปล่อยออกมาวิ่งเล่นพูดคุยกับพี่ๆและแม่อีกครั้งในตอนเย็น และกลับเข้ากรงเป็นอย่างนี้ เพื่อมันจะได้พักผ่อนขา

ไม่ต้องวิ่งตามแม่ของมันตะลอนๆไป รอให้ขาหายดีแล้ว ฉันก็จะปล่อยให้มันเป็นอิสระเต็มร้อยเปอร์เซ็น

เสาร์อาทิตย์นี้ ฉันต้องพาบุเหลือไปพบหมออีกครั้งเมื่อตรวจเช็คร่างกาย

แต่พ่อบ้านต้องไปประชุมอบรมที่นครปฐม

จึงต้องเลื่อนวันไปในวันราชการหลังเลิกงานแล้วซึ่งยังไม่ได้กำหนดวัน

แต่ฉันแจ้งให้หมอทราบแล้วว่าอาจพามาล่าช้ากว่ากำหนดเล็กน้อย

อาการของบุญเหลือที่ฉันสังเกตพบคือ ขาข้างขวาบริเวณต้นขาเหมือกล้ามเนื้อมันห้อยมาแบบถ่วงๆ

สามารถเดินได้คล่องขึ้นแต่ยังต้องใช้ขาหน้าทั้งสองขายกลำตัวเกือบตลอดเวลาที่มันต้องเดิน

เย็นวันหนึ่งฝนตกลงมาหนัก ลูกๆอีกสองตัวของเจ้าดำ สามารถวิ่งหลบฝนทัน

แต่เจ้าบุญเหลือวิ่งไม่ทัน แม่ของมันจึงคาบบริเวณหลังคอ พาหลบฝน เป็นภาพที่น่ารักมาก

อีกวันหนึ่งฉันกลับจากโรงเรียนไม่พบบุญเหลือ

 คงมีใครเปิดกรงฉันจึงส่งเสียงร้องเรียกบุญเหลือๆๆๆ ปรากฏบุญเหลือมากันสองตัว

เป็นลูกตัวที่แข็งแรงของเจ้าดำทั้งสองตัวกระดิกหางเข้ามา ตัวหนึ่งสีดำมีสี่ตา

อีกตัวก็สีดำ แต่มีขนให้คางเหมือนแม่มัน สุนัขพันทางนี่หน้าตาตลกดี

 ชวนมองต่างจากพันธุ์แท้ๆที่ออกมาบล๊อกเดียวกัน

เมื่อห็นบุญเหลือ จึงเจ้าลูกสุนัขสองตัวนี้ว่า น้องเจ้าไปไหน

ประมาณ 5 นาทีฉันก็เห็นบุญเหลือมานั่งแหงนหน้ามองฉัน อยู่ด้านข้าง

และสังเกตเห็นเจ้าดำแม่ของมันยื่นอยู่ใกล้ๆ ฉันบอกเจ้าดำว่าต้องให้บุญเหลือกินยาตรงเวลานะ

ลูกของแกจะได้หายเร็วๆ อีกอย่างอย่าพาลูกเข้าไปในป่า เดี๋ยวเจ้ามังกรจะจับกิน

ฉันเดินไปอุ้มบุญเหลือมาป้อนยาใกล้ๆกรง และสังเกตเห็นบริเวณคอของมันมีรอยน้ำลายเป็นรูปปาก

 แสดงว่าเจ้าดำช่วยคาบพาบุญเหลือมาให้ฉันป้อนยาให้ อัศจรรย์จริงๆ

สุนัขสามารถรับรู้ภาษาคนได้จริงๆ แต่เสียดายที่คนไม่อาจเข้าใจภาษาของมัน เสียงร้องของมัน ก็เดาๆกันไป

ฉันรับรู้ว่าจิตคนสามารถถ่ายทอดความรู้สึกไปยังสุนัขได้ และฉันมักจะสื่อสารกับสุนัขด้วยสายตา และส่งจิตพูดกับมัน

 



Main: 0.014274120330811 sec
Sidebar: 0.029714822769165 sec