จากเรื่องที่อยากพูด สู่เรื่องที่อยากเขียน
อ่าน: 3029ห่างเหินจากการเขียนบันทึกในลานปัญญามามากกว่าหนึ่งเดือนแล้ว คงไม่พยายามหาเหตุผลแก้ตัว แต่หลังจากที่พบว่าหมอเจ๊กับเจ๊ถังขยันเขียนบันทึก เลยมีความรู้สึกอยากเขียนมั่ง (ความรู้สึกอายน้อยลง อาจเป็นเพราะด้านมากขึ้นหรือวางได้ก็ไม่รู้)
ระยะหลังนี้เวลาอ่านหนังสือ ดูโทรทัศน์ นั่งคุยกันหรืออ่านบันทึก ถ้าเจอคำพูดเด็ดๆก็จะรีบจดเอาไว้ แล้วเอามารวบรวมไว้เป็นเรื่องที่อยากพูดเวลาต้องไปพูดให้คนฟัง แต่จะปรับเป็นเรื่องที่อยากฟัง คือคนฟังเลือกเองว่าอยากฟังเรื่องอะไร ปนๆไปกับเรื่องที่อยากพูด อิอิ
นักการอิ่มรวบรวมเรื่องที่เขียนบันทึกไว้ในลานปัญญา ได้เป็นหนังสือเรื่องที่อยากป่วนมาเล่มนึง ตอนนี้เลยนึกอยากเขียนบันทึกในแนวเรื่องที่อยากพูด แต่คงเปลี่ยนไปเป็นเรื่องที่อยากเขียนแทน
แล้วประเดิมด้วยเรื่องอะไรดีล่ะ
เอาเรื่อง ป่วน ประตูสู่การพัฒนาตัวเอง (อาจจะเป็นชื่อของหนังสือเล่มใหม่ก็ได้นะ) ดีกว่า
ระยะหลังนี้ก็เริ่มสนใจเรื่องการพัฒนาบุคลากร ได้แนวคิดจากท่านนายกเทศมนตรีนครพิษณุโลก(เปรมฤดี ชามพูนท) เพราะท่านให้แนวคิดว่า
การพัฒนาองค์กรคือการพัฒนาคน
การพัฒนาคนคือการพัฒนาตัวเอง
การพัฒนาตัวเองคือการพัฒนาจิตใจ
อาจารย์ ดร.วรภัทร์ ภู่เจริญแบ่งความรู้เป็น Hardside กับ Softside
Hardside ก็หมายถึงความรู้ด้านทฤษฎี การบริหาร การจัดการต่างๆ
Softside หมายถึงความรู้เกี่ยวกับด้านจิตใจหรือจิตวิญญาณ (Spiritual)
ด้าน Hardside มีการอบรมค่อนข้างมาก และส่วนใหญ่จะสนใจพัฒนาคนด้าน Hardside มากกว่า ยิ่งทำไปก็ยิ่งแข็ง ยิ่งงกๆ เค็มๆ ผู้บริหาร ฝ่ายบุคคล และคนส่วนใหญ่ก็คิดว่าการที่ทีมงานไม่ค่อยดี คนไม่ค่อยมีคุณภาพเพราะขาดความรู้ทางด้าน Hardside ก็เลยเร่งพัฒนาด้านนี้ เลยทำให้งานไม่ค่อยได้ผล แถมคนเสียหาย บาดเจ็บทางด้านจิตใจมากขึ้นไปอีก
ปัญหาก็คือจะสื่อสาร จะพูดจา จะอธิบายให้คนเข้าใจได้อย่างไรว่า การพัฒนาด้านจิตใจหรือจิตวิญญาณ(Spiritual) หรือด้าน Softside ก็สำคัญมากเหมือนกัน ทำอย่างไรที่จะให้ผู้บริหารเข้าใจ ฝ่ายบุคคลที่ทำหน้าที่พัฒนาบุคลากรเข้าใจ และทำให้พนักงานแต่ละคนเข้าใจ
จากประสบการณ์ ผู้บริหาร ฝ่ายบุคคลและพนักงานก็มักจะเข้าใจว่าการพัฒนาบุคลากรก็เพียงจัดการอบรม(ส่วนใหญ่ก็เป็นด้าน Hardside) คล้ายๆเอาวิทยากรมาพูดๆๆๆๆๆ ให้ฟัง ให้เข้าใจในทฤษฎี เหมือนเป็นการชุบตัวให้ดีขึ้น แต่จะไม่สนใจที่จะทำกิจกรรมต่อเนื่อง เพราะไม่เข้าใจว่าการพัฒนาบุคคลกรที่ได้ผลจะต้องมีทีมวิทยกรภายในที่ช่วยจัดกิจกรรมที่ต่อเนื่อง การพัฒนาจึงขาดการต่อเนื่อง ไม่ประสบความสำเร็จ ไม่ยั่งยืน
ที่สำคัญอีกอย่างก็คือ ในการพัฒนาทีมงาน ต่างก็ไม่คิดว่าจะต้องพัฒนาตัวเอง แต่ละคนก็อยากให้เอาคนอื่นไปพัฒนา เพราะคิดว่าคนอื่นมีปัญหาการทำงาน ตัวเองไม่มีปัญหาและไม่ใช่ปัญหาในการทำงาน
โจทย์ก็คือจะทำอย่างไรให้คนยอมรับว่าต้องพัฒนาตัวเอง และต้องเพิ่มการพัฒนาด้านจิตวิญญาณ (Spiritual) หรือ Softside ควบคู่กันไปด้วยกับการพัฒนาด้านHardside
นั่นก็คือจะกระตุกอย่างไร ? จะป่วนอย่างไร ? จึงจะสามารถสะกิดให้คนเอะใจขึ้นมาได้ว่า ถ้าอยากให้หน่วยงานของตัวเองดี ก็ต้องพัฒนาหน่วยงานตัวเอง ไม่ใช่ไปโทษหน่วยงานอื่นเขา
จะพัฒนาหน่วยงานตัวเอง ทุกคนก็ต้องพัฒนาตัวเอง รวมทั้งพัฒนาด้านจิตใจหรือด้านจิตวิญญาณด้วย
ป่วนให้ยอมรับสองเรื่องนี้ให้ได้ก่อน แล้วค่อยเริ่มว่าทำอย่างไร ? เพราะถ้ายังไม่ยอมรับว่าทำไมต้องทำสองเรื่องแล้ว ทำไปก็เสียเวลาเปล่า หงุดหงิดกันทุกๆฝ่ายด้วย อิอิ
Next : เรื่องของจอมป่วนตอนที่ 1 ได้อะไรจากสวนป่า? » »
3 ความคิดเห็น
สวัสดีค่ะ คุณหมอจอมป่วน สัปดาห์นี้หอสมุดเชิญวิทยากรมาพัฒนาบุคลากรอีกแล้วค่ะ
อ่านแล้วนะคะ หนังสือ อ่านเกือบจบแล้ว สนุก ราวกับว่าอ่านนิตยสาร
เพิ่งรู้ว่าคุณหมอทำอะไรบ้าง
อีกอย่างต้องยืมแนวคิดการจัดอบรม ไปพอประดับความรู้บ้างแล้ว ขอลอกๆๆๆๆ หน่อยนะคะ อิอิ
ขอบคุณค่ะคุณหมอที่เขียนบันทึกดีๆ จะเร่งพัฒนาจิตใจตัวเองค่ะ