ศาสนเสวนาของจริง

โดย จอมป่วน เมื่อ 1 สิงหาคม 2011 เวลา 21:39 ในหมวดหมู่ จอมป่วน #
อ่าน: 1956

เสียดายที่พระศรีคัมภีรญาณไม่ว่าง  ไม่ได้มาพบปะพูดคุยด้วย  อาจารย์วินัย สะมะอุนก็มีธุระ  หลังเบรคเช้าก็เข้ามาพบปะพูดคุยพักหนึ่ง  เลยเหลืออาจารย์นริศ มณีขาวแต่ผู้เดียว

เริ่มเปิดรายการโดยเจ้าเก่า พันเอก เอื้อชาติ หนุนภักดี นายทหารประจำกรมข่าวทหารบก

ถาม ชอบเรื่องค้างคาวกับนกเงือกมาก  แต่ในความเป็นจริงต้างคาวจะอยู่เป็นฝูง  มีความหลากหลายเหมือนภาพจริงของสังคม  แล้วผลจะเป็นอย่างไร?

ตอบ เด็กแว๊นในสังคมมีมาก มีคนรำคาญในโรงเรียนก็คว้าปืนออกมา จะจัดการกับเด็กแว๊น  ต้องใช้กระบวนการที่ซับซ้อนมากขึ้น

วันที่ 10 เมษายน 2553 กรณีชุมนุม  แยกเหลืองแดง  ทีมงานสันติอาสาซึ่งเป็นทีมงานที่ทำงานเงียบๆ จัดพูดคุย ให้รับฟังกันเพือหาความต้องการ ก็ลดความรุนแรงลงได้

ในวันที่ 10 เมษายน  สันติอาสาเจรจาทั้ง 2 ฝ่าย  ทหารกับผู้ชุมนุม  ผู้ชุมนุมก็สามารถกลับบ้านได้เพราะความต้องการคือความปลอดภัย  น่าจะช่วยได้  มีคนกลับบ้านอย่างปลอดภัยประมาณ 1,000 คน

นฤมล ศิริวัฒน์ สมาชิกวุฒิสภา

นฤมล (Small)

ถาม กรณี Oslo ความสูญเสียมาก  คนที่สูญเสียรู้สึกว่าการเยียวยา-วิธีลงโทษในประเทศนอร์เวย์เบาเกินไป  รู้สึกไม่เป็นธรรม

ตอบ การเจรจาน่าจะช่วยได้ เพื่อเยียวยา  ทำให้เกิดความพึงพอใจ

ถาม กฏหมายไม่ให้ประหารชีวิต  ประเทศเชื่อในการไม่ใช้ความรุนแรง  เลยทำให้สั่นคลอนทั้งระบบ  เป็นโจทย์ใหม่

ตอบ ทำอย่างไรให้สังคมปลอดภัย การลงโทษน่าจะเหมาะสม?   ประเทศที่พัฒนาแล้วเช่นที่อเมริกาก็มีเหตุการณ์แบบนี้บ่อย

แสดงว่าสังคมป่วย  มีความรู้สึกว่าไม่ปลอดภัย  จะทำอย่างไรดี?

อาจเป็นเพราะเราไปสนใจเรื่องเศรษฐกิจ  ไม่ได้สนใจความสุขมวลรวมของประชาชาติเหมือนภูฎาน  ต้องหาตัวชี้วัดไว้ด้วย

ประเทศไทยจะพัฒนาตรงนี้ได้อย่างไร?

พวกเราจะช่วยกันทำตรงนี้ได้อย่างไร ?  เพื่อลูกหลาน

ผู้ใหญ่ยังมีปัญหา  ยังยิงกัน ฆ่ากัน  แล้วจะไปสอนเด็กๆได้อย่างไร?

พี่นฤมล ก็มีคนสนับสนุนคนที่ก่อเหตุ

อาจารย์นริศ ไปทางใต้  ผู้คนก็เจ็บปวด  ต้องให้มีเวทีพูด เพื่อแสดงความต้องการ

คำพูดอาจรับยาก  แต่ก็อาจจะแสดงความต้องการออกมาได้

ต้องเปิดพื้นที่  หาความต้องการ  แล้วจะรู้ว่าจะทำอย่างไร?

พี่นฤมล ต้องหาความต้องการของผู้ก่อเหตุ

พันเอก ดร. พิเชษฐ คงศรี นายทหารปฏิบัติการกองบัญชาการกองทัพไทย

ถาม เมื่อเกิดความขัดแย้งแล้ว  วิธีการจัดการและเยียวยาเป็นปลายเหตุ  สถานการณ์ของสังคมไทยในปัจจุบันมีความขัดแย้งที่ควบคุมไว้  ในศาสนาคริสต์มีมาตรการป้องกันความขัดแย้งไหม?

