“ศาสนเสวนา:สันติวิธีในวิถีชีวิต” (2)
อ่าน: 2163ประเด็นร้อนๆในการปฏิรูปประเทศไทยคือการสร้างความเป็นธรรม
ยุทธศาสตร์ลดความเหลื่อมล้ำทั้ง 5 มิติ
- รายได้
- สิทธิ
- โอกาส
- อำนาจ
- ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์
“สันติจะไม่เกิด ถ้าไม่มีความเป็นธรรม”
การปฏิรูปการเมืองต้องเปลี่ยนความสัมพันธ์เชิงอำนาจ กลุ่มที่พลังอำนาจมีอยู่สามกลุ่มคือ
- กลุ่มคนกลไกรัฐ คือข้าราชการ ตำรวจ ทหาร
- กลุ่มทุน
- ประชาชนทั่วไป
กลุ่มกลไกรัฐและกลุ่มทุนผลัดเปลี่ยนกันเป็นผู้ปกครอง ประชาชนซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศกลับไม่มีอำนาจเลย
ปฏิรูปการเมืองต้องเปลี่ยนความสัมพันธ์เชิงอำนาจ?
ถ้าเราต้องการปฏิรูปการเมือง เราต้องปรับเปลี่ยนความสัมพันธ์ทางอำนาจที่ต้องทำให้ภาคประชาชนนั้นมีดุลย์ อำนาจใกล้เคียง หรือไม่แตกต่างกันมากกลับอำนาจของกลไกรัฐและอำนาจของทุนภาคประชาชน มวลชนจะต้องเป็นกลไกอำนาจตัวหนึ่งที่สามารถดุลย์ ถ่วง คาน งัดกับกลไกรัฐและทุนได้ ในปัจจุบันกลุ่มคนกลไกรัฐที่มีทหาร ตำรวจ ข้าราชการทั้งหลายก็จับมือกับกลุ่มทุน จะเห็นว่ากลุ่มทุนนั้นอำนาจมากมายมหาศาลอยู่แล้ว บางครั้งทั้งสองอำนาจนี้ก็ปะทะกัน บางครั้งก็ประสานกัน และยิ่งซับซ้อนขึ้นอีก เมื่อกลุ่มทุนแบ่งเป็นสองซีก อีกกลุ่มหนึ่งร่วมมือกับกลไกรัฐ ขณะเดียวกันกลุ่มทุนอีกกลุ่มก็ร่วมมือกับกลไกรัฐอีกกลุ่มหนึ่ง กลายเป็นสองซีกที่แต่ละซีกมีทั้งทุนและกลไกรัฐจับมือกันอยู่ทั้งสิ้น จากนั้นก็พยายามที่จะผลักดันใช้ประชาชนมาหนุนตนเอง แล้วก็สร้างปรากฏการณ์ต่างๆ ในนามประชาชน
ณรงค์ เพ็ชรประเสริฐ http://thaireform.in.th/
อาจารย์เล่าให้ฟังถึงประสบการณ์ที่ไปพบเด็กชาวม้งกินข้าวกับน้ำ กินข้าวกับเกลือ ไม่เคยเจอไข่เจียว น่องไก่ทอด
มีกรณีของการที่ระยองปล่อยก๊าซ Carbon dioxide 75% ของทั้งประเทศ แต่ชาวเขาปล่อยแค่ 4% ถูกจับติดคุก 150 ปี ถูกปรับกรณีทำให้เกิดก๊าซ Carbon dioxide เป็นเงินค่าปรับ 150 ล้านบาท
สังคมขาดความเข้าใจคนที่มีความคิดเห็นแตกต่างจากเรา ไม่ทราบว่าเขาคิดอย่างไร? อยากได้อะไร?
