ปรองดอง
อ่าน: 14389เข้าเยี่ยม facebook ของสถาบันพระปกเกล้า แนะนำให้ไปดู ก้าวแรกรัฐบาล “ยิ่งลักษณ์”…เดินหน้าปรองดอง ? ในรายการ Intelligence มี
พลเอก เลิศรัตน์ รัตนวานิช อดีตสมาชิกวุฒิสภา
พลเอก เอกชัย ศรีวิลาศ ผู้อำนวยการสำนักสันติวิธีและธรรมาภิบาล สถาบันพระปกเกล้า
คุณสมชาย หอมลออ จากคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (คอป.)
ดำเนินรายการโดยคุณจอม เพชรประดับ
ย่อๆนะครับ สนใจไปรับชมรับฟังเองนะครับ
พลเอก เลิศรัตน์ รัตนวานิช…
การจะปรองดองคงต้องดูเหตุการณ์ทั้งหมดซึ่งแบ่งเป็น 3 ระยะ
ระยะแรกตั้งแต่มีรัฐธรรมนูญ 2540 จนถึงมีการปฏิวัติ ในปี 2549
ระยะที่ 2 ตั้งแต่หลังการปฏิวัติ รัฐบาลสมัยนายกฯ สมัคร นายกฯ สมชาย
ระยะที่ 3 ตั้งแต่รัฐบาลนายกฯ อภิสิทธิ์ จนถึงปัจจุบัน
การปรองดองก็มี 2 แนวทางหรือทฤษฎีง่ายๆ คือลืมซะให้หมด กับจัดการให้ยุติธรรมให้หมด ซึ่งก็เป็นที่ถกเถียงกันอยู่ทั่วโลก
พลเอกเอกชัย ศรีวิลาศ
กลุ่มที่มีปัญหาเรียกร้องเรื่องต่างๆมีมาก มีอยู่เดิมแล้ว และยังไม่ได้รับการแก้ไข เยียวยา
กลุ่มใหม่ก็มีอีกหลายกลุ่มที่แนวคิดแตกต่างกัน เป็นปัญหาข้อขัดแย้งทางการเมืองอยู่ในปัจจุบัน
ในการที่จะปรองดองคงต้องหาความจริงก่อน แต่มักจะใช้เวลานานมาก ในต่างประเทศ บางกรณีใช้เวลาหลายสิบปี และใช้บุคลากรและงบประมาณมากมาย เพราะจะมุ่งหารากเหง้าของปัญา รวมทั้งแนวทางป้องกันที่จะไม่ให้เกิดขึ้นอีก
แต่ความจริงประเทศไทยก็มีองค์กรต่างๆหลายองค์กรที่แยกกันทำงานแต่ก็มุ่งสู่จุดหมายเดียวกัน เช่น
คณะกรรมการปฏิรูป (คปร.) ซึ่งมีท่านนายกฯ อานันท์ ปันยารชุน เป็นประธาน
คณะกรรมการสมัชชาปฏิรูป (คสป.) ซึ่งมี ศ.นพ.ประเวศ วะสี เป็นประธาน
คณะกรรมการพิจารณาแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
คณะกรรมการรณรงค์เพื่อการปฏิรูปสื่อ (คปส.)
คณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (คอป.)