ตอบ ศาสนา  ถ้าใส่ใจตอบโจทย์ความต้องการของผู้อื่นได้ก็จะไม่เกิดความขัดแย้ง

กานต์ ยืนยง กรรมการผู้อำนวยการ บจ. สยามอินเทลลิเจนซ์ ยูนิต

1-8-2554 20-58-26

แสดงความคิดเห็น ผู้ก่อเหตุเขียน e-book ร้อยกว่าหน้า ได้ดาวน์โหลดมาอ่านแล้ว  มีระบบความคิดที่ซับซ้อน  เขารู้สึกว่าโลกถูกครอบงำโดยมาร์กซิสม์  ฝ่ายซ้าย  สังคมพหุนิยม  แล้วจะถูกครอบงำโดยมุสลิม  ผู้ก่อเหตุยอมรับชะตากรรม

อาจารย์นริศ ความต้องการของผู้ก่อเหตุ ต้องการปกป้องชุมชน ผู้คน  ต่อต้านภาครัฐ  ความต้องการสวยงาม  แต่การกระทำรุนแรง รับไม่ได้  การปกป้องมีหลายแบบให้เลือก

มีคนต่อต้านศาสนา  มองว่าต้องการอิสระ

สิงห์ชัย ทุ่งทอง สมาชิกวุฒิสภา

1-8-2554 21-13-01

แสดงความคิดเห็น ภูฏานคล้ายชนเผ่าหนึ่ง  ต่อไปคงเป็นแค่เรื่องเล่า  เราดูภายนอกคล้ายกับมีความสุข

ภูฏานเหมือนแมวที่คิดว่าตัวเองมีความสุข  ที่อาจารย์พูดเป็นทฤษฎี  แต่สังคมไทยปัจจุบัน  พยายามหา Content แล้วนำไปสู่คน 60 ล้านคน  จะทำอย่างไร?

ยุคใหม่ สื่อจะเป็นเครื่องมือที่จะทำให้แนวทางปฏิบัติไปสู่คน 60 ล้านคน

สังคมไทยลืมเอาสิ่งที่มีประโยขน์มาใช้

นักศึกษามาเรียนจะเข้าใจ  แต่คน 60 ล้านคนจะเข้าใจไหม?

รัฐบาลจะนำสิ่งนี้ลงสู่ประชาชนได้อย่างไร?  ต้องอาศัยสื่อ  ผ่านประเพณี วัฒนธรรมและศิลปะ

พวกเราต้องร่วมกัน  ถ้ามุ่งไปทางตะวันตกคงไม่ใช่คำตอบ  ยังมองไม่เห็นว่าองค์กรไหนจะทำ ? ทั้งๆที่มีองค์ความรู้มากมาย

สถาบันพระปกเกล้าควรเป็นคนนำเสนอรัฐบาล

อาจารย์นริศ การรณรงค์ร่วมกันในการต่อต้านสงคราม 25 ล้านคนทั่วโลกเป็นเครือข่ายนักสันติวิธีทั่วโลก  ผ่าน Social Media

พลตำรวจตรี อรรถพันธ์ พรมณฑารัตน์ รองนายแพทย์ใหญ่ โรงพยาบาลตำรวจ

รับหน้าที่มาขอบคุณอาจารย์  พระศรีคัมภีรญาณไม่มี  อาจารย์ตึ๋งเล็กเลยอ่านเอกสารแล้วสรุปแทนพระศรีคัมภีรญาณ

…….บุคคลที่ขัดแย้งกันจะโกรธกัน  เป็นกิเลส  มีวิธีบริหารความโกรธ 9 วิธี

  1. เมื่อรู้สึกโกรธ ให้ระลึกถึงโทษของความโกรธ
  2. เมื่อรู้สึกโกรธ ให้ระลึกถึงความดีของเขา
  3. เมื่อรู้สึกโกรธ ให้รู้เสียด้วยว่า “โกรธคือทำทุกข์ให้ตนเอง”
  4. เมื่อรู้สึกโกรธ ให้พิจารณาว่า “มนุษย์ทุกผู้ตัวตนมีกรรมเป็นของตน”
  5. เมื่อรู้สึกโกรธ ให้ระลึกบุพพจริยา(การทำความดีครั้งอดีต)ของพระพุทธองค์
  6. เมื่อรู้สึกโกรธ ให้ระลึกถึงความเกี่ยวข้องสัมพันธ์กันในวัฏฏสงสาร
  7. เมื่อรู้สึกโกรธ ให้พิจารณาอานิสงส์เมตตา
  8. เมื่อรู้สึกโกรธ ให้ใช้วิธีพิจารณาตัวคนโดยแยกธาตุ
  9. เมื่อรู้สึกโกรธ ให้ทำทานสังวิภาค คือให้สิ่งของแก่คนที่โกรธและรับสิ่งของจากคนที่โกรธ

แถมด้วยให้ดูกาละเทศะก่อนใช้คำพูด  แต่ได้ยินเสียงแว่วๆว่า  บ่ายโมงแล้ว….หิว…..  อิอิ

Post to Facebook Facebook

« « Prev : “ศาสนเสวนา:สันติวิธีในวิถีชีวิต” (2)

Next : พระมหากษัตริย์ไทยกับสันติวิธี » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

ความคิดเห็นสำหรับ "ศาสนเสวนาของจริง"

ไม่มีความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.045482873916626 sec
Sidebar: 0.036283016204834 sec