Marshall B. Rosenberg มีข้อสงสัยอยู่ว่า
- เพราะเหตุใดมนุษย์จึงถูกตัดขาดจากความกรุณาอันเป็นธรรมชาติพื้นฐานของมนุษย์ และหันไปใช้ความรุนแรงกับผู้อื่น
- แล้วเพราะเหตุใดมนุษย์บางคนยังคงไว้ซึ่งความกรุณา แม้ว่าเขาจะอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายเพียงใดก็ตาม
จึงค้นหาจนได้คำตอบว่าพื้นฐานของมนุษย์ต้องการความรัก ความเข้าใจ สันติ มิตรภาพ ความมั่นคง และการดูแลเอาใจใส่
นักสันติวิธีทำหน้าที่เป็นคนกลางที่จะทำให้คนที่ขัดแย้งกันทราบความต้องการในส่วนลึกของแต่ละฝ่าย ทำให้ได้ยินกัน
ในการเจรจากัน ต่างฝ่ายต่างไม่สามารถบอกความต้องการส่วนลึกของตนเองได้ อีกทั้งยังไม่สามารถทราบและเข้าใจความต้องการของอีกฝ่าย จึงเป็นหน้าที่ของนักสันติวิธีที่ต้องมีทักษะ ทำให้ทุกฝ่ายได้ยิน เข้าใจ รับรู้ความต้องการของอีกฝ่าย
เช่นฝ่ายหนึ่งแค่ต้องการความปลอดภัย ไม่ต้องการใช้ความรุนแรง อีกฝ่ายอาจต้องการความเท่าเทียมกัน หรือต้องการความจริง ความชัดเจน
หลังจากพักเที่ยงก็เป็นรอบที่ 2
อ.วินัย สะมะอุน
ในศาสนาอิสลามสอนไว้…
- ต้องพยายามรู้จักซึ่งกันและกัน แม้จะแตกต่างกัน พระเจ้าได้สร้างเผ่าพันธ์ที่แตกต่างกันเพื่อให้มารู้จักกัน
- ห้ามไม่ให้เกลียดชังซึ่งกันและกัน เพราะเป็นเหตุให้ไปประทุษร้ายต่อผู้อื่นและทำให้ไม่เป็นธรรม
- ไม่ให้ข่มเหง ดูถูกดูแคลนซึ่งกันและกัน เพราะจะทำให้เกิดความหวาดระแวง
ถ้าติดตามดูข่าวอาจเห็นว่ามุสลิมชอบความรุนแรง แต่ศาสนาสอนให้คนอยู่ร่วมกันอย่างสันติ ความขัดแย้งเป็นเรื่องอื่น เป็นเรื่องการเมือง ไม่ใช่สาเหตุจากศาสนา
อ.นริศ มณีขาว
ถ้าเรายึดเอาเงิน อำนาจ และการได้รับการยกย่องเป็นเป้าหมาย เราก็คิด ใช้ชีวิตและทำงานไปแบบหนึ่ง
แต่ถ้าเป้าหมายของเราเป็นความรักต่อพระเจ้า ความรักต่อเพื่อนมนุษย์และความรักต่อธรรมชาติ เราก็จะคิดต่างออกไป ใช้ชีวิตและทำงานต่างไปจากเดิม โดยใช้เงิน อำนาจและการยกย่องเป็นเครื่องมือและวิธีการ ไม่ใช่เป็นเป้าหมาย
อาจารย์พยายามเน้นให้เห็นความสำคัญของการค้นหาความต้องการ
คำทักทายภาษาฮีบรู ทักทายกันด้วยคำว่า Shalom ซึ่งแปลว่า ขอให้ปลอดภัย
ความต้องการของคนภาคใต้ ต้องการความปลอดภัย ความสงบสุข
บทบาทของศาสนา
- ให้วิธีคิด
- ให้ย้อนมองตัวเอง
- ให้แบบอย่าง - แนวปฏิบัติ
- เตือนสติ - ให้เข้มแข็ง
- เป็นไปเพื่อประโยชน์สุขของเพื่อนมนุษย์
อาจารย์ยกตัวอย่างของสามีภรรยาที่ทะเลาะกันมานานถึง 39 ปี เริ่มทะเลาะหลังแต่งงานกันได้ 6 เดือน เพราะภรรยาเขียนเช็คเกินบัญชี สามีเลยคุม ไม่ให้เขียนเช็คอีก เลยทะเลาะกันเพราะเรื่องนี้มา 39 ปี
นักสันติวิธีบอกว่าสามารถจัดการเรื่องนี้ได้ภายใน 20 นาทีหลังจากที่ทั้งสองคนสามารถบอกได้ว่าแต่ละฝ่ายต้องการอะไร?
จะทะเลาะกันด้วยเรื่องอะไรก็ตาม คนกลางหรือนักสันติวิธีต้องพยายามหาความต้องการให้ต่างฝ่ายต่างเข้าใจกัน
บางครั้งความต้องการก็ซ่อนอยู่ในความรู้สึก และบางครั้งคู่กรณีก็เจ็บปวดมากที่คนกลางต้องปฐมพยาบาล(ด้านจิตใจ)
ในการเจรจาที่เริ่มด้วยการต่อว่ากันไปมา คนกลางก็พยายามให้ทั้งสองฝ่ายหาความต้องการส่วนลึกออกมา
จนได้ความต้องการของสามี
ความต้องการของสามี สามี “รู้สึกกลัว ต้องการปกป้องครอบครัวเรื่องการเงิน”
ความต้องการของภรรยา ภรรยา “ต้องการความไว้วางใจ”
คนกลางอาจจะไม่เห็นด้วย แต่คู่กรณีเกิดความเข้าใจกัน
เมื่อทั้งคู่เข้าใจ ทราบความต้องการของกันและกันแล้ว เรื่องของวิธีการ ข้อตกลงที่จะพูดคุยกันต่อไปก็จะง่าย…และจบลงด้วยดี
« « Prev : “ศาสนเสวนา:สันติวิธีในวิถีชีวิต” (1)
ความคิดเห็นสำหรับ "“ศาสนเสวนา:สันติวิธีในวิถีชีวิต” (2)"