โครงการพระราชประสงค์หุบกระพง

โดย จอมป่วน เมื่อ 25 กันยายน 2011 เวลา 15:50 ในหมวดหมู่ จอมป่วน #
อ่าน: 3145

วันที่ 25 สิงหาคม 2554  เวลา 14.00-16.00 น.

คุณสมบัติ ตันติสังวรากูล  ผอ. ศูนย์สาธิตสหกรณ์โครงการหุบกระพง กรมส่งเสริมสหกรณ์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์  เป็นผู้มาต้อนรับและเล่าเรื่องราวของโครงการให้ฟัง

 

 หุบกะพง

หุบกะพงตั้งอยู่ในท้องที่ตำบลเขาใหญ่ และตำบลชะอำ อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี อยู่ห่างจากจังหวัดเพชรบุรี 40 กิโลเมตร และอยู่ห่างจากเขตอำเขตอำเภอหัวหิน 34 กิโลเมตร  มีเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 12,500 ไร่ 

ความเป็นมาของโครงการ

เมื่อปี พ.ศ. 2507 พระองค์ทรงเสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมเยียน และดูแลทุกข์สุขของราษฎร  ในวโรกาสนั้น พระองค์ได้ทราบถึงความเดือดร้อนของเกษตรกรกลุ่มชาวสวนผักชะอำ จำนวน 83 ครอบครัว ว่าขาดแคลนทุนทรัพย์ที่จะนำไปประกอบอาชีพ  ให้กู้ยืมไปลงทุน เป็นจำนวนเงิน 3 แสนบาท ภายหลังไม่ปรากฏผู้ใดนำเงินจำนวนที่กู้ยืมไปทูลเกล้าถวายคืนแก่พระองค์ท่านเลย  เพราะเช่าที่ทำกินคนละ 2 ไร่  ไม่เพียงพอ  จึงทรงจัดหาที่ดินที่หุบกะพง 25,000 ไร่ ซึ่งเป็นที่แห้งแล้งมาทำเป็นศูนย์เรียนรู้  พัฒนาระบบสหกรณ์  ให้ความสำคัญกับองค์ความรู้โดยได้รับความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญจากประเทศอิสราเอล

ใช้การทำเกษตรแผนใหม่  โดยให้ที่ทำกินครอบครัวละ 25 ไร่  เริ่มที่ 2 ครอบครัว  คือครอบครัวจากกลุ่มเกษตรกรสวนผักชะอำและอีกครอบครัวจากเกษตรกรเดิมที่ทำกินอยู่ในเขตโครงการ  ให้กู้ยืมครอบครัวละ 10,000 บาทเป็นทุนในการประกอบอาชีพเพื่อหาข้อมูลด้านรายได้ รายจ่าย  ความเหมาะสมในการใช้แรงงานในครอบครัวกับพื้นที่ที่จัดให้ทำกิน  การปลูกพืชที่ใช้น้ำชลประทาน  ใช้น้ำฝน  สินเชื่อและการตลาด  ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์การเกษตร  ปัญหาด้านสังคมเกษรกร ฯ 

ในปี 2511 จึงขยายผลให้กลุ่มปลูกผักชะอำ 82 ครอบครัวและกลุ่มเกษตรกรที่ทำเกษตรอยู่เดิมอีก 46 ครอบครัวเข้าอาศัยและทำประโยชน์ในพื้นที่ที่จัดสรรให้ครอบครัวละ 25 ไร่  จัดให้ปลูกพืชอาศัยน้ำชลประทาน 7 ไร่ และอีก 18 ไร่ ให้ปลูกพืชไร่อาศัยน้ำฝนตามธรรมชาติ และโครงการได้ให้กู้ยืมเงินครอบครัวละ 6,000 บาท แบ่งเป็นค่าใช้จ่ายในการปลูกบ้านเรือน 1,500 บาท ส่วนที่เหลืออีก 4,500 บาท เป็นค่าใช้จ่ายสำหรับวัสดุการเกษตร และค่าใช้จ่ายในครอบครัว

ทรงแก้ปัญหาเรื่องน้ำ  โดยจัดให้มีการใช้น้ำจาก 3 แหล่งคือจากน้ำฝน  จากการสูบน้ำขึ้นที่สูงแล้วปล่อยมาตามระบบท่อ  และจากเครือข่ายอ่างเก็บน้ำที่เชื่อมต่อกันด้วยระบบท่อซึ่งค่าใช้จ่ายค่อนข้างต่ำ

ในแนวคิดดังกล่าวจะเป็นการรวมตัวในระบบสหกรณ์ที่จะร่วมกันคิด  ร่วมทำและร่วมพัฒนา  ทำให้ชุมชนเข้มแข็ง  การรวมตัวเป็นสหกรณ์ทำให้มีอำนาจในการต่อรองทั้งการจัดซื้อสิ่งขิงจำเป็นต่อชีวิตและการเกษตร  การขายผลผลิต  มีการฝากเงินและระบบการกู้ยืมเงิน

ทรงศึกษา  ทดลองทำ  นำไปปฏิบัติแล้วขยายผล  มองทั้งหมดในภาพรวมและทำงานอย่างเป็นระบบ

ที่ดินก็ไม่ให้เป็นกรรมสิทธิถือครองแต่ให้ใช้ไปชั่วลูกชั่วหลาน  แต่ก็ยังมีการเปลี่ยนมือกัน  พระองค์ท่านก็ทรงมีพระบรมราชวินิจฉัยให้แก้ปัญหาอย่างประนีประนอม  คือถ้ามีการเปลี่ยนมือก็จะเปลี่ยนสภาพเป็นผู้เช่า

บทเรียนจากการศึกษาดูงานโครงการพระราชประสงค์หุบกะพง

ในการทำงานให้มองภาพรวมของงานทั้งหมด  แล้วทำอย่างเป็นระบบอย่างสอดคล้องกัน  ไม่แยกส่วนทำ

ให้ความสำคัญกับองค์ความรู้  เริ่มจากการศึกษา  ทดลองทำ  ปฏิบัติแล้วจึงขยายผล

โครงการของพระองค์ท่านที่ให้ที่ทำกินชั่วลูกชั่วหลานยังมีการเปลี่ยนมือ  จึงไม่น่าแปลกใจกับการบุกรุกทำลายป่า

  

Post to Facebook Facebook

« « Prev : เรือนจำชั่วคราวเขากลิ้ง

Next : ถอดบทเรียนการศึกษาดูงานภาคกลาง » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

ความคิดเห็นสำหรับ "โครงการพระราชประสงค์หุบกระพง"

ไม่มีความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.17697405815125 sec
Sidebar: 0.083322048187256 sec