ถ้ารัฐบาลจริงใจก็สามารถนำข้อเสนอของคณะกรรมการที่ได้ศึกษาไว้เริ่มดำเนินการในส่วนที่ทำได้ไปเลย
คุณสมชาย หอมลออ
คณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ ได้ร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญต่างประเทศ และผู้เชี่ยวชาญจาก UN ทำการค้นหาความจริง
ต้องตรวจสอบค้นหาความจริง หาสาเหตุว่าเกิดจากอะไร ? สาเหตุของความขัดแย้ง คณะกรรมการไม่เชื่อทฤษฎีลืมให้หมด เพราะจะเกิดขึ้นอีกในอนาคต แต่ไม่ได้แปลว่าต้องลงโทษทั้งหมด แต่เป็นเรื่องของแสวงหาความจริงให้สังคมเข้าใจ เยียวยา ลงโทษ ให้ความยุติธรรม จะให้อภัยหรือนิรโทษกรรมก็ได้ แต่ประชาชนต้องมีความเข้าใจ
การปรองดองต้องให้มีส่วนร่วม ความเห็นชอบจากทุกภาคส่วน เงื่อนไขที่สำคัญ 3 ประการของการปรองดองที่ยั่งยืนและถาวร คือ
- ความจริง ต้องตรวจสอบค้นหาความจริง แม้จะมีบางฝ่าย บางคนต้องเจ็บปวด
- ความยุติธรรม ให้ความยุติธรรมกับคนที่ถูกคุมขังอยู่ ที่เสียชีวิต บาดเจ็บล้มตายไป มีการเยียวยาซึ่งมีการลงโทษ การขอโทษ การชดเชย การให้อภัย
- การปรับปรุง มีการปรับปรุงทั้งด้านโครงสร้าง พรรคการเมือง กองทัพ ระบบราชการ กลไกความยุติธรรม ฯ
ในเรื่องของการปรองดอง คณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (คอป.) เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่จะสอบสวนหาข้อเท็จจริงเท่านั้น
พลเอก เอกชัย ศรีวิลาศ
รัฐบาลต้องมีความจริงใจในเรื่องนี้ จนทำให้ประชาชนเกิดความเชื่อมั่น ที่ผ่านมารัฐบาลไม่ได้นำเอาสิ่งที่คณะกรรมการทั้ง 5 ชุดที่แต่งตั้งขึ้นมาทำให้เกิดความเชื่อมั่นเลย
พลเอก เลิศรัตน์ รัตนวานิช
รัฐบาลต้องตั้งหน่วยงานหรือคณะกรรมการที่ทำหน้าที่ปรองดองโดยตรงขึ้นมา เพราะ คอป. เป็นแค่ Fact Finding Committee
คณะกรรมการหรือหน่วยงานนี้รัฐบาลใหม่ไม่ควรตั้งเอง ต้องให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมเพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นแลัเป็นที่ยอมรับของประชาชน
ต้องหา Model ที่ทุกฝ่ายยอมรับ
การปรองดองขึ้นอยู่กับการกระทำของรัฐบาล ต้องสร้างบรรยากาศของความปรองดอง ตั้งแต่การเข้าสู่อำนาจอย่างพอเหมาะพอสม ไม่แสดงความยิ่งใหญ่เกิน
การแต่งตั้งบุคลากรเข้ามาทำงาน ต้องเป็นบุคลากรที่ประชาชนยอมรับ
การแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ ให้มีความเป็นธรรม
มุ่งแก้ปัญหาเศรษฐกิจและเดินหน้สาเรื่องปรองดองไปด้วย
คุณสมชาย หอมลออ
ประเด็นนิรโทษกรรมเป็นเรื่องของการทำให้เกิดความยุติธรรม ทุกฝ่ายต้องได้รับความยุติธรรม
ประเด็นนิรโทษกรรมเป็นเพียงประเด็นหนึ่งของการปรองดอง
อย่าคิดว่าเสียงคนรากหญ้าเป็นเสียงนกเสียงกา ยุคสมัยได้เปลี่ยนไปแล้ว
ถ้าสนใจก็รับชมรับฟังเองดีกว่านะครับ อิอิ
แนะนำบทความ ประจักษ์ ก้องกีรติ: ความยุติธรรมในระยะเปลี่ยนผ่าน: เมื่อโลกไม่หันหลังให้โศกนาฏกรรม ของ อาจารย์ ดร. ประจักษ์ ก้องกีรติ ก็มีประเด็นการปรองดองและประเด็นนิรโทษกรรมที่น่าสนใจครับ
« « Prev : สันติวิธี
ความคิดเห็นสำหรับ "ปรองดอง"