ข้อยไปแอ่วลาวมา ม่วนหลาย
อ่าน: 2610ช่วงที่ผ่านมานับว่าเดินทางค่อนข้างมาก เริ่มจากการเดินทางจากพิษณุโลกไปอุดรฯ แล้วไปดูการเตรียมพร้อมเป็นเจ้าภาพกีฬาซีเกมส์ของลาวที่นครเวียงจันทร์ แล้วกลับมาประชุมเรื่องหลักประกันสุขภาพซึ่งจัดโดยสมาคมสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทยที่อุดรฯ
เสร็จจากการประชุมที่อุดรฯ ตอนเย็นก็แว๊บไปพบปะทักทายกับทีมงานบลูอิมเมจของน้าแป๊ดที่มวกเหล็ก เสร็จจากมวกเหล็กก็ไปนอนกินผักที่สะตึก แล้วไปนอนที่อำเภอประโคนชัยเพื่อทอดกฐินของป้าจุ๋ม
กลับจากประโคนชัยก็เปลี่ยนกระเป๋าออกเดินทางไปเกาะช้าง ไปทำงานในฐานะวิทยากรช่วยเรื่องการจัดการขยะแบบมีส่วนร่วมให้กับเกาะช้างและพื้นที่ใกล้เคียง การเดินทางก็หนักหนาพอสมควร เดินทางออกจากบ้านถึงที่พักที่เกาะช้างก็ประมาณ 10 ชั่วโมง (กลับอีก 10 ชั่วโมงครับ พี่น้อง..)
เล่าเรื่องที่ลาวดีกว่าครับ
ลาวจะเป็นเจ้าภาพในการจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ครั้งที่ 25 หรือซีเกมส์ 2009 โดยจะจัดขึ้นที่นครเวียงจันทร์ ในวันที่ 9-18 ธันวาคม 2552 การจัดการแข่งขันครั้งนี้ลาวได้รับความช่วยเหลือจากจีนเป็นเงิน 100 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ หรือประมาณ 3600 ล้านบาทเพื่อก่อสร้างสนามกีฬาแห่งชาติขึ้นมาใหม่
การจัดครั้งนี้ไม่มีหมู่บ้านนักกีฬา เจ้าหน้าที่นักกีฬาชาติต่างๆและผู้สื่อข่าวต้องจองโรงแรมในนครเวียงจันทร์ซึ่งก็มีอยู่ไม่มากนัก บางส่วนโดยเฉพาะอย่างยิ่งทีมเจ้าหน้าที่และนักกีฬา ผู้สื่อข่าวจากประเทศไทยอาจต้องพักในประเทศไทยแล้วเดินทางไปแข่งขันในลาว เช่นที่หนองคายหรือที่อุดรธานี เพราะใช้เวลาเดินทางไม่มากนัก แถมยังมีสนามฝึกซ้อมอีกด้วย
ฟังจากหนุ่มลาวคนขับรถตู้พาเที่ยว จบบริหารธุรกิจด้านการบัญชี เคยเป็นนายทหารยศร้อยตรีของลาว แต่ลาออกมาดำเนินกิจการรถตู้ของครอบครัว เล่าให้ฟังว่าทางจีนมีเงื่อนไขในการให้ความช่วยเหลือลาวแลกกับสัญญาเช่าที่ดินเป็นระยะเวลาห้าสิบปีในเวียงจันทร์เพื่ออพยพชาวจีนมาลงทุนในลาวสามหมื่นครอบครัว (คำนวณดูอย่างน้อยๆก็แสนคน) เขาใช้คำว่าทีดินที่เช่าเดิมเป็นหนองบึง กว้างขวางสุดสายตา
นึกถึงที่เฮียเหลียงเล่าให้ฟังว่า ที่สามเหลี่ยมทองคำ เดิมมีแต่คาสิโนฝั่งพม่า แต่ปัจจุบันจีนมาเช่าที่ดินระยะยาวลงทุนคาสิโนและย่านการค้าทางฝั่งลาว ใกล้จะเปิดดำเนินการแล้ว มีการก่อสร้างมากมายรองรับชาวจีนหลายพันหรือหลายหมื่นครอบครัว คล้ายกับเนรมิตให้เป็นเมืองใหม่เมืองหนึ่งเลย……….อนาคตของลาวจะเป็นอย่างไรหนอ ?
ฟังจากหนุ่มลาวซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่รู้สึกจะโปรเวียตนามมากกว่าจีน เขามีความรู้สึกว่าจีนเอาเปรียบลาวมาก สู้เวียตนามซึ่งเป็นสหายสงครามร่วมรบกันมาไม่ได้
ส่วนไทยเรารู้สึกว่าบทบาทของเราในภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ไม่ดีเอาเสียเลย ไล่มาตั้งแต่สิงคโปร์ มาเลเซีย พม่า ลาว เวียตนาม เขมร ความสัมพันธ์ของเรากับเพื่อนบ้านไม่สู้จะดีนัก ไม่ทราบว่าเกิดจากอะไร ทั้งๆที่เราอยู่ในพื้นที่เดียวกัน นั่งคุยกับครูบา ท่านก็มีความเห็นว่า นึกๆดูถ้าเราเป็นเขา เราให้เครื่องบินอเมริกามาใช้บ้านเราเป็นฐานทัพบินเอาลูกระเบิดไปหยอดที่บ้านเขา เขาก็คงไม่ชอบเรา บรรยากาศแบบนี้ ถ้าไม่แก้ไข ในระยะยาวคงไม่เป็นผลดีกับประเทศไทยเราแน่ๆ
แหม….ว่าจะเล่าเรื่องไปแอ่วลาวม่วนๆ ไหงดันวกมาตรงนี้ได้ก็ไม่รู้ ? อิอิ
ลุงเปลี่ยน…..ถ้าข้อมูลของข้อยคลาดเคลื่อนช่วยแก้ไขให้ด้วยนะครับ
« « Prev : ออกกำลังกาย ออกกำลัง(จิต)ใจ
2 ความคิดเห็น
ลาวเรียกเวียดนามว่ามหามิตร เพราะร่วมต่อสู้ปลดปล่อยกอบกู้อิสรภาพจากฝรั่งเศส สมัยนั้นเวียดส่งกองทหารมาช่วย ลาวก็ส่งคนไปฝึกการรบจากเวียดนาม
แต่ของไทยสมัยนั้น เป็นยุค “เชื่อผู้นำ” ที่ห้ามกินหมาก ท่านมีนโยบายกวาดล้างกองกำลังต่างชาติที่มาอาศัยฝั่งซ้ายแม่น้ำโขงเคลื่อนไหวกอบกู้เอกราช เฮ้อ
แถมยังไม่พอ หากไปเปิดหนังสือแบบเรียนประวัติศาสตร์ตั้งแต่ชั้น ป. ๓ เขาก็สอนนักเรียนแล้วว่า สักดินาสยาม มาตีลาวกี่ครั้งแต่ละคราวกวาดอะไรไปบ้าง (ก็เหมือนกับเด็กบ้านเราได้ท่องว่าพม่ายกมาตีไทยปีไหนทางไหนบ้าง)
แต่ไม่เป็นไรครับ อย่างน้อยตอนนี้วัยรุ่นลาวก็ พูดไทย ฟังเพลงไทย อิ อิ
ผมเพิ่มเติมให้บ้างเท่าที่รู้
การปลดปล่อยประเทศนั้น ทั้งลาวและเขมร ได้เวียตนามมาช่วย ยกกองทหารมาเลย ความผูกพันจึงมีสูงยิ่งตราบใดที่พรรคยังปกครองประเทศ ที่ชายแดนลาวติดเวียตนามตรงเมือง “ดองฮา” ลาวยกดินแดนให้เวียตนามในฐานะที่มาช่วยปลดปล่อย พื้นที่ส่วนที่ยกให้นั้นเป็นลาวเทิง ชนเผ่า ตอนนี้ยังพูดลาวอยู่เลย เป็นเขตดอยสูง
เรามีเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินไปสร้างโรงเรียน นำประสบการณ์โครงการหลวงไปขยาย ฯลฯ องค์พระเทพฯ ท่านก็ลงไปฟ้อนกับประธานประเทศ เสด็จทุกปี แค่นั้นไม่พอ รัฐต่อรัฐ ประชาชนต่อประชาชน ต้องทำมากกว่านี้ ไม่ใช่เห็นหน้าที่ไรก็ อ้ายน้อง อ้ายน้อง พูดจาเชิงดูถูกเขาว่าด้อยกว่า ประสบการผมครั้งหนึ่งไปกับอาจารย์มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งจากเมืองไทย เดินทางเข้าไปพร้อมกับนิสัยไม่ดี เช่นจะไปอ็อบสาวรำวงในโรงแรม ดีเสียว่าห้ามปรามกันไว้ ไม่งั้นเกิดเรื่องติดคุกแน่ เธอเหล่านั้นคือคุณครูที่มารายได้พิเศษ แต่ห้ามเกินเลยด้วยค่านิยมฝั่งไทย…..เคยตัว เธอเดินทางกลับบ้านด้วยการดูแลของตำรวจลับ..?????? เมื่อเวลา 4 ทุ่มตรง…นี่หลายปีมาแล้วนะครับ
ย้อนกลับไปลาวกับเวียตนาม ที่น่าสังเกตคือวันชาติลาวนั้น พิธีกรรมทางราชการนั้นมีผู้แทนชั้นสูงของเวียตนามมาคู่กับประธานประเทศ และประกอบพิธีด้วยกัน พร้อมมีคำอธิบาย สหายร่วมรบที่ฮักแพง…?? ถ้าเราไม่มีนโยบายสร้างสรรค์ดีดีกว่าปัจจุบันแล้วละก็ สหายร่วมรบย่อมสำคัญกว่า….